คืบหน้ากรณี นายปัญญา โกมลศรี หรือไอ้เล็ก อายุ 38 ปี บ้านเลขที่ 126 หมู่ 1 ต.หนองลาด อ.เมือง จ.สกลนคร พร้อมด้วย น.ส.ธิญาดา ปาสด หรือเมย์ อายุ 18 ปี ช่วยกันฉุดตัว น.ส.สุมลทิพย์ ตุ่นกลิ่น หรือน้องกิ๊ฟ อายุ 18 ปี  จากพื้นที่บ้านห้วยไห ต.บ้านค้อ อ.โพนสวรรค์ จ.นครพนม เหตุเกิดเมื่อวันที่ 29 กันยายน ที่ผ่านมา จากนั้นนายเล็กก็ส่งภาพถ่ายของน้องกิ๊ฟ ในสภาพถูกพันธนาการด้วยโซ่เหล็กที่แขนและลำคอ ส่วนท่อนล่างเปลือยเปล่า ภายหลังเห็นข่าวของตนเองออกทางสื่อโทรทัศน์จึงนำตัวน้องกิ๊ฟใส่รถจักรยานยนต์พ่วงข้างมาปล่อยทิ้งไว้ที่บ้านหนองปลาดุก หมู่ 9 ต.พังขว้าง อ.เมือง จ.สกลนคร

 

 

โดยน้องกิ๊ฟให้ปากคำต่อหน้าสหวิชาชีพว่า หลังถูกลักพาตัวไปนายเล็กนำไปที่กระท่อมกลางทุ่งนาแห่งหนึ่งของอดีตข้าราชการครูคนหนึ่ง ที่เปิดร้านคาราโอเกะในอำเภอนาหว้า จังหวัดนครพนม โดยทั้งสองช่วยกันรุมกระทืบน้องกิ๊ฟ และใช้ขวดเบียร์ฟาดจนศีรษะแตก อีกทั้งใช้มีดปลายแหลมจิ้มที่สีข้างจนเป็นแผล โดยมีอาการหวาดระแวงตลอดเวลา ซึ่งขณะน้องกิ๊ฟให้ปากคำ มีเลือดไหลออกปากและจมูก เจ้าหน้าที่จึงนำตัวส่งโรงพยาบาลให้แพทย์รักษา ก่อนจะส่งตัวให้อยู่ความดูแลของนักจิตวิทยา นักสังคมสังเคราะห์ ตามที่เสนอข่าวไปแล้ว

 

ล่าสุด วันที่ 7 ตุลาคม 2563 ผู้สื่อข่าวได้ภาพจากกล้องวงจรปิด ขณะไอ้เล็กและอีเมย์สองผัวเมียคู่อันตราย ขับ จยย.พ่วงข้าง นำตัวน้องกิ๊ฟมาส่งที่บ้านหนองปลาดุก ต.พังขว้าง อ.เมือง จ.สกลนคร ซึ่งต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ไปพบรถซาเล้งพ่วงข้างและโซ่ล่ามน้องกิ๊ฟแล้ว อยู่ในกระท่อมที่ใช้หลบซ่อนตัวในพื้นที่ สภ.นาหว้า โดยตำรวจได้นำของกลางมาไว้ที่โรงพัก สภ.นาหว้า เพื่อแกะรอยตามล่าต่อไป

ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจบูรณาการร่วมกันหลายฝ่าย ได้แก่ กองปรามปราบ,สืบสวน สภ.โพนสวรรค์,สืบสวน สภ.นาหว้า,สืบสวน บก.ภ.จว.นครพนม,สืบสวน บก.ภ.จว.สกลนคร โดยแบ่งหน้าที่สอบสวน 3 สภ. คือ สภ.โพนสวรรค์,สภ.นาหว้า จ.นครพนม และ สภ.เมืองสกลนคร