ทนายอานนท์ งัดบทลงโทษแก๊งทวงหนี้โหด คลิปกระฉ่อนบุกกระชากตบถึงบ้าน
28 ก.ย. 2563, 10:47
ทนายอานนท์ เชื้อสัตตบงกช ได้ออกโพสต์เฟซบุ๊ก กรณีคลิปว่อนโซเชียลฯ บันทึกภาพทวงหนี้โหด ซึ่งถูกส่งมาเผยแพร่ในกลุ่มวงเงินหมุนบ้านแบง โดยอ้างว่าใครที่กู้ยืมเงินกลุ่มนี้ไปแล้วไม่จ่าย จะโดนศาลเตี้ย ซึ่งปรากฏภาพหญิงสาวถูกทำร้ายร่างกาย โดยพฤติกรรมแก๊งทวงหนี้กลุ่มนี้ จะปล่อยเงินกู้ราย 5 วัน และคิดดอกในอัตราร้อยละ 20% ต่อ 5 วัน หากส่งช้าจะถูกปรับรายชั่วโมง ชั่วโมงละ 50 บาท หากข้ามวันจะถูกปรับ 500 บาท เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นในเขตจังหวัดฉะเชิงเทรา ซึ่งขณะนี้แม่ของหญิงสาวที่ถูกทำร้าย ได้เข้าแจ้งความต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจแล้ว และอยู่ระหว่างการตรวจสอบเพื่อทำการจับกุมแก๊งปล่อยเงินกู้ดังกล่าว มาดำเนินคดีต่อไป
เรียกทุกข์ซ้ำกรรมซัด งานไม่มีเงินก็ไม่มี แถมต้องมาเจ็บตัวเพราะกู้เงินเขา คนเราเมื่อเข้าตาจน ดอกร้อยละร้อยก็ต้องเอา เพื่อหวังไปตายเอาดาบหน้า แต่การที่เจ้าหนี้ไปทำร้ายร่างกายลูกหนี้ เพื่อบังคับเอาดอกกับเขาแบบนี้ มันโหดเกินมนุษย์ เพราะถ้ามองตามกฎหมาย การเป็นหนี้ก็ต้องฟ้องร้องให้ศาลยึดทรัพย์มาใช้หนี้ แต่การไปใช้กำลังบังคับทำร้ายเขา เพื่อบังคับเอาเงินถือว่ามีความผิดฐานกรรโชกทรัพย์ และยังถือเป็นการทำร้ายร่างกายผู้อื่นด้วย
นอกจากนี้กฎหมายยังกำหนดเอาผิดฐานคิดดอกเบี้ยเกินกฎหมาย ตาม พรบ.ห้ามคิดดอกเบี้ยเกินอีกกระทง คิดจะปล่อยเงินกู้ช่วงนี้ก็ต้องดูสภาพเศรษฐกิจ เจอแบบนี้ไม่ต้องปล่อย เพราะไม่มีทางได้คืนแน่
ขอบคุณคลิป : ข่าวระยอง อ.บ้านค่าย
พรบ.ห้ามเรียกดอกเบี้ยเกินอัตรา
#มาตรา 4 บุคคลใดให้บุคคลอื่นกู้ยืมเงินหรือกระทําการใด ๆ อันมีลักษณะเป็นการอำพรางลักษณะการกู้ยืมเงิน โดยมีลักษณะอย่างใดอย่างหนึ่งดังต่อไปนี้ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสองปี หรือปรับไม่เกิน
สองแสนบาท หรือทั้งจําทั้งปรับ
(1) เรียกดอกเบี้ยเกินอัตราที่กฎหมายกําหนดไว้
(2) กําหนดข้อความอันเป็นเท็จในเรื่องจํานวนเงินกู้หรือเรื่องอื่น ๆ ไว้ในหลักฐานการกู้ยืมเงิน หรือตราสารที่เปลี่ยนมือได้ เพื่อปิดบังการเรียกดอกเบี้ยเกินอัตราที่กฎหมายกําหนด หรือ #ประมวลกฎหมายอาญา #มาตรา295 ผู้ใดทำร้ายผู้อื่น จนเป็นเหตุให้เกิดอันตรายแก่กาย หรือจิตใจของผู้อื่นนั้น ผู้นั้นกระทำความผิดฐานทำร้ายร่างกาย ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสองปี หรือปรับไม่เกินสี่หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
#มาตรา 337 "ผู้ใดข่มขืนใจผู้อื่นให้ยอมให้หรือยอมจะให้ตน หรือผู้อื่นได้ประโยชน์ในลักษณะที่เป็นทรัพย์สิน โดยใช้กำลังประทุษร้าย หรือโดยขู่เข็ญว่าจะทำอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย เสรีภาพ ชื่อเสียง หรือทรัพย์สินของผู้อื่นถูกขู่เข็ญ หรือของบุคคลที่สาม จนผู้อื่นถูกข่มขืนใจยอมเช่นว่านั้น ผู้นั้นกระทำความผิดฐานกรรโชก ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินห้าปี และปรับไม่เกินหนึ่งหมื่นบาท
ถ้าความผิดฐานกรรโชกได้กระทำโดย
(1) ขู่ว่าจะฆ่า ขู่ว่าจะทำร้ายร่างกายให้ผู้ถูกข่มขืนใจ หรือผู้อื่นให้ได้รับอันตรายสาหัส หรือขู่ว่าจะทำให้เกิดเพลิงไหม้แก่ทรัพย์ของผู้ถูกข่มขืนใจหรือผู้อื่น หรือ
(2) มีอาวุธติดตัวมาขู่เข็ญ
ผู้กระทำต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่หกเดือนถึงเจ็ดปี และปรับตั้งแต่หนึ่งพันบาทถึงหนึ่งหมื่นสี่พันบาท"