"ไมค์ พิรัชต์" น้ำตาคลอ แถลงกลับปัญหา "ซาร่า" โดนหลอก ไปรอลูกไร้ตอบกลับ - เผยยอดเงินค่าดูแลที่ไม่เคยบอกใคร
16 ก.ย. 2563, 19:10
จากกรณี ไมค์ พิรัชต์ ดาราชายชื่อดัง และ ซาร่า คาซิงกินี เกิดปัญหากันเรื่องสิทธิ์การเลี้ยงดูลูก ซึ่งฝ่ายชายยื่นคำร้องต่อศาลเยาวชนและครอบครัวกลาง เพื่อขออำนาจปกครองบุตรร่วมกับ ซาร่า ขอให้ศาลพิพากษาให้เป็นบิดาชอบด้วยกฏหมาย แต่ทาง ซาร่า ได้ตั้งทนายขึ้นมาเพื่อสู้คดี สู้ไม่ให้ใครมาพรากลูกชายสุดที่รักไปจากแม่ ล่าสุดวันนี้ (16 ก.ย.63) ไมค์ พิรัชต์ ได้ให้แถลงข่าวเกี่ยวกับเรื่องนี้ โดยมีใจความถึงสาเหตุที่มา และะปัญหาที่เกิดขึ้นต่างๆ ดังข้อความด้านล่าง
ไมค์ เผยปัญหาใหญ่ที่ไม่พอใจมากๆ เป็นเหตุการณ์ใหญ่คือ ตนไปรอเก้อที่สนามบินวันที่ 8 ก.ค. ตนตั้งใจจไปรับลูกมาเป่าเค้กที่บ้านวันที่ 10 ก.ค. วางแผนไปรับลูกแล้วพามานอนบ้าน แล้วค่อยพาไปส่งสนามบินก่อที่จะกลับภูเก็ต ลงทุนใส่ชุดสไปเดอร์แมนไปหาใต้คอนโด รอนานเป็นชั่วโมงแต่ติดต่อไม่ได้ พอโทรหาซาร่าอ้างว่า ลูกต้องไปว่ายน้ำกับเพื่อน ยอมรับว่ารู้สึกไม่พอใจ ได้อยู่กับลูกแค่ไม่กี่นาที นอกจากนี้ลูกชายก็มีพฤติกรรมเปลี่ยน จากที่เคยบอกรัก จู่ๆ ไม่บอกรัก เหมือนผวา กังวล คอยมองคนที่อยู่ข้างหลังตน สุดท้ายก็ไปได้พาลูกไปเพราะเหมือนถูกบีบว่าลูกต้องไปว่ายน้ำกับเพื่อน
วันถัดมาซาร่า ติดต่อมาว่า จะมารับลูกไหม เลยถามเวลารับส่ง ซาร่าบอกประมาณ 1 ทุ่ม แต่วันนั้นติดงานเลยไม่ได้ไป เลยคิดว่าไฟท์บินน่าจะอยู่หลัง 1 ทุ่ม เลยไปดักรอที่สนามบินพร้อมกับเตรียมเป่าเค้ก ของขวัญ แต่ปรากฏว่ารอจนถึง 4 ทุ่มก็ไม่มีการตอบรับ มาทราบวันต่อมาหลังไปประชุมแถวที่ลูกเรียนเต้นว่า ลูกไม่ได้กลับเมื่อวาน ลูกเรียนเต้นเสร็จแล้วค่อยกลับภูเก็ต
ตลอดที่ผ่านมามีเรื่องสะสม พอมาเจอเรื่องนี้เลยทำให้เป็นฝางเส้นสุดท้าย ครั้งสุดท้ายที่โทรคุยกับซาร่าคือวันที่ 12 ก.ค. ตนเห็นลูกไปเรียน จึงสงสัยว่าทำไมต้องโกหก
เคยไปปรึกษาเรื่องเรียนเมื่อต้นปี ยอมรับว่าจ่ายไม่ไหวกับค่าเทอมราคาเกือบล้านตอนนี้ เพราะมีปัญหาเรื่องโควิด-19 ด้วย จึงปรึกษาให้หาโรงเรียนที่อื่น พร้อมกับหาโรงเรียนอื่นๆ มาให้เป็นตัวเลือก และเลือกโรงเรียนหนึ่งที่สอน 2 ภาษา ราคา 1.5 แสนบาท
มีการตกลงเรื่องเงินให้ช่วยๆ กัน แต่ไม่เคยได้คำตอบจากซาร่า และไม่รู้ว่าตอนนี้ลูกเรียนที่โรงเรียนอะไร เสียเงินไปกับเรื่องแบบนี้เยอะมาก เป็นเพราะไม่ได้รับคำตอบ
ยอมรับว่า พาลูกไปออกจากโรงเรียน เพราะโรงเรียนบอกว่าวันนี้วันสุดท้าย น้องพ้นสภาพการเป็นนักเรียนที่นี่ เงินประกัน 3 แสนจะไม่ได้คืน ตนจึงถามว่าถ้าจะรอแล้วให้ลูกเข้าไปเรียนใหม่ต้องเสียเงินไหม ทางโรงเรียนยินดีให้ไม่ต้องเสียเงินค่าแรกเข้า หลังจากนั้นก็คุยกับซาร่าเรื่องเรียน จะให้เรียนที่ไหน แต่ก็ไม่ได้คำตอบ ประกอบกับโรงเรียนใกล้เปิดเวลาไม่ทัน เลยต้องเสียเงิน 3 แสน
