เมื่อวันที่ 15 ตุลาคม 2563 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่จังหวัดตรังเบื้องต้นมีพื้นที่ประสบภัยพิบัติ จำนวน 8 อำเภอ 27 ตำบล 3 เทศบาล 3 ชุมชน 83 หมู่บ้านกว่า 1000 ครัวเรือน ทั้งนี้ นายขจรศักดิ์ เจริญโสภา ผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง กล่าวว่า ขณะนี้สถานการณ์น้ำท่วมในจังหวัดตรังเริ่มคลี่คลายฝนหยุดตกเป็นช่วงๆ 

ทั้งนี้ หลังจากพายุน้ำท่วมในพื้นที่เนื่องจากว่าฝนตกมาตั้งแต่วันที่ 7 หนักบ้างเบาบ้างแต่เริ่มหนักตั้งแต่วันที่ 11-12 ต.ค. ตอนนี้ภาพรวมประมาณ 8 อำเภอที่เดือดร้อนอยู่ และมีข่าวในเรื่องของผนังดินที่แตกออกไปทางนายประพิส จันทร์มา รองอธิบดีกรมชลประทานและตนได้ลงพื้นที่แก้ปัญหาให้ประชาชน และได้ลงไปมอบถุงยังชีพให้พี่น้องประชาชนที่ตำบลบางรักเรียบร้อย และจังหวัดเปิดศูนย์บัญชาการเหตุการณ์ระดับจังหวัดและระดับอำเภอ และศูนย์ปฏิบัติการฉุกเฉินระดับตำบลด้วย

ขณะนี้ระดับน้ำในภาพรวมเริ่มลดลงในหลาย ๆ อำเภอที่ได้รับผลกระทบ ทางจังหวัดมีมาตรการเร่งด่วนที่ได้พูดคุยกับรองอธิบดีกรมชลประทาน ทางชลประทานจะเอาหินแกรเมี่ยนไปวางปิดตรงที่ผนังดินพังลงมา เพื่อเป็นการชะลอน้ำ และตรงที่ประตูระบายน้ำที่ยังสร้างไม่เสร็จเขาจะเอากระสอบทรายไปวางเพื่อที่จะกั้นชลอน้ำเพื่อให้น้ำไหลน้อยลง หากโครงการนี้เสร็จสามารถจะแบ่งน้ำเข้าเมืองตรังและแยกไปให้น้ำลงไปที่กันตังเร็วที่สุด ส่วนราษฎรที่ตำบลบางรัก ทางชลประทานจะไปทำแนวสันเขื่อนไว้เพื่อจะสูบน้ำที่ท่วมบางรักออกมา โดยตอนนี้ติดตั้งเครื่องสูบน้ำเพิ่มจาก 5 ตัว เป็น 8 ตัว ซึ่งภายใน 2 วัน ถ้าฝนไม่ตกตรงนั้นคงจะแห้ง

การป้องกันในช่วงเกิดเหตุตนก็ได้มีการฟังพยากรณ์อากาศของกรมอุตุ เรามีการแจ้งเตือนไปยังทุกอำเภอให้อำเภอแจ้งไปยังท้องถิ่นกำนันผู้ใหญ่บ้านเพื่อเตือนพี่น้องประชาชน ผมเน้นย้ำว่าการแจ้งเตือนประชาชนเป็นสิ่งสำคัญ โดยเฉพาะจุดที่เป็นที่ลุ่มต่ำ ตรงนี้ให้ประชาชนเตรียมอพยพ เพราะมีจุดอพยพที่ปลอดภัยอยู่แล้ว ถ้าเหตุการณ์ไม่ดีก็อพยพขึ้นมาเลย เมื่อ 2 วันที่แล้วก็ไปดูที่เขตอำเภอเมือง ก็เห็นชาวบ้านและได้เตือนชาวบ้านว่าน้ำเริ่มแล้วให้เตรียมการอพยพ ซึงหลายคนก็รับปากว่าเดี๋ยวถ้าท่วมสูงกว่าจะอพยพไปที่ปลอดภัย