ธรรมะจากในถ้ำ "พระครูบาพ่อบุญชุ่ม" ให้พรศิษย์วันออกพรรษา
4 ต.ค. 2563, 15:57
ที่เพจเฟซบุ๊ก นะโม โพธิสัตโต ญาณสํวโร เมื่อวันที่ 3 ตุลาคม 2563 มีการเผยแพร่ ธรรมะวันออกพรรษา จากพระครูบาบุญชุ่ม ญาณสํวโร หรือ พระครูบาพ่อบุญชุ่ม ที่เข้าไปปฏิบัติธรรมกรรมฐาน บำเพ็ญเพียร ในถ้ำที่เมืองแก๊ด รัฐฉาน ประเทศเมียนมา ซึ่งเขียนไว้เป็นคำเมือง และถูกแปลโดย พระครูสมุห์นทีเทพ จิรวฑฺฒโณ วัดหนองปึ๋ง เชียงใหม่
ซึ่งมีเนื้อหา ระบุว่า ธรรมะเมตตา ขอเมตตาถึงลูกศิษย์ลูกหาทั้งหลายทุก ๆ คน ได้รับรู้ด้วยกันทุก ๆ คน เราพระครูบาพ่อบุญชุ่ม ได้มาอธิษฐาน ภาวนา ณ ที่ถ้ำหลวงเมืองแก็ด มีความยิ่งสุข อยู่ดีมีสุข ฉันท์อาหารเป็นปกติ อยู่กับธรรมะชาติ ห้วยน้ำ ป่าดอย อยู่กับสัตว์ป่า นกหนู ไก่ป่า ฟาน ลิกวอก กวาง ลิง เห็น เสือ ลูกอ่อน เสือไฟ มาอยู่เฝ้าถ้ำ เสียงนกยุงร้องยามค่ำ และงูใหญ่ มานอนอยู่ในถ้ำ เรามีใจเมตตากรุณา เสมือนดังลูกหลานเรา เราก็ได้เลี้ยงดู ยังมีกาดำ มาขอกินข้าวอยู่ทุกวันเสียงร้อนอยู่หน้าถ้ำ ฟังแล้วหน้าสงสารเขา สัตว์มีเรื่องทุกข์ คือต้องหาเลี้ยงท้องของใครของมัน เราก็มีใจเมตตาเขา เราก็มีสติอยู่ทุกขณะ ปฏิบัติอยู่ตามคำสอน พระพุทธเจ้า ปฏิบัติวิปัสสนา รู้ตัวอยู่ตลอด
การปฏิบัติธรรมก็ดีขึ้นมาเรื่อย ๆ สมาธิก็ดี จิตใจก็สงบขึ้น เห็น รูป นาม สังขาร รู้ถึงอนิจจัง ทุกขัง อนัตตา ไม่เที่ยงแท้แน่นอน กินข้าวรอวันตาย ในโลกนี้ไม่มีอะไรแน่นอน เป็นไปตามธรรมชาติ ในโลกนี้ไม่อะไรยิ่งใหญ่เกินกรรม อย่าประมาทหลงลืมตัว ในโลกไม่มีอะไรเป็นที่พึ่งอิงได้เหมือนดังธรรมะของพุทธเจ้า พระธรรม พระสงฆ์ พ่อแม่ ครูบาอาจารย์ ไม่มีอีกแล้ว มีบุญคุณหาที่สุดมิได้ ให้พากันกราบไหว้ทุกเช้าค่ำ มีพระคุณมากกว่า ท้องฟ้ามหาสมุทร ไม่มีอะไรมาเปรียบเทียบได้ดังนี้แล
อันว่าวันเวลาล่วงพ้นไปเร็วมาก ไวกว่าน้ำโขงไหล ไม่มีวันหวนกลับ อันว่าอายุเราก็แก่เฒ่ามาทุกวัน ใกล้ความตายมาทุกวันแล้ว รู้ถึง สังขารธรรม ทุกลมหายใจเข้าออก วันเวลาล่วงพ้นใกล้ความตายมาทุกแล้ว เราเจ้าข้าทั้งหลายให้พิจารณาดูให้พากันสร้างคุณงามความดี มีบุญกุศล อยู่ทุกเมื่อแล โดยเฉพาะ ทาน ศีล ภาวนา สมถะ วิปัสสนา กัมมัฏฐาน มหาสติปัฏฐาน 4 ให้พิจารณาเห็น รูป นาม สังขาร เป็น อสุภะ เน่าเหม็น
