จากกรณีผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ Jitpanu Suwanchaisak ได้โพสต์ข้อความพร้อมด้วยภาพถ่ายจากกล้องวงจรปิดว่า "มีใครรู้จักชายในรูปให้ช่วยมาจ่ายเงินด้วยครับ เนื่องจากเมื่อเช้าเข้ามาใช้บริการนวดอโรม่าที่ร้านเป็นเวลา 2 ชั่วโมงแล้ว ไม่ยอมจ่ายเงิน บอกว่าจะไปกดเงินที่ตู้เอทีเอ็มแล้วหนี้ไปเลย..."

     
ภาพจากกล้องวงจรปิดเวลา 09.28 น.สามารถจับภาพคนร้ายเป็นชายอายุประมาณ 35-40 ปี สวมหน้ากากอนามัย ใส่กางเกงขายาว เสื้อยืดสีเหลืองด้านในสวมเสื้อคลุมสีครีมเดินเข้ามาภายในร้านนั่งรอคิวก่อนพนักงานร้านจะเรียกให้ขึ้นไปบริเวณชั้น 2 เพื่อไปห้องนวดอโรม่า จนกระทั่งเวลา 11.56 น.คนร้ายได้เดินออกจากร้าน กล้องวงจรปิดอีกตัวบริเวณด้านหน้าร้านจับภาพคนร้ายเดินไปขึ้นจยย.แล้วขับหลบหนีไป

     

ล่าสุดผู้สื่อข่าวลงพื้นที่บริเวณร้าน โอเคดี นวดเพื่อสุขภาพ ร้านนวดไทยและสปา พบเป็นตึกแถวปลูกติดกันเลขที่ 72/5 ถ.สุขาประชาสรรค์ ต.บางพูด อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี ตั้งอยู่ริมถนนใกล้เคียงวัดกู้เพื่อสอบถามน.ส.วิลาวัลย์ วงค์ไชยา อายุ 37 ปี พนักงานภายในร้าน ถึงเหตุการณ์ที่พนักงานร้านถูกคนร้ายเป็นชายเข้ามานวดน้ำมันภายในร้านหลังจากนวดเสร็จเรียบร้อยแล้วคนร้ายใช้อุบายหลอกจะไปกดเงินตู้เอทีเอ็มบริเวณใกล้เคียงร้านก่อนจะเดินไปขี่จยย.ที่จอดไว้แล้วรีบขับหลบหนีไป เหตุเกิดเมื่อวันที่ 12 ต.ค.63 

 

น.ส.วิลาวัลย์ เล่าว่า เหตุเกิดเมื่อวานตอนประมาณ 9 โมงกว่าคนร้านเข้ามาในร้านแล้วใช้บริการนวดไป 1 ชั่วโมง ต่อมาใกล้หมดเวลาคนร้ายได้เพิ่มเวลาเป็น  2 ชม. หลังจากนวดเสร็จเรียบร้อย ตนบอกให้ไปจ่ายเงินที่แคทเชียร์ แต่คนร้ายขอโอนผ่านแอพพลิเคชั่นในโทรศัพท์มือถือ ถามตนว่าโอนได้ไหม ตนตอบไปว่าโอนได้คนร้ายอ้างว่ามือถือแบตหมดจะออกไปกดเงินให้ที่ตู้ ATM ตนไม่ได้เอะใจอะไรเพราะตู้มันอยู่ใกล้กับร้านเขาก็ขึ้นคร่อมรถจยย. แต่ไม่จอดตรงตู้ ATM ขับผ่านไปเลย อยากฝากถึงร้านนวดทั่วไปว่าถ้าเจอกรณีแบบนี้ให้ขอของมีค่าเพื่อมัดจำไว้ก่อน ให้มาเอาคืนหลังจากจ่ายเงินแล้ว