รอลุ้น ! ศาลอุทธรณ์ภาค 7 นัดฟังคำพิพากษาคดีหวย 30 ล้าน วันนี้
20 ต.ค. 2563, 08:05
จากกรณีศาลอุทธรณ์ภาค 7 ได้นัดฟังคำพิพากษาในคดีมหากาพย์ ลอตเตอรี่ 30 ล้านบาท ในคดีที่ นายปรีชา ใคร่ครวญ หรือ ครูปรีชา เป็นโจทย์ยื่นฟ้อง ร.ต.ท.จรูญ วิมูล หรือหมวดจรูญ ในข้อหายักยอกทรัพย์ รับของโจร ในวันพรุ่งนี้ (20 ต.ค.63) เวลา 09.00 น. ที่ศาลจังหวัดกาญจนบุรี นั้น
ล่าสุดวันที่ 19 ต.ค.63 ผู้สื่อข่าว ONB news รายงานว่าได้เดินทางไปที่ร้านอาหาร “บ้านสวนครูปรีชา” เลขที่ 149/22 หมู่ 3 ต.ปากแพรก อ.เมือง จ.กาญจนบุรี ของ นายปรีชา ใคร่ครวญ หรือครูปรีชา เมื่อไปถึงพบ ครูปรีชา กลับจากโรงเรียนพอดี
โดย ครูปรีชา เผยว่า ตามที่ศาลอุทธรณ์ภาค 7 ได้นัดฟังคำพิพากษาในคดีที่ตนเป็นโจทก์ยื่นฟ้อง หมวดจรูญ ในวันพรุ่งนี้ ซึ่งเลื่อนเร็วขึ้นจากเดิมที่นัดไว้ก่อนหน้านี้วันที่ 21 มกราคม 2564 นั้น ตนเดินทางฟังคำพิพากษาแน่นอน เพราะเป็นวันที่ตนรอคอยมนานแล้ว โดยมีความมั่นใจ 100% ว่าลอตเตอรี่เป็นของตน แต่ก็ต้องรอฟังผลคำตัดสินว่าจะออกมาเป็นอย่างไร ซึ่งหากผลออกมาไม่เป็นไปตามที่คาดไว้ ก็จะใช้สิทธิ์ตามกฎหมายต่อไป แต่คงไม่ไปคาดเดาว่าผลจะออกมาเป็นเช่นไร ต้องรอฟังพรุ่งนี้ก่อน
ส่วนการกราบไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ก่อนไปฟังคำพิพากษานั้น ปกติตนก็ทำเป็นประจำอยู่แล้ว ซึ่งวันนี้ก็ไปทำงานตามปกติ โดยพรุ่งนี้จะเดินทางไปพร้อมกับ นายวรยุทธ บุญวงษ์ใส ทนายความส่วนตัว และทีมงาน ส่วน 3 เจ๊ คือ นางสาวรัตนาพร สุภาทิพย์ หรือ เจ๊บ้าบิ่น นางสาวพัชริดา พรมตา หรือ เจ๊พัช และนางปณัญชยา สุขพูล หรือ เจ๊เกียว แม่ค้าลอตเตอรี่พยานปากสำคัญ คาดว่าน่าจะเดินทางไปด้วย แต่ยังไม่ได้พูดคุยกัน ส่วนแฟนคลับก็น่าจะไปให้กำลังใจกันเป็นจำนวนมาก แต่ปกติบรรดาแฟนคลับจะมาอุดหนุนที่ร้านอาหารเป็นประจำอยู่แล้ว
อย่างไรก็ตาม ความจริงก็คือความจริง ความจริงลอตเตอรี่เป็นของตนเอง แต่พลาดทำตกหล่นหายไป ตนตกเป็นผู้เสียหาย จึงได้ใช้สิทธิ์ตามกฎหมาย ขอขอบคุณประชาชนที่ติดตามข่าวและให้กำลังใจมาโดยตลอด ไม่ได้รู้สึกตื่นเต้นหรือเครียด เพราะคิดเสมอว่า ความจริงก็คือความจริง และวันหนึ่งความจริงก็ต้องปรากฏ
