วันนี้ (3 ต.ค.63) ผู้สื่อข่าว ONB news รายงานว่า นายพีรวัฒิ สิโรตม์พิพัฒ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติเอราวัณ เปิดเผยว่า ตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค. เป็นต้นมา "น้ำตกเอราวัณ" อ.ศรีสวัสดิ์ จ.กาญจนบุรี ถือเป็นน้ำตกนำร่องแห่งแรกของประเทศไทยที่อนุญาตให้นักท่องเที่ยวลงเล่นน้ำ แบบ New Normal โดยเปิดให้ลงเล่นน้ำเฉพาะชั้นที่ 1-3 เท่านั้น สำหรับขั้นตอนการเล่นน้ำ มีดังนี้ 1. เที่ยวชมอุทยานฯ จองผ่านแอปพลิเคชั่น QueQ หรือติดต่อจุดให้บริการเข้าอุทยานฯ 2. ลงทะเบียนเล่นน้ำตกตามช่วงเวลากับเจ้าหน้าที่ประจำชั้นน้ำตก 3. รอรับเสื้อชูชีพ 4. เจ้าหน้าที่ตรวจความเรียบร้อยชูชีพ / จำนวนผู้เล่นให้ตรงกับใบลงทะเบียน 5. นักท่องเที่ยวลงเล่นน้ำตกในบริเวณที่กำหนดไว้เท่านั้น 6. เจ้าหน้าที่จับเวลา 20 นาที/รอบ ให้สัญญาณนกหวีด พร้อมแสดงป้ายเตือน 2 ครั้ง ก่อนหมดเวลา 5 นาที และหมดเวลา และ 7. นักท่องเที่ยวออกจากแอ่งน้ำตก เพื่อคืนชูชีพ ณ จุดลงทะเบียน

ทั้งนี้กำหนดช่วงเวลาลงเล่น 20 นาที/รอบ พัก 20 นาที เพื่อให้นักท่องเที่ยวชมน้ำตกและถ่ายภาพ ขณะเล่นน้ำตกเพื่อความปลอดภัยต้องสวมใส่เสื้อชูชีพตลอดเวลา กรณีเปลี่ยนผู้เล่นลงน้ำแทน ขอให้แจ้งเจ้าหน้าที่ลงทะเบียนประจำชั้น และกรณีไม่ลงเล่นตามเวลาที่ลงทะเบียน (เกิน 5 นาที) โดยชั้นที่ 1 ไหลคืนรัง สามารถลงเล่นน้ำได้ 20 คน/รอบ ชั้นที่ 2 วังมัจฉา สามารถลงเล่นน้ำได้ 30 คน/รอบ และชั้นที่ 3 ผาน้ำตก สามารถลงเล่นน้ำได้ 30 คน/รอบ

กรณีที่เปิดให้เล่นเฉพาะชั้นที่ 1-3 เท่านั้น เนื่องจากเจ้าหน้าที่และนักท่องเที่ยวที่พักแรมใช้น้ำจากน้ำตกชั้น 4-5 ในการอุปโภค และเพื่อเป็นการป้องกันการแพร่ระบาดโรคเชื้อไวรัสโควิด-19 ส่วนการให้ลงเล่นน้ำได้เพียง 20 นาที/รอบ นั้น ก็เพื่อความปลอดภัยของนักท่องเที่ยว เนื่องจากน้ำเย็น เสี่ยงกับการเป็นตะคริว ซึ่งสอดคล้องกับผลการศึกษานักท่องเที่ยวใช้เวลาในการลงเล่นน้ำ 18 นาที/รอบ/คน และกรณีที่เปิดให้นักท่องเที่ยวลงเล่นน้ำเพียงแค่ 20/30 คน/รอบ นั้น เพื่อเป็นการลดผลกระทบต่อน้ำตก เพราะหากนักท่องเที่ยวลงเล่นจำนวนมาก จะทำให้น้ำขุ่น และส่งผลถึงความพึงพอใจของนักท่องเที่ยวได้

