"บิ๊กตู่" เผยวิสัยทัศน์ "มั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน" -เชื่อวุฒิภาวะ "ส.ส.-ส.ว." โหวตนายกฯ 5 มิ.ย.นี้
4 มิ.ย. 2562, 14:57
วันนี้ ( 4 มิ.ย.62 ) เวลา 13.10 น. ณ บริเวณห้องโถงกลาง ตึกบัญชาการ 1 ทำเนียบรัฐบาล พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีกล่าวให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรีถึงเหตุผลในการปฏิเสธไม่ไปแสดงวิสัยทัศน์ในวันโหวตนายกรัฐมนตรี 5 มิ.ย. นี้ว่า เรื่องการแสดงวิสัยทัศน์ ตนเองได้ตอบไปแล้ว ที่ผ่านมาได้ทำหน้าที่โดยพยายามทำให้ดีที่สุด พยายามแก้ไขปัญหาต่าง ๆ มากมาย ทั้งนี้ วิสัยทัศน์ของตนคือมั่นคง มั่นคั่ง ยั่งยืน ภายในหลักการสามัญคือการมองอนาคตไปข้างหน้า และมีแผนปฏิบัติราชการมาโดยตลอด ซึ่งได้จัดทำยุทธศาสตร์ชาติและแผนแม่บทไว้อีกด้วย ทั้งนี้ เพื่อให้เกิดความต่อเนื่องในการบริหารราชการแผ่นดิน ลดความเหลื่อมล้ำ กระจายรายได้ เพิ่มความเชื่อมโยงในทุกมิติ ทั้งกายภาพและในส่วนของดิจิทัล ต้องปรับตัวเองให้สอดคล้องกับสถานการณ์โลกในวันนี้ด้วย
สำหรับการเลือกนายกรัฐมนตรี ในวันพรุ่งนี้จะเป็นอย่างไรนั้น นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า จะเกิดอะไรขึ้นก็ขอให้มองในทางที่ดี อย่าไปมองในทางที่ไม่ดี โดยเชื่อในวุฒิภาวะของ ส.ส. และ ส.ว. ซึ่งเป็นสมาชิกผู้ทรงเกียรติ รวมถึงขีดความสามารถ ประสบการณ์ของประธานรัฐสภาทั้งสองคน น่าจะทำให้การประชุมในวาระการเลือกนายกรัฐมนตรีดำเนินการต่อไปได้ตามรัฐธรรมนูญและกฎหมายที่เกี่ยวข้อง ทั้งนี้ ต้องการให้พูดกันเฉพาะวาระที่กำหนดไว้ในการประชุมเท่านั้น
นายกรัฐมนตรีกล่าวต่อไปว่า วันนี้คนไทยทุกคน มุ่งหวัง คาดหวัง และรอฟังการประชุมร่วมรัฐสภาในวันพรุ่งนี้ ต้องการให้ทุกคนมั่นใจนักการเมือง ส.ส.ต่าง ๆ ที่ได้คัดเลือกจากประชาชนเข้ามาทำหน้าที่ผู้ทรงเกียรติ และทุกคนทราบดีถึงปัญหาที่เกิดขึ้นในประเทศไทย ในระยะเวลากว่า 10 ปี ทุกคนต้องนำมาเป็นบทเรียนว่าทำอย่างไรจะไม่เกิดขึ้นอีก ทำอย่างไรให้ประชาชนไม่เบื่อหน่าย ทำอย่างไรให้ประชาชนเชื่อมั่น ทำอย่างไรสิ่งที่ได้หาเสียงไว้ทำตามขั้นตอนตามความเหมาะสม ตามสถานการณ์ ซึ่งทุกอย่างไม่มีอะไรจะได้โดยเร็วทั้งหมด เพราะทั้งหมดจะต้องคำนึงถึงภาระงบประมาณของรัฐด้วย ถ้ายังเป็นแบบเดิม ๆ ประเทศไทยจะเสียโอกาสอีกมากมาย
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ช่วงนี้เศรษฐกิจโลกมีปัญหา สงครามการค้ายังไม่จบ สิ่งเหล่านี้มีผลกระทบกับประเทศไทยและอาเซียนและทุกภูมิภาคของโลกใบนี้ หลายคนบอกว่าอยากให้มีการปฏิรูป ซึ่งได้เริ่มต้นปฏิรูปมาระยะหนึ่งแล้ว จากนี้เป็นการปฏิรูปการเมืองในระบบรัฐสภา โดย ส.ส. และ ส.ว.ผู้ทรงเกียรติทั้งหลาย ต้องช่วยให้การปฏิรูปการเมืองเดินหน้าไปด้วยดี ไม่กลับไปสู่ปัญหาเดิม ๆ อีก ดังนั้น ควรเริ่มจากการประชุมครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่แสดงให้ประชาชนมั่นใจว่าเลือกมาแล้วไม่ผิด ไม่ใช่ของพรรคใดพรรคหนึ่ง