ขณะที่ นางสาวรัตนาพร สุภาทิพย์ หรือ เจ๊บ้าบิ่น ซึ่งวันนี้ไม่ได้ไปขายลอตเตอรี่ เนื่องจากยังไม่ได้รับมาจำหน่าย เผยว่า พรุ่งนี้ตนจะเดินทางไปฟังคำพิพากษาของศาลอุทธรณ์ภาค 7 ด้วย โดยมีความมั่นใจ 100% เพราะเรามีหลักฐานการสืบทรัพย์ที่ชัดเจน แต่จะเชื่อหรือไม่เชื่อ ขึ้นอยู่กับความคิดส่วนบุคคล แต่พวกเรานอนทับความจริงทุกวัน
“ไม่ได้รู้สึกเครียดหรือตื่นเต้นกับการไปฟังผลการตัดสินในวันพรุ่งนี้เลย เพราะเรามีหลักฐานการสืบทรัพย์ เลขเทียบรัน รูปถ่าย มีการค้าขายจริง และมีคนเห็นหลายคน แต่ที่ไม่มาเป็นพยานเพราะว่าการพูดของเจ้าหน้าที่ตำรวจบางหน่วยงาน ทำให้พวกเขาเบื่อที่จะเป็นคนดี ทุกวันนี้การเป็นคนดีอยู่ลำบาก ทำให้ประเทศของเราเน่าเฟะ ขาดความเชื่อถือไป อย่างไรก็ตามตนเชื่อในสุภาษิตซื่อกินไม่หมด คดกินไม่นาน คนที่เอาความเท็จมาพูด ซักวันกฏแห่งกรรมก็จะตามทัน ซึ่งเรายึดถือความถูกต้องเป็นหลัก”
ส่วนนางปณัญชยา สุขผล หรือ เจ๊เกียว แจ้งทางไลน์บอกแก่สื่อมวลชน ว่า วันพรุ่งนี้ตนเองจะไม่ได้เดินทางไปฟังคำพิพากษา เรื่องหวย 30 ล้าน ด้วย เนื่องจากติดธุระสำคัญ ต้องเดินทางไปรับสลากที่กองสลาก สำหรับนางสาวพัชริดา พรมตา หรือ เจ๊พัช ยังไม่พบเนื่องจากช่วงนี้ที่ตลาดเรส ซิตี้ ยังไม่ได้ไปตั้งแผงจำหน่ายลอตเตอรี่ ต้องรออีกประมาณ 2-3 วัน ให้ได้สลากมาจากกองสลากก่อน
ต่อมาผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปพบ ร้อยตำรวจโทจรูญ วิมูล ที่บ้านเลขที่ 299/110 หมู่บ้านศิริชัย ตำบลปากแพรก อำเภอเมืองกาญจนบุรี โดย นายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือ ทนายตั้ม เลขาธิการมูลนิธิทีมงานทนายประชาชนฯ พร้อมทีมทนายความ เดินทางมาถึงก่อนหน้านี้แล้ว ซึ่งทั้งหมดจะพักค้างคืนที่บ้านหมวดจรูญ และจะเดินทางไปศาลจังหวัดกาญจนบุรี พร้อมกันในวันพรุ่งนี้
โดยหมวดจรูญ เผยว่า ดีใจที่ศาลเลื่อนนัดฟังคำพิพากษาเร็วขึ้น อยากจะให้มาถึงวันนี้เร็วๆ ซึ่งที่จริงน่าจะถึงวันนี้ตั้งนานแล้ว แต่ก็ไม่เป็นไรที่มีปัญหาอุปสรรคบ้าง ซึ่งคาดหวังผลการตัดสินว่า ศาลจะเมตตา โดยตนมั่นใจในพยานหลักฐานจากคำตัดสินของศาลชั้นต้น ทั้งนี้ที่ผ่านมาตนเป็นผู้ถูกกระทำ ในสิ่งที่เราก็รู้ว่าถูกรหรือผิด ต่อไปก็คงจะเป็นหน้าที่ของเราที่จะทำบ้าง ซึ่งครั้งนี้ตนจะกลับไปเป็นโจทก์บ้าง
