วันนี้ 19 ต.ค.63 ผู้สื่อข่าว ONB news รายงานว่า สถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ 4 อำเภอของ จ.กาญจนบุรี ประกอบด้วย อำเภอด่านมะขามเตี้ย อำเภอท่ามะกา อำเภอศรีสวัสดิ์ และอำเภอห้วยกระเจา เริ่มคลี่คลาย ปริมาณน้ำเริ่มลดระดับลงอย่างต่อเนื่องในทุกๆ จุด หลังจากเมื่อคืนที่ผ่านมาบางพื้นที่ฝนได้หยุดตกแล้ว และบางพื้นที่ฝนตกเบาบางลง คาดว่าหากไม่มีฝนตกลงมาซ้ำอีก ภายใน 2-3 วัน สถานการณ์น่าจะกลับมาสู่ภาวะปกติ

 

สำหรับ พื้นที่ตำบลสระลงเรือ อำเภอห้วยกระเจา ซึ่งพบว่า น้ำป่าได้ไหลบ่าเข้าท่วมพื้นที่ลุ่มต่ำ และพื้นที่เกษตรเป็นวงกว้าง รวมทั้งเส้นทางคมนาคมสายหลักบางจุดก็มีน้ำท่วมขังเช่นกัน ส่วนบ้านเรือนของราษฎรได้รับผลกระทบหลายร้อยหลังคาเรือน แต่เมื่อคืนที่ผ่านมาในพื้นที่ฝนได้หยุดตกแล้ว ทำให้ระดับน้ำในหลายพื้นที่เริ่มลดระดับลง คาดว่าหากฝนไม่ตกลงมาซ้ำอีกภายใน 2-3 วันสถานการณ์จะกลับเข้าสู่สภาวะปกติ หลังเจ้าหน้าที่เร่งนำเครื่องจักรขนาดใหญ่ลงเปิดเส้นทางเดินน้ำให้ไหลสะดวกมากขึ้น

 

โดย นายอนุชา สุขเชิงชาย นายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลสระลงเรือ เผยว่า เบื้องต้นทางเทศบาล ตำบลสระลงเรือ ได้เข้าช่วยเหลือราษฎรผู้ประสบภัย ด้วยการนำถุงยังชีพ พร้อมยาสามัญประจำบ้านไปแจกจ่ายตามบ้านเรือนที่ยังติดเกาะอยู่ และที่ท่วมขังเป็นเวลานานหลายวัน ส่วนพื้นที่ทางการเกษตรจะเร่งสำรวจความเสียหายเพื่อรายงานให้ทางอำเภอทราบ เพื่อเยียวยาช่วยเหลือพี่น้องประชาชนต่อไป

 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากสานการณ์ฝนที่ตกซึ่งเกิดจากอิทธิพลของ พายุฝนที่พัดเข้ามาในประเทศไทย ส่งผลให้มีฝนตกหนักในพื้นที่ จ.กาญจนบุรี  จนทำให้เกิดน้ำท่วมในหลายพื้นที่ใน อำเภอห้วยกระเจา อำเภอเลาขวัญ และอำเภอด่านมะขามเตี้ย ซึ่งเป็นพื้นที่ใต้อ่างเก็บน้ำ ของ 2 ของ จ.กาญจนบุรี ทั้งเขื่อนวชิราลงกรณ และเขื่อนศรีนครินทร์ ส่งผลให้ปริมาณน้ำที่กักเก็บได้ของทั้ง 2 เขื่อนยังคงอยู่ในปริมาณที่น่าเป็นห่วง

 

โดยเฉพาะเขื่อนวชิราลงกรณ พบว่าปัจจุบันมีปริมาณน้ำในเขื่อนเพียง 4,677.85 ล้าน.ลบ.ม คิดเป็นร้อยละ 52.80 % จากปริมาณน้ำกักเก็บสูงสุด 8,860 ล้าน.ลบ.ม. ทำให้ปัจจุบันมีปริมาณน้ำที่สามารถนำมาใช้ได้เพียง 1,665.85 ล้าน.ลบ.ม  คิดเป็นร้อยละ 28.49%  นับเป็นปริมาณน้ำน้อยมากหากเปรียบเทียบกับปริมาณน้ำที่มีให้ใช้ในรอบหลายๆปีที่ผ่านมา ขณะที่เขื่อนศรีนครินทร์ พบว่าวันนี้มีปริมาณน้ำที่กักเก็บได้ที่ 12,854.21 ล้าน.ลบ.ม คิดเป็นร้อยละ 72.44%  โดยมีปริมาณน้ำที่สามารถใช้ได้อยู่ที่ 2,589.21  คิดเป็นร้อยละ 34.62%  

 

จึงเป็นความวิตกกังวลของหน่วยงานที่ดูแลเรื่องการจัดการน้ำไว้ใช้ในเรื่องอุปโภค บริโภค รวมไปถึงภาคการเกษตร ที่ต้องเริ่มเตือนประชาชน  ให้เตรียมรับมือปัญหาสถานการณ์ภัยแล้งที่จะเกิดตามมาในปี พ.ศ. 2564 โดยเตือนให้ประชาชนใช้น้ำอย่างปะหยัด และให้เกษตรกร เตรียมวางแผนการปลูกพืช ที่มีอายุสั้น ใช้น้ำน้อย เพื่อให้ทุกภาคส่วนปรับตัวตามสถานการณ์ที่เกิดขึ้น เพื่อลดปัญหาและความสูญเสียที่จะเกิดตามมาจากปัญหา น้ำน้อยในปีหน้า./