ปภ.เร่งช่วยเหลือผู้ประสบภัยทุกพื้นที่ จัดจนท.เฝ้าระวังสถานการณ์ 24 ชม.
11 ต.ค. 2563, 16:37
วันนี้ ( 11 ต.ค.63 ) นายชัยณรงค์ วาสนะสมสิทธิ์ รองอธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ในฐานะโฆษกกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เปิดเผยว่า จากอิทธิพลพายุระดับ 2 (ดีเปรสชัน) ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย ทำให้ประเทศไทยมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ส่งผลทำให้เกิดสถานการณ์น้ำท่วมฉับพลัน น้ำไหลหลาก และวาตภัย ตั้งแต่วันที่ 7 ตุลาคม 2563 - ปัจจุบัน (11 ตุลาคม 2563 เวลา 06.00 น.) รวม 11 จังหวัด 31 อำเภอ 63 ตำบล 162 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 1,075 ครัวเรือน ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต
กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ในฐานะกองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกลาง (กอปภ.ก.) ได้ติดตามสถานการณ์และประสานการปฏิบัติกับผู้ว่าราชการจังหวัดในทุกพื้นที่อย่างใกล้ชิด ตลอด 24 ชั่วโมง และสนับสนุนเครื่องจักรกลด้านสาธารณภัยในการปฏิบัติงานให้กับจังหวัดต่างๆ ตามที่ได้รับร้องขออย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในพื้นที่จังหวัดนครราชสีมา ศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต 5 นครราชสีมา เข้าให้การช่วยเหลือ สนับสนุนเรือท้องแบนพร้อมเครื่องยนต์ 20 ลำ รถบรรทุกติดตั้งเครน 1 คัน รถเคลื่อนย้ายผู้ประสบภัย 2 คัน และได้อพยพประชาชนประมาณ 160 คน (จุดอพยพ รพ.ปากช่องนานา รร.สัญลักษณ์วิทยา รร.รุ่งอรุณวิทยา มูลนิธิสว่างวิชชาธรรมสถาน วัดท่ามะนาว) และมอบข้าวกล่องให้ผู้ประสบภัย จังหวัดจันทบุรี ศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต 17 จันทบุรี ได้สนับสนุนรถกู้ภัย/ไฟส่องสว่าง จำนวน 1 คัน รถขนย้ายผู้ประสบภัย 6 ล้อยกสูง จำนวน 2 คัน เรือขนย้ายสิ่งของ จำนวน 20 ลำ พร้อมเสื้อชูชีพ จำนวน 50 ตัว ในพื้นที่อำเภอโป่งน้ำร้อน และอำเภอสอยดาว กาญจนบุรี ศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต 2 สุพรรณบุรี สนับสนุนเรือท้องแบน พร้อมเครื่องยนต์เรือแบบหางยาว 4 ลำ ช่วยเหลือผู้ประสบภัย ในพื้นที่อำเภอด่านมะขามเตี้ย
โฆษก ปภ. กล่าวเพิ่มเติมว่า ได้สั่งการให้ศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดในพื้นที่ประสบภัยทุกจังหวัด ระดมสรรพกำลังและทรัพยากรปฏิบัติการแก้ไขปัญหาและให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัยอย่างเต็มกำลัง เร่งระบายน้ำออกจากพื้นที่ลุ่มต่ำ ขนย้ายสิ่งของขึ้นที่สูง อพยพประชาชนไปยังพื้นที่ปลอดภัย สำหรับจังหวัดที่สถานการณ์คลี่คลายแล้ว ได้ส่งเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่สำรวจความเสียหาย เพื่อให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัยและฟื้นฟูพื้นที่ประสบภัยให้กลับสู่สภาพปกติโดยเร็ว อย่างไรก็ตาม ปภ.ยังคงจัดเจ้าหน้าที่และมิสเตอร์เตือนภัยติดตามเฝ้าระวังสถานการณ์ภัยอย่างต่อเนื่องตลอด 24 ชั่วโมง โดยเฉพาะพื้นที่ลุ่มต่ำ และพื้นที่ริมแม่น้ำ พร้อมจัดเตรียมชุดเคลื่อนที่เร็ว เครื่องมืออุปกรณ์ประจำพื้นที่เสี่ยงให้พร้อมปฏิบัติการเผชิญเหตุและช่วยเหลือผู้ประสบภัยทันทีที่เกิดภัย
สำหรับประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากอุทกภัย และวาตภัย สามารถติดต่อขอความช่วยเหลือได้ทางสายด่วนนิรภัย 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง