เมื่อเวลา 16.30 น. วันที่ 15 ก.ย.2563 ที่บริเวณด้านทิศตะวันตกจองป่าช้าสำนักสงฆ์ร่องหินลาด พื้นที่รอบต่อบ้านโนนทองหลางหมู่ 7 กับบ้านโนนไผ่งาม หมู่ 12 ต.สีชมพู อ.สีชมพู จ.ขอนแก่น เจ้าหน้าที่จากสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่8(ขอนแก่น)กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช พร้อมด้วยฝ่ายปกครอง กำนันผู้ใหญ่บ้าน และผู้ช่วย เข้าปิดล้อมป่าช้าดังกล่าวภายหลังพบหมีควายเข้าไปหลบซ่อนตัวอยู่ภายในและยังไม่รบร่องรอยออกจากป่าช้า โดยกำลังเจ้าหน้าที่ได้กระจายตามแนวรอบป่าช้าทั้งหมด เพื่อเฝ้าสังเกตการณ์ไม่ให้หมีออกนอกพื้นที่ป่าช้าแห่งนี้ไป ซึ่งมีเนื้อที่ประมาณ 200 ไร่ เพื่อรอให้ชุดยิงยาสลบและเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องทั้งหมดได้วางแผนเพื่อเปิดปฏิบัติการจับเป็นหมีควายอีกครั้ง คาดว่าจะเริ่มในรุ่งเช้าวันพรุ่งนี้ ซึ่งขณะนี้ จากการสอบถามนายอภิเดช หมื่นน้อย หัวหน้าอุทยานแห่งชาติน้ำพองบอกว่า หลังจากพบหมีควาย ซึ่งมีชาวบ้านและเจ้าหน้าที่เห็นพร้อมทั้งได้วิ่งไล่จนหมีคำรามขู่ใส่เมื่อช่วงเที่ยงที่ผ่านมาและสิ่งเข้ามาหลบในป่าช้า ซึ่งขณะนี้รอความพร้อมของเจ้าหน้าที่ทักๆชุดนำปืนยิงยาสลบเข้าจับเป็นหมีควายอีกครั้ง แต่คาดในวันนี้ยังไม่สามารถเข้าจับได้ เนื่องจากใกล้จะค่ำมืดแล้ว ขณะนี้รอติดตั้งตาข่ายทางด้านทิศเหนือและทิศตะวันออกเนื่องจากป่าแห่งนี้มีขนาดกว้างใหญ่ ตาข่ายที่มีจึงล้อมไม่เพียงพอ และจะนำกรงดักสัตว์เจ้ามาติดตั้งและใส่ขนุนสุกไว้ในกรงเพื่อล่อหมีมาติดกับ นอกจากนี้จะนำขวดเครื่องดื่มชูกำลังมาทำเป็นตะเกียงเชื้อเพลิงเพื่อจุดไฟ ตั้งเอาไว้รอบป่า เพื่อให้หมีได้กลิ่นไฟไม่กล้าออกมา และจะมีการเปิดปฏิบัติการจับเป็นหมีควายอีกครั้งเมื่อทักอย่างพร้อม โดยขณะนี้ยังทำได้เพียงบล็อกหมีไม่ให้ออกจากป่าช้าเท่านั้น พร้อมตรวจสอบร่องรอยหมีเป็นระยะ

 

พร้อมกันนี้ผู้สื่อข่าวยังได้ลงพื้นที่ไปยังไร่มันสำปะหลังของนางสุบรรณ สัมพันธ์ อายุ 70 ปี ชาวบ้านทองหลาง หมู่ 7 ต.สีชมพู อ.สีชมพู จ.ขอนแก่น เจ้าของไร่มันสำปะหลังที่หมีควายเข้ามานอนอยู่ในไร่ เล่าให้ผู้สื่อข่าวฟังว่า เมื่อช่วงเที่ยงวันนี้ตนเองได้พาเจ้าสไปร้ สุนัขพันธุ์ลาบราดอร์ที่เลี้ยงไว้ มาอาบน้ำอยู่กระต๊อบในไร่มันสำปะหลัง เพราะเพิ่งใส่ปุ๋ยให้มันสำปะหลังเสร็จ ขณะที่อาบน้ำให้เสร็จแล้ว เดินไปล้างมือที่โอ่ง เจ้าสไปร้ได้เห่าขึ้นมาตนเองจึงหันไปมองทางไร่มันฯ พบหมีควายตัวใหญ่มาก ยืนทำท่าเหมือนจะกระโดดตะครุบ โดยเจ้าสไปร้เห่าได้ประมาณ 3 ครั้ง ตนเองจึงรีบวิ่งหนีหมี เพราะกลัวมาจะถูกหมีเข้าทำร้าย ขณะนั้นตกใจกลัวหมีมากวิ่งสุดชีวิตและห่วงหมากลัวหนีหมีไม่ทัน ก่อนจะแจ้งกำนันให้ทราบและก็มีเจ้าหน้าที่เข้ามาตรวจสอบ พร้อมกับไปดูตรงที่เจอหมี เห็นมูลหมีที่ทีการกินหมากบกเข้าไป และร่องรอยการนอนใกล้กับมูลของหมี ซึ่งขณะที่สุนัขของตนเองเห็นหมีนั้น ต่างฝ่ายต่างกลัวกัน หมาก็กลัวหมี หมีก็กลัวมา โดยหมาเห่าหมี ขณะที่หมีตั้งท่าจะเข้าจู่โจมหมา ด้วยความกลัวว่าหมาจะถูกหมีทำร้ายจึงรีบเรียกหมาให้วิ่งหนีหมี แล้วก็วิ่งหนีหมีไปกับหมา