หลังจากอุทยานฯ เปิดให้นักท่องเที่ยวลงเล่นน้ำได้ พบว่า วันที่ 1 ต.ค.63 มีนักท่องเที่ยวมาลงทะเบียน ชั้นที่ 1 จำนวน 14 คน ชั้นที่ 2 จำนวน 85 คน และ ชั้นที่ 3 จำนวน 35 คน วันที่ 2 ต.ค. 63 มีนักท่องเที่ยวมาลงทะเบียน ชั้นที่ 1 มีจำนวน 14 คน ชั้นที่ 2 จำนวน 127 คน และชั้นที่ 3 จำนวน 112 คน ซึ่งคาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวสนใจมาลงเล่นน้ำเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ หรือวันหยุดนักขัตฤกษ์ อย่างแน่นอน อย่างไรก็ตาม ถึงแม้กรมอุทยานฯ จะอนุญาตให้นักท่องเที่ยวลงเล่นน้ำได้ก็ตาม แต่เจ้าหน้าที่จะยังคงใช้มาตรการท่องเที่ยวแบบ New Normal ด้วยการตรวจวัดอุณหภูมิ เว้นระยะห่าง สวมหน้ากากอนามัย ล้างมือด้วยเจลแอลกอฮอลล์ ซึ่งจะต้องปฏิบัติตามมาตรการณ์ของกระทรวงสาธารณสุขอย่างเคร่งครัดเช่นเดิม

แต่เนื่องจากเมื่อวันที่ 2 ต.ค.ที่ผ่านมา ในพื้นที่รับผิดชอบของหน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติ ที่ อว.8 (ลำต้น) ที่มีลำห้วย 2 ลำห้วย คือ ลำห้วยอมตะลา และลำห้วยม่องไล่ ซึ่งเป็นพื้นที่ต้นน้ำของน้ำตกเอราวัณ มีฝนตกปริมาณมากและตกสะสมอย่างต่อเนื่อง สามารถวัดได้ 39.4 มิลลิเมตร (ณ ที่ทำการอุทยานแห่งชาติเอราวัณ) ส่งผลให้ระดับน้ำในน้ำตกสูงขึ้น กระแสน้ำแรง น้ำขุ่น ไม่สามารถลงเล่นน้ำได้ อุทยานแห่งชาติเอราวัณจึงเปิดให้เที่ยวชม แต่งดการลงเล่นน้ำ พร้อมทั้งจัดเจ้าหน้าที่ประจำชั้นน้ำตกทุกชั้น เพื่อเป็นการรักษาความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินให้กับนักท่องเที่ยวที่เข้ามาเที่ยวชมน้ำตกเอราวัณ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับ "น้ำตกเอราวัณ" เป็นน้ำตกที่สวยงามและมีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วประเทศและทั่วโลก โดยมีทั้งหมด 7 ชั้นด้วยกัน แต่ละชั้นมีชื่อที่คล้องจองกัน โดยน้ำตกชั้น 1 ชื่อ "ไหลคืนรัง" ชั้น 2 ชื่อ "วังมัจฉา" ชั้นที่ 3 ชื่อ "ผาน้ำตก" ชั้นที่ 4 "อกผีเสื้อ" ชั้นที่ 5 "เบื่อไม่ลง" ชั้นที่ 6 "ดงพฤกษา" และชั้นที่ 7 ชื่อว่า "ภูผาเอราวัณ”

สำหรับบรรยากาศในพื้นที่จังหวัดกาญจนบุรี หลายอำเภอได้เกิดฝนตกลงมาอย่างหนักจึงทำให้น้ำไหลจากพื้นที่สูงลงสู่ผิวถนนเส้นทางหลักหลายจุดโดยเฉพาะถนนสายกาญจนบุรี - ไทรโยค บริเวณหน้าโรงเรียนไทรโยควิทยาคม เกิดน้ำจากเทือกเขาไหลลงมาท่วมเส้นทางสูงถึง 50 เซนติเมตร ทางเจ้าหน้าที่มูลนิธิกู้ภัยกาญจนบุรี เขตไทรโยค จึงได้นำรถมาเปิดสัญญาณไฟให้กับผู้ใช้รถใช้ถนนระมัดระวัง เนื่องจากมีน้ำท่วมผิวทาง ทิศทางฝั่งจากน้ำตกไทรโยคน้อย มุ่งหน้าลงอำเภอเมืองกาญจนบุรี ระยะทางประมาณ 250 เมตร ซึ่งในช่องจราจร ด้านขวาสุด รถเล็กสามารถผ่านได้เฉพาะในช่องทางด้านขวาสุดเท่านั้น เนื่องจากในพื้นที่มีปริมาณน้ำฝนตกหนัก ทำให้น้ำระบายไม่ทัน บริเวณจุดเกิดเหตุดังกล่าว