เมื่อวันที่ 22 กรกฎาคม 2562 ผู้สื่อข่าว ONB news รายงานว่า นายศุภชัย โพธิ์สุ หรือครูแก้ว  รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่ 2 ส.ส.นครพนม เขต 1 พรรคภูมิใจไทยไทย   พร้อมคณะ ประสานงานร่วมกับ นายทินกร ขันแก้ว นายอำเภอนาหว้า จ.นครพนม  นายศุภชัย วิเศษ  เกษตรอำเภอนาหว้า นายสฤษดิ์ ไตรตระกาลเดช นายก อบต.บ้านเสียว นายกุล  แก้วลา กำนันตำบลท่าเรือ นายอนันต์ นนท์ศิริ หัวหน้าฝ่ายส่งน้ำและบำรุงรักษาที่ 1 โครงการชลประทานนครพนม  นายทันใจ ณ รังสี ส.อบจ.เขต อ.ศรีสงคราม  และผู้นำชุมชนท้องถิ่น เจ้าหน้าที่จากหน่วยงานเกี่ยวข้อง ลงพื้นที่ ตรวจเยี่ยม ติดตามปัญหาความเดือดร้อน ของ เกษตรกร ในพื้นที่  ต.ท่าเรือ ต.บ้านเสียว อ.นาหว้า จ.นครพนม  ที่ได้รับผลกระทบจากปัญหาภัยแล้ง หนักสุดรอบ 50 ปี หลังระดับน้ำโขงลดต่ำสุดช่วงฤดูฝน ส่งผลให้ ลำน้ำอูน ลำน้ำสงคราม เหลือปริมาณแค่ประมาณ 20 – 30 เปอร์เซ็นต์  รวมไปถึงแหล่งน้ำธรรมชาติแห้งขอด และเกิดปัญหาฝนทิ้งช่วง ติดต่อกัน นับเดือน

 

 

เบื้องต้นจากการลงพื้นที่ ตรวจสอบ พบว่า พื้นที่ อ.นาหว้า จ.นครพนม  มีพื้นที่เกษตรนาข้าว กว่า 1.1 แสนไร่ มีพื้นที่ได้รับผลกระทบแล้ว กว่า 40,000 ไร่ ได้รับความเสียหายแล้ว กว่า 10,000 ไร่  หากยังไม่มีฝนตกลงมาอีกประมาณ 1 สัปดาห์ คาดว่า จะเสียหายทั้งหมด กว่า 40,000 ไร่ เนื่องจาก ขาดน้ำหล่อเลี้ยง และไม่มีแหล่งน้ำสำรอง  โดยได้มีการประสานไปยัง หน่วยงานเกษตร ชลประทานในพื้นที่ รวมถึง องค์กรปกครอง ส่วนท้องถิ่น เร่งบริหารจัดการน้ำจากโครงการ ประตูระบายน้ำหนองบัว โครงการพัฒนาลุ่มน้ำอูน  รวมถึง มีการเดินเครื่องจากสถานี สูบน้ำตามลำน้ำอูน ช่วยเหลือพื้นที่ นาข้าว ที่สามารถดำเนินการได้  แก้ไขปัญหาเบื้องต้น

 

 

นายศุภชัย โพธิ์สุ  หรือครูแก้ว  รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่ 2 ส.ส.นครพนม เขต 1 พรรคภูมิใจไทยไทย   เปิดเผยว่า  วันนี้ได้ลงพื้นที่ตรวจติดตามรับทราบปัญหาความเดือดร้อน ของชาวบ้าน ในพื้นที่ อ.นาหว้า อ.ศรีสงคราม ซึ่งได้รับผลกระทบจากภัยแล้งขั้นวิกฤติสุดในรอบ กว่า 30 ปี  หลังน้ำโขงแห้ง ส่งผลลำน้ำอูน ลำน้ำสงคราม ในพื้นที่ อ.นาหว้า อ.ศรีสงคราม แห้งขอด ปริมาณน้ำต่ำ ไม่เพียงพอ สำหรับช่วยเหลือพื้นที่การเกษตร ซึ่งจากการลงพื้นที่ อ.นาหว้า จ.นครพนม ปัจจุบันพบว่า มีพื้นที่ นาข้าว นาปี ของเกษตรกร เสียหายแล้วกว่า 10,000 ไร่ ยืนต้นตาย และยังมีพื้นที่ได้รับผลกระทบ อีกกว่า 40,000 ไร่ หากในช่วงสัปดาห์หน้า ฝนไม่ตกลงมา คาดว่าจะเสียหายทั้งหมด ชาวบ้านเกษตรกร จะเดือดร้อนหนัก เพราะปริมาณน้ำในลำน้ำอูน ลำน้ำสงคราม เหลือน้อย วิกฤติสุดในรอบกว่า 30 ปี ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน