ส.ส.เขต 2 ยื่นญัตติด่วนต่อสภาผู้แทนราษฎร ตั้งกรรมาธิการแก้ปัญหาสวนปาล์มหมดสัมปทาน
22 ก.ค. 2562, 17:51
กรณีปัญหาสวนปาล์มน้ำมันในพื้นที่ จ.กระบี่ 73,000 ไร่ รวมทั้งหมด 14 แปลง หมดอายุสัมปทานจากกรมป่าไม้ ซึ่งก่อนนี้หนึ่งในผู้เช่า เป็น บ.ยูนิวานิชน้ำมันปาล์ม จก.(มหาชน) ขอเช่าพื้นที่ทำประโยชน์ปลูกปาล์มน้ำมัน เนื้อที่ 7,108 ไร่ ในต.ปลายพระยา อ.ปลายพระยา ต่อเนื่อง อ.อ่าวลึก จ.กระบี่ กำหนดระยะเวลาเช่านาน 30 ปี เริ่มตั้งแต่วันที่ 22 เม.ย.2526 กระทั่งหมดอายุสัมปทานเมื่อวันที่ 21 เม.ย.2556 พยายามยื่นขอให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ต่อสัญญาสัมปทาน แต่มติครม.ในขณะนั้นไม่อนุญาตให้ต่อสัญญาสัมปทานในที่ดินดังกล่าว ทางกรมป่าไม้ จึงเข้าดำเนินการยึดคืนพื้นที่ เนื่องจากที่ดินดังกล่าวอยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติ แต่ทางบริษัทฯ ยื่นฟ้องต่อกรมป่าไม้ ระหว่างการฟ้องร้อง ทางบริษัทฯ ได้ยื่นขอให้ศาล จ.กระบี่ มีคำสั่งคุ้มครองชั่วคราว โดยอ้างว่าพื้นที่ดังกล่าว อยู่ในระหว่างยื่นขอเอกสารสิทธิ์ น.ส.3 ก. โดยอ้างว่าบริษัทฯยื่นขอมาก่อนจะประกาศเป็นเขตป่าสงวน
กระทั่งต่อมาเมื่อวันที่ 19 ธ.ค. 61 ศาล จ.กระบี่ มีคำสั่งคุ้มครองชั่วคราว คดีแพ่งหมายเลขดำที่ 1123/2561 ให้คุ้มครองชั่วคราว บ.ยูนิวานิชน้ำมันปาล์ม จก.(มหาชน) ฝ่ายโจทก์ในคดี โดยห้ามไม่ให้จำเลย (กรมป่าไม้) และบริวาร เข้ารบกวนสิทธิในการครอบครองทำประโยชน์ของโจทก์ในที่ดินดังกล่าว และให้โจทก์เข้าทำการปกป้องคุ้มครอง ดูแลบำรุงรักษาให้น้ำ ใส่ปุ๋ย ฟื้นฟูต้นปาล์มน้ำมัน หรือเก็บเกี่ยวผลปาล์มน้ำมันในที่ดินดังกล่าว จนกว่าศาลจะมีคำสั่งเป็นอย่างอื่น ทำให้กรมป่าไม้ ไม่สามารถเข้าดำเนินการยึดคืนพื้นที่ได้ ต่อมามีกลุ่มชาวบ้านออกมาเคลื่อนไหวเรียกร้องให้นำที่ดินดังกล่าวมาจัดสรรให้ผู้ไร้ที่ดินทำกัน จนเกิดการปะทะกันหลายครั้งกับฝ่ายบริษัทฯ นอกจากนี้ยังมีการร้องเรียนว่า พื้นที่บางส่วนมี จนท.ของรัฐ เข้าไปเรียกรับผลประโยชน์จากรายได้ปาล์มน้ำมัน จนท.บางส่วนเข้าไปจัดสรรที่ดินขายสิทธิครอบครองกันโดยผิดกฎหมาย เพื่อเข้าไปเก็บเกี่ยวผลประโยชน์จากผลปาล์ม
