วันนี้ ( 19 ก.ค.62 ) ที่ประชุมคณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญได้ประชุมปรึกษาพิจารณาคดีจำนวน 3 คำร้อง และมีมติรับคำร้องของ ส.ส.พรรคเพื่อไทย ที่ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยความเป็นรัฐมนตรี ของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี สิ้นสุดลงเฉพาะตัวหรือไม่ เนื่องจากเป็นบุคคลที่มีลักษณะต้องห้ามในการดำรงตำแหน่งรัฐมนตรี เพราะเป็น “เจ้าหน้าที่อื่นของรัฐ” โดยศาลรัฐธรรมนูญส่งสำเนาคำร้องให้ พล.อ.ประยุทธ์ ยื่นคำชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาต่อศาลรัฐธรรมนูญภายใน 15 วัน นับแต่วันที่ได้รับสำเนาคำร้อง แต่ยังไม่เข้าเงื่อนไขที่ศาลจะสั่งให้ พล.อ.ประยุทธ์ หยุดปฏิบัติหน้าที่ 

นอกจากนี้ ศาลรัฐธรรมนูญยังมีมติเสียงข้างมาก  5 ต่อ  4 รับคำร้องที่นายณฐพร โตประยูร ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่าการกระทำของพรรคอนาคตใหม่ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ นายปิยบุตร แสงกนกกุล และคณะกรรมการบริหารพรรคอนาคตใหม่ ใช้สิทธิและเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นพระประมุขหรือไม่ โดยคำร้องดังกล่าวผู้ถูกร้องได้ใช้สิทธิร้องต่ออัยการสูงสุด เพื่อขอให้ส่งคำร้องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยก่อนหน้านี้ แต่อัยการสูงสุดไม่ได้ดำเนินการภายใน 15 วัน ดังนั้น ผู้ร้องสามารถยื่นคำร้องโดยตรงต่อศาลรัฐธรรมนูญได้ ตามมาตรา 49 ของรัฐธรรมนูญ ทั้งนี้ศาลได้กำหนดให้ผู้ถูกร้องยื่นคำชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาภายใน 15 วัน นับแต่วันรับสำเนาคำร้อง

ศาลรัฐธรรมนูญยังกำหนดวันนัดอ่านคำวินิฉัย กรณีที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย ความเป็นรัฐมนตรีของ ม.ล.ปนัดดา ดิศกุล นายสุวิทย์ เมษินทรีย์ นายไพรินทร์ ชูโชติถาวร และนายแพทย์ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ สิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามรัฐธรรมนูญหรือไม่ กรณีถือครองหุ้นบริษัทสัมปทานรัฐ ในวันที่ 27 สิงหาคมนี้ เวลา 14.00 น.เนื่องจากศาลรัฐธรรมนูญ เห็นว่าคดีมีพยานหลักฐานเพียงพอที่จะพิจารณาวินิจฉัยได้  จึงไม่ทำการไต่สวน และหากคู่กรณีประสงค์ยื่นคำแถลงการณ์ปิดคดีเป็นหนังสือให้ยื่นต่อศาลรัฐธรรมนูญภายใน 15 วันนับแต่วันรับหนังสือแจ้ง

ขอบคุณ : สำนักข่าวไทย