รวบแก๊งปล่อยเงินกู้นอกระบบ ขู่เด็ก 8 ขวบ ทวงหนี้แม่
11 ก.ย. 2563, 17:52
เมื่อวันที่ 11 ก.ย 63 เวลา 10.00 น ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พ.ต.อ.ชัชวรินทร์ บุนนาค ผกก.สภ.จอมทองเชียงใหม่ ทำการควบคุมตัว 2 ผู้ต้องหาแก๊งปล่อยเงินกู้นอกระบบ มาสอบปากคำและแถลงข่าวที่ห้องประชุมชั้นสองของโรงพัก พ.ต.อ.ชัชวรินทร์ บุนนาค ผกก สภ.จอมทองเชียงใหม่ เปิดเผยว่า พฤติการณ์กรณีจับกุมผู้ต้องหาร่วมกันให้กู้ยืมเงินโดยเรียกดอกเบี้ยเกินกว่ากฏหมายกำหนดและทวงหนี้ด้วยการข่มขู่ใช้ความรุนแรง ครั้งนี้ โดยเมื่อวันที่ 9 ก.ย.63 เวลาประมาณ 19.00 น. ได้มีนางสาวทอง (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 43 ปี อยู่หมู่ 10 ต.บ้านแปะ อ.จอมทองเชียงใหม่ เข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน สภ.ฮอดว่า เมื่อวันที่ 5 ก.ย.63 เวลาประมาณ 12.30 น.ได้มีชายไทยไม่ทราบชื่อจริงนามสกุลจริง จำนวน 2 คน ชื่อเล่นว่า นายบอยฯ กับนายเขียวฯ ขับรถยนต์กระบะ 4 ประตู สีดำ ทะเบียนคร่าวๆ 6312 เข้ามาหาที่บ้าน เพื่อทวงหนี้เงินกู้นอกระบบ ที่นางสาว อัญ (ขอสงวนนามสกุล) น้องสาวซึ่งเป็นมารดาของ ด.ช.อนุ (นามสมมุติ) ได้กู้ยืมเงินไป นายบอยและนายเขียว ได้ใช้วาจาข่มขู่ ด.ช.อนุ (นามสมมุติ) อายุ 8 ปีกว่า นางทองฯ เกรงว่าจะได้รับอันตรายต่อชีวิตและร่างกาย จึงได้มาลงบันทึกลงประจำวัน ที่ สภ.ฮอด ไว้เป็นหลักฐาน
ต่อมาเมื่อวันที่ 10 ก.ย 63 เวลาประมาณ 12.30 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.จอมทอง ได้ทราบเหตุจึงได้เดินทางไปพบนางสาวอัญ (ขอสงวนนามสกุล) มาราดาของ ด.ช.อนุ(นามสมมุติ) บ้านหมู่ 10 ต.บ้านแปะ อ.จอมทอง เชียงใหม่ เพื่อสอบถามรายละเอียดข้อเท็จจริงเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พอสรุปได้ใจความว่า เมื่อวันที่ 9 ส.ค.63 เวลาประมาณ 13.00 น. นางสาวอัญ (ขอสงวนนามสกุล) ได้ติดต่อนายบอย เพื่อขอกู้เงินนอกระบบ จำนวน 10,000 บาท นายบอยฯ ตกลงให้กู้โดยให้ผ่อนชำระเป็นรายวัน วันละ 500 บาท จำนวน 24 วัน รวมเป็นเงินที่ต้องชำระแก่นายบอยฯ จำนวน 12,000 บาท คิดดอกเบี้ย 24 วันคือ 2,000 บาท เป็นการคิดดอกเบี้ยเกินกว่ากฏหมายกำหนด นางสาวอัญ (ขอสงวนนามสกุล) ได้ผ่อนชำระมาโดยตลอด แต่บางครั้งหาเงินมาไม่ครบก็ขอจ่ายเพียงวันละ 300 บาท หรือ 200 บาทต่อวัน บางครั้งหาเงินไม่ได้ก็ขาดส่ง
จากนั้นเมื่อวันที่ 5 ก.ย 63 นายบอยฯ กับนายเขียวฯ ได้มาทวงหนี้จาก นางสาวอัญ (ขอสงวนนามสกุล) ซึ่งขณะนั้นไม่ได้อยู่บ้าน ไปทำงานที่อำเภอพร้าว แต่เจอ ด.ช.อนุ (นามสมมุติ) บุตรชายอายุ 8 ขวบ จึงได้พูดข่มขู่ว่า “ฝากบอกแม่ด้วยนะ ระวังจะไม่ได้ใช้เงิน จะตายเสียก่อน” โดยมีนางทอง (ขอสงวนนามสกุล) พี่สาวผู้เสียหายอาศัยอยู่ข้างบ้านซึ่งมีหน้าที่ดูแล ดช.อนุ (นามสมมุติ) ได้ยินการข่มขู่ดังกล่าวกลัวจะไม่ปลอดภัยจึงได้ไปแจ้งความ เพื่อเป็นหลักฐาน
