ตร.ยันไม่มีอาวุธรุนแรงสลายการชุมนุม ใช้เพียงรถฉีดน้ำแรงดันเบาตามหลักสากล
17 ต.ค. 2563, 16:35
วันที่ 17 ต.ค. 2563 เวลา 14.00 น. ที่กองบังคับการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ต.ยิ่งยศ เทพจำนงค์ โฆษก ตร. พล.ต.ต.จิรสันต์ แก้วแสงเอก รอง ผบช.น. พล.ต.ต.สามารถ ม่วงศิริ นายแพทย์สบ 6 รพ.ตร. พร้อมด้วยพ.ต.อ.เอกลักษณ์ ดีรุ่งโรจน์ นายแพทย์ สบ 5 รพ.ตร. ตัวแทน รพ.ตร. ร่วมกันแถลงในฐานะกองอำนวยการร่วมแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรง (กอร.ฉ.) ชี้แจงรายละเอียดการสลายการชุมนุมที่แยกปทุมวัน เมื่อคืนวันที่ 16 ต.ค. ที่ผ่านมา
พล.ต.ต.ยิ่งยศ กล่าวว่า การปฏิบัติการเป็นไปตามหลักสากล มีการเผยแพร่คำเตือนแล้วทั้งในพื้นที่และผ่านทางสื่อมวลชน ยืนยันไม่ต้องการใช้กำลัง และไม่มีการใช้อาวุธรุนแรงในการสลายการชุมนุม มีการใช้เพียงรถฉีดน้ำซึ่งเป็นแบบแรงดันเบา ผสมสารเคมี ที่ตามหลักสากลระบุว่าเหมาะต่อการใช้ควบคุมสถานการณ์ เพื่อระงับยับยั้งเหตุความรุนแรง
พล.ต.ต.ยิ่งยศ กล่าวอีกว่า ส่วนสารเคมีที่ผสมไปในน้ำจะมีอาการข้างเคียงแค่ระคายเคืองเล็กน้อยเท่านั้น ไม่เป็นอันตรายถึงแก่ชีวิต หากวันนี้ยังมีการชุมนุมอีก ก็ต้องมีการปฏิบัติเป็นขั้นเป็นตอน ย้ำว่าการชุมนุมในเวลานี้เป็นเรื่องผิดกฎหมาย พร้อมเตือนเรื่องการทำลายระบบขนส่งมวลชน เป็นการกระทำผิดกฎหมายร้ายแรง
ด้าน พล.ต.ต.จิรสันต์ กล่าวว่า ในการดูแลความสงบเรียบร้อยการชุมนุม จำเป็นต้องมีการปิดการจราจรผ่านระบบขนส่งมวลชนต่าง ๆ โดยสถานีรถไฟฟ้า BTS จะมีการปิดให้บริการรวม 14 สถานี ตั้งแต่สถานีอารีย์ ถึงสถานีพร้อมพงษ์ และสถานีสนามกีฬาแห่งชาติ ถึงสถานีศาลาแดง ซึ่งจะเริ่มปิดให้บริการตั้งแต่เวลา 14.30 น. ส่วนสถานีรถไฟใต้ดินมีการปิดให้บริการเส้นทางสายสีน้ำเงินทั้งสาย ตั้งแต่เวลา 12.30 น. ส่วนสายสีม่วงยังให้บริการได้ตามปกติ ส่วนสถานีแอร์พอร์ตเรลลิงค์ จะปิดแค่สถานีพญาไทเท่านั้น
พล.ต.ต.จิรสันต์ กล่าวอีกว่า ส่วนการจราจรพื้นราบ จะมีการปิดการจราจร 2 สถานที่ คือ บริเวณวงเวียนอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ และที่แยกอโศก-เพชรบุรี โดยการปิดการจราจรพื้นราบจะพิจารณาปิดตามสถานการณ์จริงเท่านั้น ส่วนผู้ที่จำเป็นต้องเข้าโรงพยาบาลใกล้จุดที่มีการปิดการจราจร ได้กำหนดเส้นทางเลี่ยงให้เข้าไปบริเวณด้านหลังของโรงพยาบาลแทนแล้ว
พล.ต.ต.จิรสันต์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ส่วนการใช้ทางด่วนลงอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ยังสามารถใช้การได้ แต่จะไม่สามารถเข้าไปในวงเวียนได้หากมีการปิดการจราจรไปแล้ว จึงแนะนำประชาชนที่ต้องเดินทางผ่าน 2 จุดนี้ ควรเลี่ยงไปใช้เส้นทางอื่น หรือตรวจสอบเส้นทาง ก่อนออกเดินทาง ทั้งนี้การเลือกปิดเส้นทางดังกล่าวเป็นเพียงสมมติฐานว่ากลุ่มผู้ชุมนุมอาจมีการชุมนุมในพื้นที่ดังกล่าว แต่หากมีสถานการณ์เปลี่ยนแปลงก็จะมีการปรับเปลี่ยนวิธีการต่อไป พร้อมย้ำว่าจะมีการจัดการจราจรเพื่อลดผลกระทบให้กับประชาชนให้น้อยที่สุด
ที่มา khaosod