กาญจนบุรี บรรยากาศท่องเที่ยวยังคงคึกคัก เช่นเดียวกับบริเวณด่านเจดีย์ ขนาดบรรยากาศในพญาตองซู เงียบหลังทางการประกาศห้ามออกจากเคหสถานยามค่ำคืน โทษฝ่าฝืนปรับ 5,000 จ๊าด ส่วนฝ่ายไทยยังเข็มการดูแลห้ามผ่านเด็ดขาด

วันนี้ ( 13 ก.ย. 2563 ) ผู้สื่อข่าว ONB news รายงานว่า บรรยากาศการท่องเที่ยวที่บริเวณสะพานไม้อุตตมานุสรณ์ ยังคึกคัก นักท่องเที่ยวยังให้ความนิยมเดินทางมาท่องเที่ยว แม้จะเพิ่งผ่านพ้นวัดหยุดยาว ช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยนักท่องเที่ยวใช้เวลาช่วงตอนเย็นถึงค่ำ เดินลงมาสัมผัส บรรยากาศสังขละบุรี ช่วงพระอาทิตย์ลับทิวเทือกเขาตะนาวศรี ชายแดนเมียนมา ซึ่งเป็นภาพที่สวยงาม พร้อมใช้เวลาเดินข้ามไปยังชุมชนบ้านวังกะ ถ่ายรูปเป็นที่ระลึก เนื่องจากเป็นช่วงเวลาที่อากาศเย็นสบายต่างจากช่วงกลางวันที่มีอากาศที่ร้อนกว่า ส่งผลให้บรรยากาศร้านอาหารตามโรงแรมที่พักต่างๆ มีนักท่องเที่ยวเดินทางมาใช้บริการเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะร้านอาหารบริเวณสะพานมอญ ซึ่งมีบรรยากาศที่เงียบสงบ สามารถมองเห็นสะพานในยามค่ำคืนที่สวยงามแปลกตากว่าในช่วงกลางวัน

ขณะที่บริเวณด่านเจดีย์สามองค์ ชายแดนไทย-เมียนมา พบว่ายังคงมีนักท่องเที่ยวเดินทางมาท่องเที่ยวและสักการะ เจดีย์สามองค์ ซึ่งเป็นสถานที่ที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ชาติไทย ตั้งแต่อยุธยา ต่อเนื่องมาถึงรัตนโกสินทร์ เนื่องจากเป็นเส้นทางเดินทัพที่สำคัญของกองทัพพม่าและไทยในอดีต

ขณะที่มีรายงานว่าสถานการณ์โควิด- 19 ในเมียนมา ทางการเมียนมาได้ยกระดับการป้องกันด้วยการประกาศพื้นที่ที่มีการระบาด ให้เป็นพื้นที่ควบคุมห้ามประชาชนออกนอกเคหสถานโดยไม่มีความจำเป็น โดยล่าสุดคำสั่งดังกล่าวได้ครอบคลุมพื้นที่ จ.ซาเองเซจี ซึ่งห่างจากพื้นที่พญาตองซูประมาณ 90 กม. โดยไม่อนุญาตให้มีการเดินทางเข้าออกนอกจากสินค้าอุปโภค บริโภค ขณะที่พญาตองซู ทางการได้ประกาศห้ามประชาชนเดินทางออกจากเคหสถานยามค่ำคืน โดยหากใครฝ่าฝืนมีโทษปรับ 5,000 จ๊าด ส่วนเจ้าหน้าที่สนธิกำลังร่วม ทหารชุดเฉพาะกิจลาดหญ้า กองพลทหารราบที่ 9 ค่ายสุรสีห์กาญจนบุรี ตำรวจ ตชด. และฝ่ายปกครอง เฝ้าดูแลห้ามประชาชนทั้งฝั่งไทยและฝั่งเมียนมา เข้าออกเด็ดขาด ป้องกันเชื้อไวรัสโควิด-19 ในระยะนี้