เรื่องห้องเช่า ที่บอกจะให้อยู่ราคา 4 พันบาท คำว่าคุณภาพชีวิตอยู่ที่คนจะตีความหมาย ตนเองได้วางแผนทั้งสถานที่ คอนโด โรงเรียน เจอคอนโดที่ราคาไม่แพง ตั้งแต่ 4,800 - 13,000 บาท ทุกที่ตนสามารถอยู่ได้ และลูกก็น่าจะอยู่ได้ มีทั้งสระว่ายน้ำ มีฟิตเนส ตนเสนอไปทุกอย่างแต่ไม่ได้รับคำตอบ
เรื่องคอนโด ทีเกิดดราม่า เป็นของพี่ชาย ตนได้ขอพี่ชายเช่าให้ลูกชายอยู่ ซึ่งได้ราคาที่ถูกกว่าเดิมนิดหน่อย ในช่วงโควิด-19 พี่ชาย ได้รับผลกระทบเลยมาขอให้ปล่อยห้อง ตนเห็นประจวบเหมาะกับย้ายโรงเรียน ได้ให้เวลา 2-3 เดือน แต่ตั้งแต่เกิดเรื่องต่างๆ ตนรู้ว่าซาร่ากลับภูเก็ต เลยกลับไปที่ห้องดูสภาพ ปรากฏเจอคนอื่นอยู่ในห้อง เป็นคนขับรถของซาร่า อายุ 40 กว่า เป็นสามีของป้าพี่เลี้ยงซาร่า ตนบอกพี่ชาย พี่ชายรู้สึกไม่โอเค เลยสั่งตัดคีย์การ์ด 5 วัน ตัดน้ำ แม้ว่าจะบอกมาขนของ แต่เหมือนอยู่กันเป็นสามีภรรยา โดยเฉพาะมีคนแปลกหน้ามาอยู่ พี่ชายตนรู้สึกตกใจ ส่วนคำตอบเรื่องคอนโดจากซาร่า ก็ยังไม่ได้คำตอบ และไม่เคยรู้เรื่องให้คนมาขนของด้วย
ยืนยันว่า ซาร่า ไม่คุยกับตนก่อนเกิดหมายศาล เจอล่าสุดวันที่ไปดักเจอลูกที่โรงเรียน ที่ผ่านมาก็คุยกันในทิศทางที่ดี แต่ไม่รู้สาเหตุเกิดจากอะไร ทำไมมีปัญหาเกิดขึ้นเรื่อยๆ เกิดความสงสัยว่าลูกเรียนที่ไหน
ตลอดเวลาที่ผ่านมา ตนจ่ายค่าใช้จ่ายให้ลูกชายทั้งหมด ตั้งแต่ค่าคลอด 4 แสนบาท ไม่เคยทำลายลักษณ์อักษร เพราะอยากให้พิสูจน์ที่การกระทำ ตนจ่ายค่าคนขับรถ ค่าพี่เลี้ยง ค่าประกันชีวิต ค่าเทอม เงินเดือน ค่าจัดวันเกิด และยังทำบัญชีฝากเงินให้ลูกชายเดือนละ 1 หมื่น ตลอด 24 เดือน
สาเหตุที่ไม่ได้เซ็นรับรองบุตร เป็นเพราะครั้งเก่าก่อน ซาร่าบอกให้เคารพในตัวเธอ รอให้ลูกโตเพื่อบอกว่าตนควรเป็นพ่อไหม ตนก็เคารพสิทธิ์ และคิดว่ามันแค่กระดาษใบเดียว ตนต้องการพิสูจน์ตัวเองมากกว่า เรื่องความคิดจะเอาน้องมาเลี้ยงไว้เองไม่มี เพราะต้องมีแม่กับพ่อ เรื่องข่าวซาร่าตั้งท้องอีกคนไม่ขอยุ่ง ไม่ใช่เรื่องของตน ขอให้ไปถามเจ้าตัวเอง
อย่างไรก็ตาม ไมค์ ได้ฝากข้อความถึง ลูกชายว่า "อยากจะบอกแม็กซ์ว่าเป็นเรื่องปกติ แดดดี้เป็นดารายังไงก็ต้องเจอแบบนี้ เราอยู่ในที่สว่าง เรื่องพวกนี้ก็หลีกเลี่ยงไม่ได้เลย แดดดี้เลือกอาชีพไม่ได้ เลือกเส้นทางนี้ การที่เป็นแบบนี้ ไม่อยากให้แม็กซ์เอาไปเป็นปม แม่และแดดดี้รักพี่แม็กซ์ที่สุดอยู่แล้ว แต่ปัญหาของผู้ใหญ่ก็แก้กันในวันนี้ก่อนที่แม็กซ์จะโตไปมากกว่านี้ แม็กซ์ไม่ต้องน้อยใจว่าทำไมต้องมาเจอเหตุการณ์แบบนี้ หลังจากนี้อยากให้แม็กซ์รู้ว่า ใครจะพูดอะไรจนวันตายแดดดี้ก็ไม่ทิ้งพี่แม็กซ์ แดดดี้จะไม่เปลี่ยนความคิดนี้ และถ้าวันนึงไม่ได้อยู่กับแม็กซ์ ที่ตรงนี้จะยังเป็นของพี่แม็กซ์ กลับมาได้ตลอด"
และยังฝากถึงซาร่าว่า "ผมไม่มีอะไรจะบอกเขาผ่านสื่อ ถ้าจะคุยกันก็คุยหลังบ้าน ให้ตอบไลน์ผมด้วย ถ้าเขาจ่ายค่าเทอมได้ผมก็ยินดีและอยากรู้ว่าลูกเรียนที่ไหน ผมไม่ได้ไปลดคุณภาพชีวิตเขานะครับ"