รพ.สระบุรีแน่น ต้องซักประวัติคนไข้ใหม่ วอนขอแฮกเกอร์ อย่าฆ่าคนป่วยทั้งเป็น
11 ก.ย. 2563, 19:59
กรณีมีผู้บุกรุกไวรัสเจาะฐานข้อมูลระบบสารสนเทศโรงพยาบาลสระบุรีเพื่อเรียกค่าไถ่ ทำให้แพทย์ พยาบาล เจ้าหน้าที่ไม่สามารถบำบัดรักษาผู้ป่วยที่เข้ามารับบริการได้อย่างเต็มสมรรถภาพ ส่งผลให้เกิดความล่าช้า ผู้มารับบริการเสียเวลาทั้งวัน เหตุเกิดตั้งแต่เช้ามืดวันที่ 5 ก.ย.63 ที่ผ่านมา กระทั่ง ขณะนี้โรงพยาบาลสระบุรีได้รับความกรุณาช่วยเหลือจากหน่วยงานต่างๆมากมาย อาทิ กระทรวง ดิจิตอล โดย ท่านรัฐมนตรีพุทธิพงษ์ ปุณกัณฑ์ จัดส่งทีมไซเบอร์ 1 ทึม สำนักงานตำรวจแห่งชาติส่งเจ้าหน้าที่ตำรวจ ปอท.เข้ามา พันธมิตร องศ์กรอื่นๆที่เกี่ยวข้องเข้ามาช่วยเหลือหลายหน่วยงาน จนถึงวันนี้ ทุกหน่วยงานยังคงช่วยเหลือและเร่งแก้ใขอยู่
ล่าสุด วันที่ 11 กย. ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่สังเกตการณื ที่โรงพยาบาล สระบุรี ยังพบว่ามีประชาชนยังคงต้องเดินทางมาใช้บริการต่อเนื่อง แต่ไม่มากนัก โดยเฉพาะทุกคนจะทราบดีว่าต้องมีเอกสารบัตรประชาชน ตัวยาหรือที่เกี่ยวกับการรักษาตัวใบยาต่างๆที่สามารถถามถึงประวัติการรักษาและได้ยาที่กินได้ เพราะจะสามรถบรรเทาการช้าและรวดเร้วของหมอ
ส่วนในขณะเดียวกัน ด้าน ผุ้สื่อข่าวได้ พบกับบรรยากาศการรอคิวและรอคอยการรักษาตัว ของผุ้ป่วย และญาติที่พามารักษาตัวในโรงพยาบาล ด้าน นาง บุญรวม งามคณะ อายุ 59 ปี ซึ่งพาแม่มาหาหมอที่โรงพยาบาล สระบุรี เผยว่า ตนอยากขอให้ให้คนร้ายที่เข้ามาแฮ็กข้อมูลหรือล็อกข้อมูลของโรงพยาบาลสระบุรี หรือที่มาเรียกค่าไถ่กับการปลดล็อกข้อมูลของโรงพยาบาลนั้น ตนอยากข้อร้องขอให้ปลดล็อดด้วยเพราะ ว่า การที่ คนร้ายทำลงไปนั้นมันรุ้สึกว่าเป็นการฆ่าคนใข้หรือมนุษย์ด้วยกัน เพราะ คนใข้บางคนต้องรอการรักษาตามขั้นตอนของแพทย์ ซึ่งข้อมูลประวัติหายไปการรักษาก็ยากลบากไม่รุ้ว่าจะกินยาอะไร รักษาต่อเนื่องแบบไหนเพราะที่ผ่านมาการรักษาจะมีข้อมูลในแต่ระคนไว้ ชึ่งหากข้อมุลการรักษาไม่มีต่อเนื่องอาจทำให้ถึงแก่ชีวิตคนได้ ตนจึงขอร้องคนร้ายให้ช่วยปลดล็อกด้วยเถอะอย่างทำเช่นนั้นเลย ซึ่งวันนี้ตนพอแม่มารอคอยตั้งแต่เช้าเพราะต้องดูประวัติการรักษาตัวใหม่และรอตัวยาใหม่
ขณะที่ ด้าน ป้า แต๋ว วัย 63 ปี โดยวันนี้ ตนมากับลูกสาว มาจาก อ. แก่งคอย จ. สระบุรี ซึ่งตนเอง เป็นโรคความดัน โรคเบาหวาน ป่วยมานานแล้ว หมอนัดมาพบ ตนเองยังต้องนำเอกสารตัวยา พร้อมเอกสารสำเนาตัวเองมาด้วย เพื่อที่จะมารอคิวในการรับยาและรักษาตัว โดยตนมาแต่เช้ามีด จนเที่ยงวันยังไม่ได้รับการเรียกตัวจากหมอ เพราะว่า ตนมองเห็นบรรยากาศในโรงพยาบาลนั้นวุ่นวายมาก ถึงแม่พยาบาลหมอ ผุ้ช่วย เจ้าหน้าที่จะเร่งให้บริการก็ตามก็ยังช้า เพราะติดขัดที่ทุกคนจะต้องมานั่งซักประวัติกันใหม่ เพื่อที่จะดำเนินการรักษาในแต่ระโรคและคนต่อไป บางตนต้องนอนรอบนเคียงกันเป็นแถว ตนเองเห็นรุ้สึกหดหู่ใจกับภาพนี้ ซึ่งตนเองอยากฝากวิงวอนคนร้ายที่ เข้ามาล็อกระบบคอมพิวเตอร์และแฮ็กข้อมูลของโรงพยาลไว้” ขอให้ปลอดออกมาเถอะ เพราะว่า การกระทำแบบนี้มันดูเสมือนว่า ฆ่าคนป่วยทั้งเป็นเลย อย่าทำเลยช่วย ปลดล็อกเถอะสงสารมนุษย์ที่รอคอยรักษาตัว(ยกมือไหวขอ) “ )