ด้านนายษิทรา เผยว่า ตามที่ศาลอุทธรณ์ภาค 7 ได้นัดฟังคำพิพากษาคดีหลักในวันพรุ่งนี้นั้น ซึ่งศาลได้เลื่อนนัดให้มาฟังเร็วขึ้น จากเดิมนัดเดือนมกราคม 2564 ซึ่ง ลุงจรูญ รู้สึกดีใจ เพราะจะได้รู้ผล และจะได้จบเสียที เพื่อจะได้ใช้ชีวิตตามปกติ
ทั้งนี้ ในฐานะทนายความตั้งแต่ต้น รู้ว่าลุงทำอะไร หรือไม่ทำอะไร จึงมั่นใจในความบริสุทธิ์ของลุงจรูญอยู่แล้ว ซึ่งมั่นใจด้วยพยานหลักฐานที่เราได้ยื่นไปตั้งแต่ศาลชั้นต้น และมีการสืบพยานกันข้ามปี ซึ่งพยานหลักฐานแทบทุกชิ้น ที่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบฯ ได้หามา และพยานหลักฐานที่ตนและทีมทนายความไปแสวงหามาเอง เราได้นำเข้าสำนวนครบถ้วนหมดแล้ว ก็หวังว่าพรุ่งนี้ศาลอุทธรณ์ภาค 7 จะให้ความเป็นธรรมกับลุงจรูญ และหากศาลมีคำพิพากษายกฟ้องอีกครั้ง ตามกฎหมายถือว่าเป็นคดีที่ต้องห้ามฎีกา เพราะทั้งศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์มีคำพิพากษายกฟ้องจำเลย
แท้ที่จริงอีกฝ่ายไม่สามารถเพิ่มเติมอะไรได้อีก เพราะหากมีหลักฐานเด็ดก็ควรนำมายื่นตั้งแต่ศาลชั้นต้นแล้ว ซึ่งการพิจารณาในชั้นศาลอุทธรณ์ทั้งสองฝ่ายก็จะนำเอาพยานหลักฐานทุกอย่างที่สู้กันในศาลชั้นต้นยกมาพิจารณา จะเพิ่มเติมภายหลังไม่ได้ แต่ตามสิทธิ์สามารถขออนุญาตฎีกาได้ ซึ่งขึ้นอยู่ว่าศาลจะให้หรือไม่ โดยหากไม่ได้เป็นประเด็นที่สำคัญ และคดีแบบนี้ ด้วยหลักฐานที่แน่นขนาดนี้ คงจะลำบาก
ที่ผ่านมา ลุงจรูญ เป็นโจทก์ฟ้อง ครูปรีชา และทนายวรยุทธ ในข้อหาร่วมกันฟ้องเท็จไปแล้ว แต่คดีที่ ลุงจรูญ เตรียมจะยื่นฟ้องพวกที่เบิกความ อาทิ เจ๊บ้าบิ่น เจ๊พัช เจ๊เกียว ที่เบิกความไม่ตรงกับข้อเท็จจริง และมีเจตนาที่กลั่นแกล้งลุงจรูญ ตั้งใจที่จะเบิกความเท็จต่อศาล ไม่ใช่ความเผลอเรอ ก็ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของลุงจรูญ ว่าจะให้ทางทีมทนายความดำเนินคดีต่อเลยหรือไม่ แต่ได้เตรียมหลักฐานไว้พร้อมหมดแล้ว อย่างไรก็ตามตนมั่นใจในคำตัดสินของศาลในวันพรุ่งนี้ ว่าไม่น่าจะมีอะไรพลิกโผ โดยศาลน่าจะให้ความเป็นธรรมกับลุงจรูญ