ผู้อำนวยการสำนักงานชลประทานที่ 8 ตรวจติดตามสถานการณ์น้ำเขื่อนลำพระเพลิง และสภาพลำน้ำ
วันเสาร์ที่ 10 ตุลาคม 2563 เวลา 14.00 น. นายเกียรติศักดิ์ หนูแก้ว ผู้อำนวยการสำนักงานชลประทานที่ 8 ลงพื้นที่ตรวจติดตามสถานการณ์น้ำเขื่อนลำพระเพลิงและสภาพลำน้ำในพื้นที่อำเภอปักธงชัย ซึ่งได้รับผลกระทบจากพายุดีเปรสชันพาดผ่าน ระหว่างวันที่ 8-9 ตุลาคม 2563 ที่ผ่านมา โดยมี นายขวัญชัย อุตตะเวช ผู้อำนวยการโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาลำพระเพลิง และ นายโอฬาร ทองศรี หัวหน้าฝ่ายจัดสรรน้ำและปรับปรุงระบบชลประทาน นำลงพื้นที่เพื่อติดตามสถานการณ์น้ำและการดำเนินงานให้ความช่วยเหลือประชาชนที่อาจได้รับผลกระทบ

สำหรับสถานการณ์น้ำปัจจุบัน (10 ต.ค. 2563) เวลา 06.00 น. น้ำในอ่างอยู่ที่ระดับ +266.17 ม.(รทก.) ปริมาณน้ำในอ่าง 145.12 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็น (93.63%) น้ำใช้การ 144.40 ล้าน ลบ.ม.(93.6%) มากกว่าปีที่แล้ว 98.67 ล้าน ลบ.ม. มีปริมาณน้ำไหลลงอ่าง 17.506 ล้าน ลบ.ม. ระบาย 1.44 ล้าน ลบ.ม. โดยเมื่อวาน (9 ต.ค. 63 ) มีปริมาณน้ำไหลลงอ่างฯ ในอัตราที่ลดลง ถึงเวลา 05.00 น.อัตราการไหลของน้ำลงอ่างอยู่ที่ 94.33 ลม.ม./วินาที และเวลา 06.00 น.อัตราการไหลของน้ำเพิ่มขึ้นเล็กน้อยอยู่ที่ 127.67 ลม.ม./วินาที

ซึ่งสำนักงานชลประทานที่ 8 โดยโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาลำพระเพลิง ได้วางแผนแก้ไขปัญหาและการดำเนินการ และมีแผนการระบายน้ำ ดังนี้

1. ระบายลงคลองส่งน้ำสายใหญ่ ในอัตรา 18 ลบ.ม./วินาที หรือวันละ 1.55 ล้าน ลบ.ม. โดยดำเนินการผันลงอ่างเก็บน้ำลำสำลาย ในอัตรา 10 ลบ.ม./วินาที และส่งน้ำกระจายไว้ในพื้นที่การเกษตรที่ไม่ได้รับผลกระทบจากหย่อมความกดอากาศต่ำและช่วยภัยแล้ง บ้านบึงทับปรางค์ ต.โชคชัย อ.โชคชัย 8 ลบ.ม./วินาที (ไม่มีผลกระทบต่อพื้นที่การเกษตร)

2. ระบายน้ำลงลำน้ำธรรมชาติ ในอัตรา 43 ลบ.ม./วินาที หรือวันละ 3.71 ล้าน ลบ.ม. โดยจะปรับลดการระบายนี้เมื่อสถานการณ์น้ำในเขื่อนเริ่มทรงตัว อนึ่งแนวโน้มสถานการณ์ อัตราการไหลของน้ำเข้าอ่างสูงสุด อยู่ที่ 326 ลบ.ม./วินาที เมื่อเวลาประมาณ 18.00 น ของวันที่ 9 ตุลาคม 2563. และลดลงเหลือ 94.33 ลบ.ม./วินาที ในเวลา 04.00น. ของเช้าวันที่ 10 ตุลาคม 2563 คาดว่าหากปริมาณฝนเหนืออ่างฯไม่ตกเพิ่ม ปริมาณน้ำที่ไหลลงอ่างฯจะลดลงเป็นลำดับ

 

ทั้งนี้จากการลงพื้นที่ตรวจสอบพบว่าการระบายน้ำสู่ลำน้ำธรรมชาติ ในอัตรา 43 ลบ.ม./วินาที ปัจจุบันยังไม่มีผลกระทบต่อพื้นที่ลุ่มต่ำบริเวณด้านท้ายอ่างฯ ทั้ง 3 แห่ง ได้แก่ พื้นที่ลุ่มต่ำบริเวณท้าย ปตร.เหมืองตาเบ้า พื้นที่ลุ่มต่ำตัวอำเภอปักธงชัย และพื้นที่ลุ่มต่ำบริเวณท้าย ปตร.ท่าเขื่อน-ปตร.อาจารย์พุฒ

โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาลำพระเพลิง ได้ออกประกาศแจ้งเตือนไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ เพื่อประชาสัมพันธ์แจ้งเตือนประชาชน พร้อมให้การช่วยเหลือ โดยนำเครื่องจักรและรถแบ็คโฮ เข้าดำเนินการกำจัดวัชพืช และสิ่งกีดขวางทางน้ำบริเวณหน้าประตูระบายน้ำบ้านสุขัง ต.ตะคุ อ.ปักธงชัย จ.นครราชสีมา เพื่อเร่งการระบายน้ำ และเมื่อเวลา 08.00 น. เจ้าหน้าที่ของโครงการฯ ลำพระเพลิง ลงพื้นที่ตรวจสอบ และประชาสัมพันธ์ แจ้งเตือนประชาชนที่อยู่อาศัยในพื้นที่ลุ่มต่ำ ให้เตรียมพร้อมรับสถานการณ์ และชี้แจงว่าโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาลำพระเพลิง มีความจำเป็นต้องระบายน้ำจากเขื่อนลำพระเพลิงลงคลองธรรมชาติใน อัตรา 43 ลบ.ม./วินาที โดยจะเริ่มระบายน้ำตั้งแต่ วันที่ 10 ตุลาคม 2563 เป็นต้นไป จนกว่าสถานการณ์น้ำจะเข้าสู่สภาวะปกติ พร้อมขอให้ประชาชนมั่นใจว่าเขื่อนลำพระเพลิงยังมีความมั่นคงแข็งแรง สามารถรับน้ำได้อย่างเต็มศักยภาพ ขอให้อย่าตื่นตระหนกและรับฟังข้อมูลที่ถูกต้องจากทางหน่วยงานราชการเท่านั้น