ยังไม่สำเร็จ!ชุด "ไกรทอง" ลุยคลองเกาะผีคืนแรก จระเข้ฉีกอวนขาดมุดหนี
16 ก.ย. 2563, 08:34
ผู้สื่อข่าว ONB news รายงานว่าเมื่อช่วงค่ำที่ผ่านมา(15 ก.ย.63 )ที่ลานชุมชนสะพานหิน ม.1 ต.วิชิต อ.เมืองภูเก็ต เจ้าหน้าที่กรมประมง นำโดย นายนิคม สุขสวัสดิ์ เจ้าหน้าที่จากศูนย์ป้องกันและปราบปรามประมงน้ำจืดภาคใต้ จ.สุราษฏร์ธานี หรือ ไกรทองลุ่มน้ำตาปี พร้อมด้วยนาย นายนรินทร์ มีวงศ์ ประมงจังหวัดภูเก็ต นายประเสริฐ ทองสมบูรณ์ ประมงอำเภอเมืองภูเก็ต เจ้าหน้าที่และชาวบ้านจากชุมชนคลองเกาะผี หมู่บ้านสะพานหิน รวมกว่า 10 นาย ช่วยกันนำอุปกรณ์ที่ใช้ในการจับจระเข้ประกอบด้วยไฟส่องสว่าง อวนตาข่าย บ่วง และน้ำดื่มลงเรือบริเวณท่าน้ำ ก่อนเดินทางเข้าไปตามคลองเกาะผี เพื่อไปยังจุดที่มีชาวบ้านพบเห็นจระเข้จระเข้ ซึ่งอยู่ห่างจุดลงเรือไปประมาณ 300 เมตร เพื่อทำการจับตัว
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่แบ่งการทำงานออกเป็น 3 ชุด ชุดแรกนำโดย นายนิคม สุขสวัสดิ์ ออกเดินทางไปล่วงหน้าโดยใช้เรือพายทำการส่องไฟสำรวจว่าจระเข้ออกหากิน หรือหลบอยู่ในบริเวณใด ก่อนที่ชุดที่ 2 และ 3 จะตามไปสนับสนุนด้วยเรือประมงพื้นบ้าน โดยเมื่อเจ้าหน้าที่ชุดแรกไปถึงจุดดังกล่าว ก็พบว่าจระเข้อยู่ในบริเวณใกล้เคียงกับจุดที่เคยพบ จึงขอกำลังสนับสนุนก่อนช่วยกันนำอวนตาข่ายเข้าล้อมรอบจุดที่คาดว่าจระเข้จะหลบอยู่ และบีบวงให้แคบลงเพื่อต้อนจระเข้ให้เข้าไปยังจุดที่ต้องการ แต่ปรากฏว่าจระเข้ได้ใช้พละกำลังจำนวนมากฉีกอวนตาข่ายจนขาดวิ่น และมุดออกไปได้ ก่อนจะดำหายไปในลำคลอง ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องปรับเปลี่ยนวิธีการในการค้นหา โดยพบว่าจระเข้ยังวนเวียนอยู่ในบริเวณใกล้เคียง แต่ไม่สามารถจับตัวได้ จนกระทั่งเวลาประมาณ 03.00 น.ซึ่งเป็นช่วงที่น้ำลงต่ำสุด เป็นอุปสรรคต่อการดำเนินการ จึงได้ยุติภารกิจชั่วคราวก่อนเดินทางกลับ
นายนิคม สุขสวัสดิ์ หัวหน้าชุด ไกรทองลุ่มน้ำตาปี เปิดเผยว่า จากการเข้าไปยังพื้นที่ครั้งนี้ สามารถพบเห็นจระเข้ได้อย่างชัดเจน แต่ยังไม่สามารถจับตัวได้เนื่องจาก อุปกรณ์ที่เตรียมไว้ยังไม่เหมาะกับสภาพพื้นที่ ส่งผลให้จระเข้สามารถหลบหนีไปได้ ประกอบกับจุดดังกล่าวเป็นจุดที่เชื่อมต่อกับทะเล มีน้ำขึ้น - น้ำลง ทุกๆ 3 – 4 ชม.มีเวลาในการดำเนินการค่อนข้างจำกัด เพราะการจับจระเข้ช่วงที่น้ำขึ้นจะจับง่ายกว่าช่วงที่น้ำลง ซึ่งเมื่อน้ำลงจะทำให้จระเข้ฝังตัวในดินโคลน ไม่โผล่ตัวให้เห็น จึงยากต่อการค้นหา อย่างไรก็ตามในช่วงสายวันนี้(16 ก.ย.63)จะมีการปรับเปลี่ยนอุปกรณ์ใหม่เพื่อให้สอดคล้องกัน ก่อนเข้าดำเนินการค้นหาและจับตัวใหม่ในช่วงค่ำ
ขณะที่ชาวบ้านหลายรายที่มารอชมการจับจระเข้หลายรายเปิดเผยเพิ่มเติมว่า จระเข้ตัวดังกล่าวน่าจะอยู่อาศัยมาไม่ต่ำกว่า 1 ปี เนื่องจากเคยพบเห็นจระเข้ตัวดังกล่าวตั้งแต่มีขนาดเล็ก จนกระทั้งล่าสุดมีขนาดความยาวเกือบ 2 เมตร โดยหลายครั้งก็พบเห็นแค่เสี้ยววินาทีขณะนอนอาบแดด บางครั้งก็สามารถขับเรือตามได้สักระยะก่อนมุดหายไป และจากคำบอกเล่าของชาวบ้านรายอื่นๆที่พบเห็น ระบุว่าเรือลำไหนที่ผ่านทุกวัน จนมันจำได้ หรือคุ้นเคยเสียงเรือลำนั้น จระเข้จะค่อยๆคลานลงน้ำ
อย่างไรก็ตามที่ผ่านมามีชาวบ้าน ชาวประมงหลายราย ที่พบเห็นจนไม่กล้าประกอบอาชีพ เช่น คนวางลอบดักปู ซึ่งที่ปัจจุบันยังไม่กล้าลงไปประกอบอาชีพจนสุดท้ายต้องหันไปทำอย่างอื่นแทน จึงต้องมุ่งหวังไปที่เจ้าหน้าที่ฯขอให้จับตัวได้โดยไว หากปล่อยไว้นานคิดว่าจะเสี่ยงเกิดอันตรายกับคนในชุมชน