สุดเศร้า ! "โลมาอิรวดีสีชมพู" ติดอวนชาวประมงตายทั้งกลม
21 ก.ย. 2563, 10:31
วันประมงแห่งชาติ สุดเศร้า โลมาสีชมพูสายพันธ์ุอิรวดี ติดอวนชาวประมง รัดแน่น ตายอืดลอยในทะเล หน้าสถานีตำรวจน้ำเกาะสมุย กรรมการชุมชน นำเรือหางยาวไปลากเข้าฝั่ง “สุดอึ้งพบว่า เป็นโลมาเพศเมียมีลูกอยู่ในท้อง ตายทั้งกลม” “ด้านกรรมการชุมชน สุดยั๊วะ เปิดเผยคนใจบาป เห็นแก่ตัว วางอวนทิ้งทำโลมาตาย วอนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งหามาตรการป้องกันเชื่อไม่ช้าออาจสูญพันธ์ุ”
เมื่อวันที่ 21 กันยายน 2563 ผู้สื่อข่าวได้รับการเปิดเผยจากนายสุธรรม สุรินทร์วรางกูล กรรมการชุมชน หมู่ 2 บ้านอ่างทอง ตำบลอ่างทอง อำเภอเกาะสมุย จังหวัดสุราษฎร์ธานี เปิดเผยว่า เมื่อช่วงเย็นวันที่ 20 กันยายน ที่ผ่านมา พบซากโลมาไม่ทราบเพศลอยอยู่ในทะเล บริเวณหน้าสถานีตำรวจน้ำเกาะสมุย จึงได้เดินทางไปจรวจสอบ พร้อมกับอาสาสมัครหน่วยกู้ภัยมูลนิธิกุศลสงเคราะห์เกาะสมุย ที่เกิดเหตุในทะเล พบโลมาลอยอยู่ในทะเเลห่างจากชายฝั่งประมาณ 100 เมตร
ทางนายสุธรรม กรรมการชุมชน จึงได้นำเรือหางยาวของชาวประมงชายฝั่ง ออกไปพร้อมนำเชือกมัดกับซากโลมา พร้อมชักลากกลับเข้าชายฝั่ง เพื่อทำการตรวจสอบ จากการตรวจสอบพบว่าตามลำตัวของซากโลมา พบว่ามีอวนในล่อนของชาวประมงติดพันรอบตัวโลมาจนแน่น ทางกรรมการชุมชน และอาสาสมัครหน่วยกู้ภัยมูลนิธิกุศลสงเคราะห์เกาะสมุย พร้อมชาวบ้าน จึงได้ช่วยกันนำมีดมาตัดอวนออกจากซากโลมา พบว่าอวนประมงที่ติดพันรอบโลมาจำนวนมาก
ในเบื้องต้นจากการตรวจสอบ พบว่าเป็นโลมาสีชมพู สายพันธ์ุอิรวดี เพศเมีย อายุประมาณ 10 ปี ความยาว 1.60 เซนติเมตร น้ำหนักประมาณ 100 -120 กิโลกรัม ตายมาแล้วปรมะมาณ 4-5 วันสภาพเริ่มเน่าเปื้อย และเป็นที่ “น่าสลดใจ “พบว่าภายในท้องของแม่โลมา พบว่าในท้องมีซากลูกโลมาตายอยู่คาท้องอีกด้วย”
ด้านนายสุธรรม สุรินทร์วรางกูล กรรมการชุมชน หมู่ 2 ตำบลอ่างทอง อำเภอเกาะสมุย เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวด้วยความรู้สึกโกรธ เมื่อพบว่าในท้องโลมามีซากลูกน้อย พร้อมกล่าวว่า พวกที่นำอวนประมงไปวางในทะเล ทำให้โลมาตาย เป็นคนเห็นแก่ตัว ไม่เห็นต่อส่วนรวม หากโลมาติดอวน สามารถช่วยชีวิตมันได้ ด้วยการตัดอวนทิ้งเพื่อช่วยเหลือ แต่นี่กลับปล่อยให้โลมาตาย และตัดอวนทิ้งทีหลัง ซึ่งโลมาเป็นสัตว์คุ้มครองและอนุรักษ์ เป็นสัตว์ที่สวยงาม เลี้ยงลูกด้วยนม นักท่องเที่ยวเห็นยังชอบใจเลย
ซึ่งอย่างเคสนี้ ตนเห็นแล้วสุดสงสาร ตนเชื่อว่า อวนดังกล่าวน่าจะเป็นอวนถ่วงของชาวประมง จึงอยากจะฝากไปถึงชาวประมงว่า ขอให้ช่วยกันรักษาธรรมชาติ และอย่าทำลายกันแบบนี้ ซึ่งหากปล่อยให้เป็นแบบนี้ ในอนาคต ลูกหลานจะไม่ได้เห็นโลมา พร้อมฝากไปถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เร่งหามาตรการ ทำความเข้าใจกับชาวประมง หากปล่อยไว้เเบบนี้ ตนเชื่อว่าในไม่ช้าโลมาชนิดนี้อาจสูญพันธ์ุ กรรมการชุมชน กล่าว ด้าน อาสาสมัครหน่วยกู้ภัยมูลนิธิกุศลสงเคราะห์เกาะสมุย ได้นำซากโลมา ตัวนี้จะนำไปขุดหลุมฝังพร้อมถ่ายภาพและส่งไปให้ เจ้าหน้าที่จากศูนย์วิจัยทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งอ่าวไทยตอนกลาง จังหวัดชุมพร มาตรวจสอบต่อไป
ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวว่า วันประมงแห่งชาติ ตรงกับวันที่ 21 กันยายน ของทุกปี เพื่อเป็นการสนับสนุนในการทำอาชีพประมง และเป็นที่ระลึก สร้างขวัญกำลังใจในการประกอบอาชีพของชาวประมงไทย แต่ที่น่าเสียดาย พบว่า สถิติการตายของโลมา ภายในอาทิตย์นี้ พบโลมาตายถูกคลื่นซัดลอยมาเกยชายหาดบนเกาะสมุยแล้ว ถึง 3 ตัว สำหรับโลมาเป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม ถือเป็นสัตว์คุ้มครอง และพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่าฉบับใหม่ ปี พ.ศ. 2562 มีบทลงโทษที่รุนแรงมากกว่าเดิม