อันว่าวันเวลาล่วงพ้นไวมาก ไม่นานเท่าไร ก็จะเต็ม 2 ปี แล้ว เหลือเวลาที่จะปฏิบัติธรรมในถ้ำอีกปีหนึ่ง เรายังไม่ได้ทำอะไรมากเลย ได้นั่งพิจารณาในสังขารทั้งหลาย ทุกวันคืน หน้าสังเวชยิ่ง เป็นไปธาตุ ทั้งนั้น จิตใจเปลี่ยนแปลง เห็นแจ้งในธรรม มากกว่าเดิม ไม่อยากเกิด ไม่อยากตาย อีกแล้ว ขออธิษฐานพุทธภูมิ นำพาสัพพะสัตว์ข้ามวัฏสงสาร ให้มีจิตใจกล้าหาญ ทำแต่ความดีมีกุศล มีใจเชื่อ และนับถือ ในคำสั่งของพระพุทธเจ้า
ให้พากันเว้นจากการทำบาปทั้งปวง
ให้พากันเลือกทำกุศลกรรมดี ทั้งวันทั้งคืน
ให้พากันรักษากายใจให้ขาวใส อยู่ทุกขณะ
นี่เป็นข้อสั่งสอนของพระพุทธเจ้าทุก ๆ พระองค์ดังนี้แล เราทั้งหลายมีบุญกุศลใหญ่ยิ่ง ที่ได้มาเกิดภพพระพุทธศาสนา ของพระพุทธเจ้า ให้มีใจเคารพเลื่อมใสในธรรมคำสอนแห่งพระพุทธเจ้า พระพุทธเจ้ามีเมตตาอย่างยิ่งเหนือกว่าสัพพะสัตว์ทั้งหลายหาที่สุดมิได้ ดังนั้นให้เราทั้งหลาย มีน้ำใจที่ดี ปฏิบัติตาม ธรรมะ ของพระพุทธเจ้า ให้พากันหาทางพ้นทุกข์ ให้สุขถึงพระนิพพาน อันไม่รู้เฒ่า แก่ เจ็บ ตาย และขอให้มีสติ อยู่ทุกขณะ ให้มีปัญญาเป็นเครื่องนำหน้าอยู่ตลอด อย่าประมาทหลงลืมตัว ให้พากัน ภาวนา ไปเรื่อย ๆ เอาสติเป็นเครื่องกำจัดกิเลส ให้ถึงซึ่งพระนิพพาน ดังนี้แล
นิพพาน อยู่ไม่ไกล ถ้าใจเรามีสติ
นิพพาน อยู่ไม่ไกล ถ้าเรารู้จักปล่อยวาง
ให้รีบสร้างบารมี ของใครของมัน ทาน ให้รีบทำ
ศีลให้รักษาให้มั่น มีศีล 5 เป็นเครื่องรักษาตน ให้มีใจ เมตตา กรุณา มุฑิตา อุเบกขา มีใจเมตตาในสัพพะสัตว์ทั้งตัวเล็กตัวใหญ่ เสมอกัน เรื่อง ภาวนา ให้พากันภาวนาไว้ให้มาก ๆ เอาพุทธานุสติ ธรรมานุสติ สังฆานุสติ มรณะนุสติ อานาปานสติ และ อนิจะวิปัสสนา ทุกขะวิปัสสนา อนัตตาวิปัสสนา เห็นรูปธาตุ นามธาตุ รู้แจ้งเห็นจริง หากกิเลสหาย ก็เบาสบาย ไม่เกิด ไม่ตายอีกแล้ว ถึงจะคุ้มค่าที่เราได้เกิดมาพบ พระพุทธศาสนา อย่าปล่อยเวลาให้ล่วงเลยเสียเปล่า อย่าให้ใจเรา โลภะ โทสะ โมหะ ตัณหา อวิชชา ให้อยู่ในศีลในธรรม จะได้ถึงซึ่งพระนิพพาน รีบสร้างแต่กรรมดีมีกุศลไว้ให้มาก ๆ เมื่อเรายังไม่ตายยังมีลมหายใจอยู่นี้ ให้เอาธรรมะเป็นที่ตั้ง ดังนี้แล
พระพุทธเจ้าสอนยังพระราหุน ลูก ว่า "หากอยากพ้นยังกองบุญอันใหญ่หลวงนี้ ให้ถึงพระนิพพานให้รีบปฏิบัติใจเรา ให้เป็นดัง ธาตุ ดิน น้ำ ลม ไฟ อากาศธาตุเรานั้น จะไม่มีเรื่องทุกข์ร้อนอันใด จะได้ถึงซึ่งนิพพานจริงแท้ โลภมาก ก็ทุกข์มาก นิพพานใกล้มาหากเรามีสติปัญญา วันเวลามีคุณค่ามาก อย่าปล่อยเวลาให้เสียเปล่า ให้สร้างบารมีของใครของมัน
