วันที่ 12 ก.ย. 63 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เกิดฝนตกหนักในพื้นที่ชายแดนไทย-เมียนมา อ.แม่สาย จ.เชียงราย โดยที่อุทยานแห่งชาติถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน (เตรียมการ) ต.โป่งผา เจ้าหน้าที่วัดปริมาณน้ำฝนในช่วงเช้าภายใน 1 ชั่วโมงได้กว่า 110 มิลลิเมตร ส่งผลทำให้น้ำป่าจากเทือกเขาดอยนางนอนทะลักเข้าเอ่อล้นเข้าท่วมตามพื้นที่ลุ่มต่างๆ รวมทั้งทะลักเข้าท่วมริมถนนพหลโยธินโดยเฉพาะบริเวณเขตติดต่อ ต.โป่งผา และ ต.เวียงพางคำ ตั้งแต่ถนนหน้าที่ว่าการ อบต.โป่งผา ไปจนถึงสี่แยกสถานีขนส่งผู้โดยสารอ.แม่สาย พื้นที่ ต.เวียงพางคำ โดยน้ำได้เอ่อล้นเพราะระบายผ่านท่อระบายน้ำไม่ทันทำให้ผู้ใช้รถใช้ถนนต่างนำรถฝ่ากระแสน้ำไปมาส่งผลทำให้การจราจรติดขัด

ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.แม่สาย และเทศบาล ต.เวียงพางคำได้เข้าไปดูแลการจราจรผ่านเส้นทางถนนพหลโยธินตลอดช่วงเช้าโดยเฉพาะก่อนถึงแยกสถานีขนส่งผู้โดยสาร อ.แม่สาย ระยะทางประมาณ 1 กิโลเมตร ระดับน้ำเข้าท่วมถนนลึกประมาณ 30 เซ็นติเมตร และลดช่องจราจรในช่วงที่น้ำขึ้นมากให้เส้นทางขาขึ้นเหลือเพียงช่องทางเดียว 

ทั้งนี้ พบว่าในช่วงสายเมื่อฝนหยุดระดับน้ำค่อยๆ ลดลงและคาดว่าจะกลับเข้าสู่ภาวะปกติในวันเดียวกันนี้แต่หากว่ามีฝนตกลงมาอีกก็อาจจะมีน้ำป่าจากเทือกเขาดอยนางนอนทะลักลงมาได้ทุกเมื่อ 

ล่าสุดนายประสงค์ หล้าอ่อน นายอำเภอแม่สาย ได้ให้เจ้าหน้าที่สำรวจเข้าไปดูแลพื้นที่ร่วมกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นแล้ว

นอกจากนี้ยังพบว่า มีน้ำท่วมขังบริเวณถนนทางเข้าวนอุทยานแห่งชาติถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน ต.โป่งผา อ.แม่สาย จ.เชียงราย โดยเฉพาะบริเวณจุดป้ายวนอุทยานแต่ไม่ท่วมถึงถนนทางเข้ายังสามารถใช้สัญจรไปท่องเที่ยวยังถ้ำหลวงได้ตามปกติ