เมื่อวันที่ 19 กันยายน 2563 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต อธิบดีกรมสุขภาพจิตและว่าที่ปลัดสธ. เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะกรรมการด้านการแพทย์และสาธารณสุขรองรับการชุมนุมทางการเมือง

นพ.เกียรติภูมิ กล่าวว่า ทางสธ. ได้เตรียมการรองรับกรณีดังกล่าวไว้ เนื่องจากได้รับรายงานว่าจะมีผู้เข้าร่วมกิจกรรมชุมนุมราว 25,000-50,000 คน ดังนั้น สธ. มีหน้าที่รับผิดชอบดูแลใน 3 ด้าน ได้แก่ ด้านที่ 1 การป้องกันและควบคุมโรค โดยเฉพาะโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา2019 หรือโควิด-19 ที่ถึงแม้ว่าประเทศสามารถป้องกันไว้ได้อย่างดี แต่ยังไม่ปลอดภัย และยังไม่เคยมีเหตุการณ์ที่ประชาชนเข้าไปอยู่รวมกันจำนวนมากๆ มาก่อน

สาธารณสุขได้เตรียมเจ้าหน้าที่ในการเข้าพื้นที่ ทำการคัดกรองอุณหภูมิร่างกายของผู้เข้าร่วมกิจกรรม เตรียมหน้ากากอนามัย เจลแอลกอฮอล์ล้างมือ อย่างละ 100,000 ชิ้น ไปแจกจ่ายให้กับประชาชน และขอให้ประชาชนได้เข้ามาแวะที่หน่วยบริการเพื่อคัดกรองร่างกายและรับแจกหน้ากากอนามัยด้วย

นพ.เกียรติภูมิ กล่าวว่า ขอแนะนำว่าประชาชนผู้ที่มีอาการของระบบทางเดินหายใจ มีไข้ ไม่ควรเข้าร่วมกิจกรรม และผู้ที่เข้าร่วมกิจกรรมทุกคน จะต้องปฏิบัติตน 3 หลักสำคัญคือ สวมหน้ากากอนามัย เว้นระยะให้ได้มากที่สุดและหมั่นล้างมือด้วยเจลแอลกอฮอล์ และในช่วงนี้มีฝนตกชุก อยากขอให้ประชาชนเตรียมสำรองหน้ากากอนามัยไปด้วย และขอให้แบ่งกลุ่มผู้เข้าร่วมเป็นกลุ่มย่อยให้มีจำนวนน้อยลง ประมาณ 20 คน เพื่อให้ง่ายในการติดตาม หากเกิดเหตุฉุกเฉินของโควิด-19 ขึ้น เพราะหากอยู่รวมกันถึง 50,000 คน จะทำให้การติดตามผู้สัมผัสได้ยากมาก

นพ.เกียรติภูมิ กล่าวต่อว่า ด้านที่ 2 การดูแลเรื่องโรคเจ็บป่วย ขอเน้นย้ำในผู้ที่มีโรคประจำตัว เช่น เบาหวาน ความดันโลหิต และอื่นๆ ขอให้เขียนรายละเอียดด้านสุขภาพและพกติดตัวไว้เสมอ หากเกิดภาวะฉุกเฉินด้านสุขภาพ เจ้าหน้าที่จะได้ช่วยเหลือได้อย่างรวดเร็ว ทั้งนี้ สธ.ได้เตรียมหน่วยบริการไว้ทั้งหมด 11 จุด อยู่ในบริเวณการจัดกิจกรรมในมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ 4 จุด และด้านนอกอีก 7 จุด เพื่อให้การช่วยเหลือด้านสุขภาพให้แก่ประชาชน และ ด้านที่ 3 การจัดหน่วยบริการส่งต่อ ทาง สธ.ได้ประสานงานกับโรงพยาบาล(รพ.) ภาครัฐ 10 แห่งและภาคเอกชน 10 แห่ง เพื่อเป็นหน่วยรับส่งต่อผู้ป่วยในกรณีมีการเจ็บป่วยฉุกเฉินขณะเข้าร่วมชุมนุม และสามารถใช้สิทธิตามนโยบายเจ็บป่วยฉุกเฉินวิกฤต มีสิทธิทุกที่ หรือ UCEP ได้ โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาล