ปูพรมค้นหา "จระเข้" ป่าชายเลนคลองเกาะผี คืนที่ 2 ยังไร้เเวว คาดย้ายที่ซ่อนตัว
17 ก.ย. 2563, 15:09
ผู้สื่อข่าว ONB news รายงานความคืบหน้าปฏิบัติการค้นหาจระเข้ในคลอง ป่าชายเลนคลองเกาะผี ชุมชนสะพานหิน ม.1 ต.วิชิต อ.เมืองภูเก็ต เป็นวันที่ 2 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลาประมาณ 22.00 น.วันที่ 16 ก.ย.63 เจ้าหน้าที่ชุดไกรทองลุ่มน้ำตาปี จ.สุราษฏร์ธานี นำโดย นายนิคม สุขสวัสดิ์ พร้อมด้วยนายนรินทร์ มีวงศ์ ประมงจังหวัดภูเก็ต นายประเสริฐ ทองสมบูรณ์ ประมงอำเภอเมืองภูเก็ต เจ้าหน้าที่ และชาวบ้านชาวประมงจากชุมชนคลองเกาะผี หมู่บ้านสะพานหิน และชมรมเรือประมงกอจ้าน รวมประมาณ 15 นาย นำเรือ 4 ลำ พร้อมอวนและอุปกรณ์จับจระเข้ ลงเรือ 2 จุด จุดแรกที่ ลานชุมชนคลองเกาะผี และอีกจุดที่ ชมรมเรือประมงกอจ้าน ก่อนไปยังจุดที่พบจระเข้ซึ่งอยู่ห่างไปประมาณ 1 กม.เพื่อ ร่วมค้นหาติดตามตัว
ทั้งนี้ ก่อนการปฏิบัติงาน นายนิคม สุขสวัสดิ์ หัวหน้าชุดไกรทองลุ่มน้ำตาปี ได้นำธูปเทียนไปไหว้บูชาและขอขมา ศาลพ่อตา 3 หลัง ที่ตั้งอยู่กลางป่าชายเลน ตามความเชื่อของชาวบ้านระบุว่าเป็น เป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ของชาวบ้าน ชาวประมงก่อนออกหาปลา หรือสัญจรเรือผ่าน ก่อนจะใช้เรือพายขนาดเล็กที่ไม่มีเครื่องยนต์ ออกค้นหาจระเข้ โดยอาศัยความเงียบ ทั้งนี้จากการค้นหาทางเรือนานหลายชั่วก็ไม่พบวี่แววของจระเข้ คาดว่าจระเข้จะหลบเข้าไปยังป่าชายเลน จึงใช้อวนล้อมวางดักบริเวณร่องน้ำที่ตัดจากลำคลองเส้นหลักเข้าสู่ป่าชายเลน 3 จุด ซึ่งอยู่ใกล้เคียงจุดที่พบ พร้อมใช้เรือออกค้นหาไปยังพื้นที่ใกล้เคียงที่เชื่อมติดต่อกัน แต่ก็ไม่พบ
ขณะที่จุดวางอวนก็ไม่มีความเคลื่อนไหว จึงได้เปลี่ยนแผนเดินเท้าปูพรม เข้าไปภายในพื้นที่ป่าชายเลน ซึ่งต้องเดินลุยโคลนลึกประมาณ 1 เมตร เป็นระยะทางประมาณ 400 เมตร เพื่อติดตามตัวแต่ก็ไม่พบ จึงสลับกลับมาค้นหาทางเรือไปตามคลองเส้นเล็กๆที่ตัดกัน แต่กก็ยังไม่พบตัวอีกเช่นกัน กระทั่งถึงเวลาประมาณ 04.00 น.ซึ่งเป็นช่วงที่น้ำลงต่ำสุดเป็นอุปสรรคต่อการเดินเรือ จึงตัดสินใจยุติการค้นหา และเดินทางกลับ รวมใช้เวลาประมาณ 6 ชั่วโมง
นายนิคม หัวหน้าชุดไกรทองเปิดเผยว่า จากการค้นหาต่อเนื่องนาน 6 ชั่วโมง ไม่พบจระเข้ทั้งในน้ำ และบนบกแต่อย่างใด คาดว่าจระเข้จะเกิดอาการตื่นกลัว หลังจากที่คืนวันที่ 15 ต่อเนื่องถึงเช้าวันที่ 16 ก.ย.63 ที่ผ่านมาได้เข้าตรวจสอบและพยายามจับตัว และทำให้ย้ายไปยังจุดอื่น ซึ่งจะต้องหาข้อมูลเพิ่มเติมว่าย้ายไปอยู่จุดใด
ขณะที่นายนรินทร์ มีวงศ์ ประมงจังหวัดภูเก็ต กล่าวเพิ่มเติมว่า ขณะนี้เจ้าหน้าที่ฯและชาวบ้านได้พยายามเต็มที่ในการค้นหา แต่เนื่องจากพื้นที่ดังกล่าวเป็นพื้นที่ค่อนข้างใหญ่ รกทึบด้วยป่าโกงกาง มีลำคลองหลายสายเชื่อมต่อถึงกัน สามารถเป็นที่หลบซ่อนตัวของจระเข้ได้เป็นอย่างดี หลังจากนี้ว่า คิดว่าต้อง ใช้เครือข่ายชาวบ้านชาวประมงที่ใช้พื้นที่เป็นประจำทุกวันช่วยสอดส่องดูแล หากพบเบาะแสเกี่ยวกับจระเข้ ทางเจ้าหน้าที่ก็จะเข้าดำเนินการอีกครั้ง