ตัดขาดใจ โลภะ โทสะ โมหะ ตัณหามานะทิฏฐิ ตัดขาดออกจากใจของใครของมัน ก็จะได้อยู่ดีมีความสุข ไร้ทุกข์เอย
ขอให้ช่วยกันบำรุงค้ำชูพระพุทธศาสนา ให้ถึงห้าพันวัสสาด้วยเทอญ
อีกทั้งให้พากันอนุรักษ์ ภาษา เชื้อชาติไทยใหญ่ เชื้อพม่า จีน ทุก ๆ ภาษาของใครของมัน ให้น้ำใจดีต่อกันรักษาสามัคคีกัน มีเมตตา กรุณา ต่อกัน ทุกเชื้อชาติ ทุกศาสนา ในโลกนี้ หากเมตตาต่อกันในโลกนี้ก็จะได้อยู่มีความสุข ขณะนี้คนในโลกไม่มีศีลธรรม ไม่มีความเคารพนับถือพ่อแม่ ครูบาอาจารย์ และยังแบ่งเชื้อแบ่งศาสนา ไม่เคารพซึ่งกัน เห็นผิดเป็นชอบ โลภะใหญ่ โทสะใหญ่ โมหะใหญ่ จึงทำให้ในโลกมีแต่ความเดือดร้อน พุทธทำนาย (กาบโหลงสามปา) ก็มีมาเรื่อย ๆ แล้ว ยุคข้าวยากหมากแพง ยุคเป็นโรคร้ายตายกัน ยุครบฆ่ากันตาย ก็มีมาแล้ว เป็นกาลียุค ตายกันเยอะ เกิดทุกข์เยอะ เมืองนอกเป็นโรคกาละลงเมือง ตายหลายล้านแล้ว เพราะคนทั้งหลายในโลกนี้ไม่มีใจเมตตา ไม่มีศีลธรรม เลยทำให้เกิดทุกข์เป็นโรคร้ายตายกันเยอะ น่าสงสารสังเวช และน่ากลัวยิ่งแล้ว ให้พากันอยู่ในศีลในธรรม มีใจดีเมตตาในสรรพสัตว์ทั้งหลาย ให้พากับเคารพนับถือใน คุณ พ่อแม่ คนเฒ่าคนแก่ ให้ดูแลท่านดีดี และพระสงฆ์องค์เจ้าก็ให้พากันดูแลให้ดีดี ให้คิดดี พูดดี ทำดี ใจดี จะได้ถึงซึ่งนิพพานดังนี้แล
อันว่าสภาวะธรรม ในโลกนี้ มีบุญคุณต่อเราทั้งหลาย อันเป็นธรรมชาติ ป่าไม้ มีคุณค่ามาก ต้นไม้ ดอกไม้ ใบหญ้า เม็ดข้าว น้ำ พริก ผักเขียว น้ำ ดิน หิน ผา ป่าไม้ เถื่อนถ้ำ ลำห้วย ภูเขา เป็นธรรมชาติ มีคุณค่ายิ่งแล้ว ให้รู้จักอยู่ รู้จักกิน คู่ธรรมชาติ ทุกสิ่งทุกอย่างเป็นธรรมะทั้งนั้น ให้รู้จักดู สิ่งที่เห็นเป็นธรรมะทั้งนั้น เป็นอนิจจัง ทุกขัง อนัตตา ทั้งนั้น หากเราเอาสติธรรมพิจารณา จะเห็นธาตุธรรมะสภาวะสิ่งเดียวเท่านั้นแล ในโลกเป็นธรรมะสอนเราทั้งนั้น ทุกลมหายใจ เข้า ออก
อย่าพากันทำลายป่าไม้ ต้นไม้ ให้พากันดูแลรักษาป่าไม้ในเมืองไตยเราดูแลให้ดีงามจะได้พึ่งอิงกันจนกว่าโลกนี้จะแตกดับไป ปัจจุบันนี้เกิดโลกร้อนมาเรื่อย ๆ แล้ว หากว่าเรารู้อยู่ตามธรรมชาติเรื่องทุกข์ร้อนก็จางหาย จริงแท้แน่นอน