หลังจากการตรวจสอบข้อเท็จจริงแล้ว จึงได้ให้นางสาวอัญ (ขอสงวนนามสกุล) และนางทอง (ขอสงวนนามสกุล) มาพบพนักงานสอบสวนเพื่อทำการสอบสวนข้อเท็จจริง ที่เกิดขึ้นพบว่าเป็นจริงตามที่ปรากฏตามสื่อ โดยนายบอยฯ และนายเขียวฯ ได้ทวงหนี้ด้วยการข่มขู่และใช้ความรุนแรงจริง จึงสั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวน ทำการสืบสวนติดตามจับกุมตัวบุคคลดังกล่าวมาดำเนินคดีตามกฏหมายต่อไป ต่อมาชุดสืบสวน สภ.จอมทองเชียงใหม่ ได้ไปจับกุมตัว นายนิพล ลายละเอียด หรือบอย อายุ 28 ปี ที่อยู่ หมู่ 1 ต.คลองวาน อ.เมือง จ.ประจวบคีรีขันธ์ ปัจจุบันพักอยู่ที่ อ.ดอยสะเก็ดเชียงใหม่ นายนิรุตติ์ แข่งขัน อายุ 30 ปี บ้านเดิมอยู่ หมู่ 2 ต.ตาลเตี้ย อ.เมือง จ.สุโขทัย ปัจจุบันพักอยู่ตัวเมืองเชียงใหม่ โดยจับกุมตัวได้เมื่อวันที่ 10 ก.ย 63 เวลาประมาณ 16.00 น.นำตัวส่ง พนักงานสอบสวน สภ.จอมทองเชียงใหม่ ดำเนินคดี 2 ข้อหา คือ “ร่วมกันให้กู้ยืมเงินโดยเรียกดอกเบี้ยเกินกว่ากฏหมายกำหนด,ทวงหนี้ด้วยการข่มขู่ใช้ความรุนแรงใช้วาจาที่เป็นการดูหมิ่นลูกหนี้”
จากการสอบปากคำ ผู้ต้องหาทั้งสองให้การรับสารภาพข้อหา ร่วมกันให้กู้ยืมเงินโดยเรียกดอกเบี้ยเกินกว่ากฏหมายกำหนด และให้การภาคเสธข้อกล่าวหา ทวงหนี้ด้วยการข่มขู่ใช้ความรุนแรง ใช้วาจาที่เป็นการดูหมิ่นลูกหนี้ ส่วนผู้เสียหายที่ถูกข่มขู่รวมทั้งญาติพี่น้อง ทางตำรวจได้ให้สายตรวจไปตรวจสอบเป็นระยะ เพื่อให้การดูแล และได้ประสานประชาสัมพันธ์ให้ผู้นำชุมชนและประชาชนได้ช่วยกันติดตามเฝ้าระวังบุคคลที่มีพฤติการณ์ปล่อยเงินกู้นอกระบบให้ระมัดระวัง ไม่ให้ตกเป็นเหยื่อของกลุ่มที่ปล่อยเงินกู้นอกระบบโดยต่อเนื่อง หากพบเห็นหรือถูกกระทำฯ ก็ให้แจ้งตำรวจทันที ทางตำรวจจะเข้าดำเนินการกับกลุ่มพวกนี้อย่างเด็ดขาด
อนึ่ง การปฏิบัติตามข้อสั่งการของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ, ตำรวจภูธรภาค 5, ตำรวจภูธรจังหวัดเชียงใหม่ และสถานีตำรวจภูธรจอมทอง ได้ดำเนินการสืบสวน ปรามปราม จับกุม การกระทำผิดเกี่ยวกับหนี้นอกระบบมาโดยตลอดตามที่ได้รับข้อมูลร้องเรียนทางไลท์ @อินทนนท์ 1 สายด่วน 191 1599 และข้อมูลร้องเรียนด้วยตนเองที่สถานีตำรวจ
ได้มีการตกลงมาบันทึกประนีประนอมสภาพหนี้ให้อยู่ในอัตราที่ถูกต้องตามกฎหมายทั้งสิ้น 23 ราย และดำเนินการจับกุม ดำเนินคดีผู้ที่ปล่อยเงินกู้นอกระบบโดยเรียกอัตราดอกเบี้ยที่สูงเกินกว่าที่กฎหมายกำหนดอันเป็นการเอาเปรียบประชาชน จำนวน 2 คดี และได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจชุดชุมชนมวลชนสัมพันธ์ ประชาสัมพันธ์ให้ผู้นำชุมชนและประชาชนติดตามเฝ้าระวังบุคคลที่มีพฤติการณ์ปล่อยเงินกู้นอกระบบให้ระมัดระวัง ไม่ให้ตกเป็นเหยื่อของกลุ่มที่ปล่อยเงินกู้นอกระบบโดยต่อเนื่อง
Recommend News
MOST POPULAR
