ผู้สื่อข่าว ONBnews รายงานว่า อ่างเก็บน้ำห้วยแอ่งลดระดับอย่างรวดเร็วบางที่แห้งขอดอันเกิดจากสถานการณ์ฝนทิ้งช่วง ข้าวที่ปลูกแล้วกำลังยืนต้นแห้งเหี่ยวตาย กว่า 2 หมื่นไร่ ชาวบ้านจากจังหวัดที่อยู่ใกล้เคียงกับจังหวัดร้อยเอ็ดถือโอกาสแห่จับปลาวันละร่วมร้อยคนหลังปริมาณน้ำในห้วยแอ่งลดระดับลง

จากสถานการณ์ฝนทิ้งช่วงที่จังหวัดร้อยเอ็ด น้ำในอ่างเก็บน้ำแห้งขอดเกิดภัยแล้งได้ส่งผลกระทบอย่างต่อเนื่อง น้ำในอ่างเก็บน้ำหลายแห่งในจังหวัดร้อยเอ็ดแห้งขอด โดยเฉพาะอ่างเก็บน้ำห้วยแอ่ง ซึ่งเป็นอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ พื้นที่กว่า 2,600 ไร่ ความจุน้ำ 22.29 ล้านลูกบาศก์เมตร ที่ชาวตำบลโพธิ์สัย อำเภอศรีสมเด็จ ตำบลผักแว่น อำเภอจังหาร ตำบลสีแก้ว อำเภอเมืองร้อยเอ็ด จังหวัดร้อยเอ็ด และบางหมู่บ้านในจังหวัดมหาสารคาม ใช้น้ำเพื่อการเกษตร โดยเฉพาะข้าวที่ปลูกแล้วขาดน้ำกำลังยืนต้นแห้งเหี่ยวตายกว่า 2 หมื่นไร่ จากนี้ไปคงต้องรอฝนตกเพื่อที่จะหว่านข้าวใหม่อีกรอบ ถึงแม้ว่าจะทำให้ต้นทุนการผลิตสูงขึ้นก็ตาม

จากการสำรวจพบว่า "อ่างเก็บน้ำห้วยแอ่ง" ความจุน้ำจาก 22.29  ล้านลูกบาศก์เมตร เหลือเพียงไม่ถึง 3.468 ล้านลูกบาศก์เมตร เรียกว่า "น้ำตาย" มองเห็นผิวดินได้อย่างชัดเจน รถยนต์และรถจักรยานยนต์สามารถลงไปจอดได้ โดยมีประชาชนจากจังหวัดร้อยเอ็ดและจังหวัดใกล้เคียง เช่น กาฬสินธุ์  มหาสารคาม ประมาณวันละ 100 คน เหมารถมาทอดแห จับปลา ได้ปลาขาว ปลานิล ปลาตะเพียร กุ้ง และหอย จากการสอบถามผู้ที่มาจับปลาส่วนใหญ่จะจับปลาเพื่อนำไปเป็นอาหาร และชาวบ้านบางคนนำไปขายเพื่อเลี้ยงชีพ

นายสมทรง แสนแก้ว อายุ 60 ปี ชาวบ้านหัน ตำบลเขวา อำเภอเมืองมหาสารคาม จังหวัดมหาสารคาม 1 ในจำนวนผู้เหมารถมาทอดแหจับปลาที่ห้วยแอ่ง กล่าวว่า  ปีนี้น้ำห้วยแอ่งแห้งขอดเพราะปล่อยน้ำไปใส่นาข้าวที่กำลังจะแห้งตายหลายหมื่นไร่ ปกติปริมาณน้ำจะอยู่ในระดับสูงมาก ปีนี้แล้งหนักจำเป็นต้องปล่อยน้ำ ถ้าไม่ปล่อยข้าวตายหมดแน่ โดยเฉพาะที่น้ำไปไม่ถึงเหมือนถูกไฟไหม้หมด ต้นข้าวเหลืองเป็นเหมือนสีฟาง ตายเกือบหมดแล้ว โดยเฉพาะบ้านตนเพราะคลองส่งน้ำไม่ถึง เมื่อน้ำน้อยก็พากันมาจับปลา พอได้อยู่ได้กินที่เหลือนำไปขาย วันละ 9-10 กิโลกรัม ขายได้กิโลกรัมละ 50-60 บาท ส่วนปลาจะได้มากหรือน้อยก็ชึ้นอยู่อยู่ที่จำนวนคนมาจับ