สสจ.กาญจน์เตรียมซ้อม พร้อมรับการระบาดโควิด-19 ระลอก 2
9 ต.ค. 2563, 14:27
วันนี้ 9 ต.ค.63 ผู้สื่อข่าว ONB news รายงานว่า นายแพทย์นิพนธ์ พัฒนกิจเรือง นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดกาญจนบุรี เจ้าหน้าที่สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดกาญจนบุรี ได้ประชุมเพื่อซักซ้อมแผนรองรับการแพร่ระบาดของโรคติดต่อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ระลอก 2 โดยมีการเฝ้าระวัง ติดตามสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 ระลอก 2 และนำเสนอแผนเผชิญเหตุรองรับการแพร่ระบาดของกลุ่มภารกิจต่างๆ ได้แก่ กลุ่มภารกิจปฏิบัติการ ประกอบด้วย ทีมประสานงานการรักษาพยาบาล ทีมควบคุมโรค ทีมสุขภาพจิต ทีมอนามัยสิ่งแวดล้อม ทีมสุขภาพภาคประชาชน กลุ่มภารกิจตระหนักรู้สถานการณ์ กลุ่มภารกิจด้านความปลอดภัย กลุ่มภารกิจด้านสื่อสารความเสี่ยงและการประชาสัมพันธ์ กลุ่มภารกิจด้านการสำรองเวชภัณฑ์และส่งกำลังบำรุง กลุ่มภารกิจการเงินและงบประมาณ กลุ่มภารกิจกฎหมาย กลุ่มภารกิจด้านกำลังคน กลุ่มภารกิจประสานงานและเลขานุการ กลุ่มภารกิจยุทธศาสตร์และวิชาการ เป็นต้น
วันเดียวกันนี้ สาธารณสุขจังหวัดกาญจนบุรี ร่วมกับ นายแพทย์สมเกียรติ เหล่าลือเกียรติ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลพหลพลพยุหเสนา และผู้เกี่ยวข้อง ร่วมประชุมทางไกล (Video Conference) ศูนย์ปฏิบัติการฉุกเฉินด้านการแพทย์และสาธารณสุข กรณีโรคติดต่อไวรัสโคโรนา 2019 (Covid-19) ครั้งที่ 1/2564 เพื่อเตรียมความพร้อมรองรับการเดินทางจากต่างประเทศ (Safety to Safety Travel) โดยมี นายแพทย์เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข เป็นประธานการประชุมส่วนกลาง ณ ศูนย์ปฏิบัติการฉุกเฉินด้านการแพทย์และสาธารณสุข ชั้น 7 อาคาร 5 สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข ส่วนภูมิภาค ณ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดทุกแห่ง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะเดียวกันผู้ประกอบการร้านค้าต่างๆ ที่อยู่โดยรอบด่านเจดีย์สามองค์ หมู่ 9 บ้านพระเจดีย์สามองค์ ต.หนองลู อ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี ที่มีชายแดนติดกับกิ่งอำเภอพญาตองซู ประเทศเมียนมา ได้ออกมาเรียกร้องถึงจังหวัดกาญจนบุรี เข้ามาให้ความช่วยเหลือเป็นการเร่งด่วน เนื่องจากได้รับความเดือดร้อนจากการระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่ประเทศเพื่อนบ้าน เพราะร้านค้าทุกร้านค้า รวมทั้งโรงงานต่างๆที่มีอยู่ในพื้นที่ต้องปิดกิจการลง ตามประกาศคำสั่งของผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี/ผู้อำนวยการควบคุมโรคฯ ที่ประกาศปิดการเข้าออกของคน สิ่งของและยานพาหนะ โดยครั้งแรกประกาศเมื่อวันที่ 22 ก.ย. – 5 ต.ค.63 ครั้งที่ 2 ประกาศเมื่อวันที่ 6 ต.ค.มีผลบังคับใช้ไปจนถึง วันที่ 19 ต.ค.63 รวมระยะเวลา 28 วัน จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสดังกล่าว ทุกคนที่อยู่ในพื้นที่ต่างก็เข้าใจและปฏิบัติตามคำสั่งเป็นอย่างดี
ทั้งนี้นาง กานจเนศ กันยา หนึ่งในผู้ประกอบการจำหน่ายสินค้าที่ระลึก และ เฟอนิเจอร์ ไม้ เปิดเผยว่า ปัจจุบันผู้ประกอบการทุกคนต่างได้รับความเดือดร้อน เพราะไม่มีรายได้จากทางอื่น ซึ่งในช่วงวิกฤตโควิด-19 ที่เกิดขึ้นในประเทศไทยตั้งแต่เดือนมีนาคม ที่ผ่านมา ก็ไม่มีนักท่องเที่ยวเข้ามาท่องเที่ยวจับจ่ายซื้อของ ส่งผลให้การค้าเริ่มประสบปัญหา ตั้งแต่นั้นมาแต่เมื่อรัฐบาลเริ่มมีมาตรการผ่อนปรน นักท่องเที่ยวก็เริ่มกลับมาท่องเที่ยวในพื้นที่อยู่บ้างทำให้สถานการณ์เริ่มดีขึ้นมาบ้าง แต่ต้องมาเจอวิกฤตการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ภายในประเทศเมียนมา ที่มีชายแดนติดกับประเทศไทย โดยเฉพาะบริเวณด่านเจดีย์สามองค์ จึงถือว่าเป็นซ้ำเติมทำให้ทุกคนเริ่มรับไม่ไหวเนื่องจากไม่มีรายได้ เข้ามาเพราะต้องปิดร้านค้า
ที่สำคัญทุกคนต้องมาแบกรับภาระค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน ไหนจะต้องจ่ายค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าเล่าเรียนของลูกหลาน รวมทั้งต้องจ่ายค่าผ่อนรถ ผ่อนธนาคารที่กู้มา การให้ความร่วมมือทุกคนก็พร้อมจะช่วยทางราชการ แต่การทำมาหากินเลี้ยงปากเลี้ยงท้อง ทุกคนก็ยังต้องทำต่อไป ซึ่งบางครั้งก็รู้สึกน้อยใจเพราะขณะที่พื้นที่อื่นยังทำมาหากินได้ ตามปกติ แต่คนที่ด่านเจดีย์สามองค์กลับทำสิ่งเหล่านั้นไม่ได้ ดังนั้นจึงอยากเรียกร้องให้ทางหน่วยงานราชการเข้ามาช่วยเหลือ ก่อนที่ทุกอย่างจะเลวร้ายไปมากกว่านี้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับบรรยากาศตามแนวชายแดน บริเวณจุดผ่อนปรนชั่วคราว ทั้งในพื้นที่บ้านพระเจดีย์สามองค์ หมู่ 9 ต.หนองลู อ.สังขละบุรี และฝั่งกิ่งอำเภอพญาตองซู ประเทศเมียนมา มีความเงียบเหงาไม่แตกต่างกัน ขณะที่เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงไทย ยังคงวางกำลังเฝ้าระวังการลักลอบข้ามแดนเข้ามาในราชอาณาจักรไทยในทุกช่องทางอย่างเข้มข้นและต่อเนื่อง เท่านั้นยังไม่พอเจ้าหน้าที่ยังประชาสัมพันธ์ขอความร่วมมือจากประชาชนว่า หากพบหรือมีเบาะแสว่ามีชาวเมียนมาลักลอบเข้ามา จนนำไปสู่การควบคุมตัวได้ จะมีรางวัลมอบให้กับผู้แจ้งเบาะแสอีกด้วย./