"วัดเภาเคือง" อ.เชียรใหญ่ เมืองคอน ขอเชิญร่วมทอดกฐินสามัคคีหารายได้พัฒนาวัด 18 ต.ค.นี้
3 ต.ค. 2563, 11:47
วันที่ 3 ต.ค.63 พระครูอัครธรรมโชติ เจ้าอาวาสวัดเภาเคือง (วัดสำเภาล่องชลาราม) หมู่ 4 ต.ไสหมาก อ.เชียรใหญ่ จ.นครศรีธรรมราช เปิดเผยว่า วันที่ 18 ต.ค.63 นี้ ทางคณะกรรมการวัด พร้อมกับพระภิกษุสงฆ์ กำหนดจัดงานทอดกฐินสามัคคี ประจำปี 2563 เพื่อหารายได้สมทบทุนกิจการวัด พัฒนาวัด ทางวัดจึงขอเรียนเชิญชาวพุทธศาสนิกชน ทั้งในพื้นที่ และต่างพื้นที่ ร่วมกิจกรรมเพื่อสืบสานอนุรักษ์ขนบธรรมประเพณีที่สืบทอดกันมาตั้งแต่บรรพบุรุษให้คงอยู่ต่อไป นอกจากนี้เป็นการส่งเสริมพระพุทธศาสนา นอกจากนี้ทอดกฐินสามัคคีเพื่อหารายได้เข้าวัดแล้ว ยังมีกิจกรรมการแข่งขันเรือเพรียวชิงถ้วยพระราชทาน ที่สำคัญขอเชิญกราบไหว้สรีระหลวงพ่อบุญมี ภายในโลงแก้ว
สำหรับประวัติ หลวงพ่อบุญมี โฆสธมฺโม ท่านเป็นชาวบ้าน ตำบลไสหมาก อำเภอเชียรใหญ่ จังหวัดนครศรีธรรมราช ท่านจึงได้ร่ำเรียนศึกษาที่ วัดเภาเคือง เพราะขณะนั้นยังไม่มีการจัดตั้งเป็นโรงเรียนท่าน จึงไดร่ำเรียน อักษรไทยและอักษรขอม กับ พ่อท่านจันทร์ อานฺโท อดีตเจ้าอาวาส วัดเภาเคือง พร้อมทั้งเรียน วิชาแพทย์แผนไทย, โหราศาสตร์, ดูดวงชะตาชีวิต, ดูฤกษ์งามยามดี ที่ได้รับการสืบทอดจาก คุณพ่อทองย้อย เปียพลัด ผู้เป็นโยมบิดาของท่านซึ่งเป็น “หมอใหญ่” ในการรักษาโรคต่างๆให้กับชาวบ้านเพราะเป็นลูกศิษย์ของ พระครูอรรถธรรมโสรส (พ่อท่านซัง วัดวัวหลุง อ.ร่อนพิบูลย์ จ.นครศรีธรรมราช) นั่นเองโดย “หลวงพ่อบุญมี” ได้ทำการอุปสมบทในปี พ.ศ.2535 ขณะท่านอายุ 75 ปี โดยมี พระครูสุวรรณาภรณ์ (หนูราย ฐิตปุญฺโญ) เจ้าคณะตำบลบ้านเนินและเจ้าอาวาส วัดทาบทอง เป็นพระอุปัชฌาย์ได้รับฉายา “โฆสธมฺโม” แปลว่า “ผู้รู้ธรรมอันกึกก้อง” ได้รับความไว้วางใจจากคณะสงฆ์อำเภอเชียรใหญ่ให้เป็นครูสอนนักธรรมและควบคุมสนามสอบพระปริยัติธรรมติดต่อกันหลายปีและในปี พ.ศ.2540 พระอธิการเลื่อน สมาจาโร เจ้าอาวาสได้มรณภาพลง “หลวงพ่อบุญมี” จึงได้รับการแต่งตั้งให้เป็นเจ้าอาวาสสืบต่อมาระหว่างนี้ท่านมักจะบำเพ็ญเพียรภาวนาอยู่เสมอ จนเป็นที่ศรัทธาของชาวบ้านทั่วไป
ขณะที่ท่านบวช ท่านได้ศึกษาพระธรรมและปฏิบัติตามคำสอนของศาสดาโดยเคร่งครัด จนเป็นที่เคารพนับถือของลูกศิษย์ลูกหาโดยทั่วไป จนถึงวันที่ 28 มกราคม 2549 เวลา 0.55 น. ท่านละสังขารที่ โรงพยาบาลเชียรใหญ่ ทางศิษยานุศิษย์ ได้จัดบำเพ็ญกุศลศพท่าน และมีเหตุการณ์อันที่ต้องทำให้ศิษยานุศิษย์ ต้องตัดสินใจเก็บสังขารของท่านไว้ และขณะนี้สังขารของท่านยังคงเก็บเอาไว้ ณ วัดเภาเคือง เพื่อให้ศิษยานุศิษย์ และผู้ที่เคารพนับถือได้สักการะตลอดไป