ล่าสุดผู้สื่อข่าว ONB news รายงานจาก จ.กระบี่ เมื่อเวลา 11.30 น. วันที่ 22 ก.ค.62 นายสมโภช โชติชูช่วง รองผวจ.กระบี่ เชิญหน่วยงานเกี่ยวข้อง รวมถึงนายสฤษฎ์พงษ์ เกี่ยวข้อง หรือโกสุทธิ์ ส.ส.เขต 2 พรรคภูมิใจไทย จ.กระบี่ ประชุมหารือการแก้ไขปัญหาการรุกพื้นที่สวนปาล์มที่ บ.ยูนิวานิชน้ำมันปาล์ม จก.(มหาชน) เป็นผู้เช่าจากทางราชการซึ่งอยู่ระหว่างการยื่นคำขอต่อสัญญาเช่ารวมทั้งพื้นที่ที่ถือครองกรรมสิทธิ์ และมีผู้เข้าบุกรุกถือครองเก็บเกี่ยวผลปาล์มโดยมิชอบด้วยกฎหมาย ซึ่งพื้นที่การใช้ประโยชน์ที่หมดอายุการอนุญาต อยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติ ป่าปลายคลองพระยา ท้องที่อ.อ่าวลึก และอ.ปลายพระยา เพื่อกำหนดแนวทางในการผลักดันให้บริษัทฯ ดังกล่าวออกจากพื้นที่ป่าสงวนฯ หลังศาลจ.กระบี่ มีคำสั่งยกเลิกการคุ้มครองชั่วคราว เมื่อวันที่ 19 ก.ค.ที่ผ่านมา เนื่องจากกรมป่าไม้ ยื่นคัดค้านคำสั่งคุ้มครองชั่วคราว โดยอ้างว่าที่ดินดังกล่าว อยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติฯ
ภายหลังการประชุม นายสฤษฎ์พงษ์ กล่าวว่า การแก้ปัญหาผู้บุกรุกพื้นที่ป่าสงวนฯ รายดังกล่าว ตนได้ยื่นญัตติด่วน ไปยังสภาผู้แทนราษฎร เพื่อขอให้ตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญ พิจารณาตรวจสอบและแก้ไขปัญหาในที่ดินดังกล่าวแล้ว ผลจากการประชุมหารือในวันนี้ เพื่อหาแนวทางในการบริหารจัดการพื้นที่ดังกล่าวให้ถูกต้องตามกฎหมาย และเป็นประโยชน์ต่อพี่น้องประชาชนใน จ.กระบี่ อย่างถูกต้อง เป็นธรรม และโปร่งใส ที่ประชุมมีมติดำเนินการดังนี้
1.เร่งสรุปข้อมูลการดำเนินการตรวจสอบพื้นที่, แนวทางในการแก้ปัญหา การป้องกันการบุกรุก นำเสนอ ผวจ.กระบี่ ทุกระยะเวลาและทุกขั้นตอน
2.มอบหมาย อ.ปลายพระยา ร่วมกับ สภ.ปลายพระยา สำนักจัดการป่าไม้ที่ 12 ดำเนินการผลักดันผู้บุกรุกที่เข้ายึดครองพื้นที่จำนวนประมาณ 100 คนออกจากพื้นที่ ภายใน 1 สัปดาห์ หากมีปัญหาอุปสรรคเกินขีดความสามารถให้ร้องขอการสนับสนุนจากจังหวัดทันที รวมทั้งให้จัดชุดปฏิบัติการตั้งจุดสกัดจุดตรวจป้องกันไม่ให้ผู้ไม่มีอำนาจหน้าที่ บุกรุกถือครองพื้นที่ดังกล่าวโดยผิดกฎหมาย
3.สรุปข้อมูลรายละเอียด ข้อกฎหมาย การดำเนินการ ปัญหาอุปสรรค แนวทางแก้ไขนำเสนอ ผวจ. และมอบให้ตนนำเสนอในการอภิปรายตามที่ยื่นกระทู้ต่อสภาฯ ต่อไป
ชมคลิป