เปิด ปิด การใช้งานคุกกี้ของ ทรูฮิต (Truehits Cookies)



"อนุทิน" เผยข่าวดี "30บาท รักษาทุกที่" เริ่มพร้อมกันทั่วประเทศ 1 พ.ย. นี้


21 ต.ค. 2563, 14:23



"อนุทิน" เผยข่าวดี "30บาท รักษาทุกที่" เริ่มพร้อมกันทั่วประเทศ 1 พ.ย. นี้




นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ล่าสุด ได้โพสต์เฟซบุ๊กเผยถึงนโยบาย "30บาท รักษาทุกที่" เตรียมเริ่มใช้พร้อมกันทั่วประเทศ ในวันที่ 1 พฤศจิกายน 2563 นี้  โดยระบุว่า นโยบาย "30บาท รักษาทุกที่" ถือเป็นความหวังของคนทั้งประเทศ กับโปรเจ็กที่รองฯหนู ต้องการยกระดับสิทธิ์บัตรทอง จาก 30 บาท รักษาทุกโรค เป็น 30 บาทรักษาทุกที่ ซึ่งนี่ไม่ใช่เพียงแผนที่อยู่ในหัว แต่ข่าวดีคือ เป็นแผนที่กำลังเข้าสู่การปฏิบัติจริง ในวันที่ 1 พฤศจิกายน 2563

ซึ่งล่าสุด ที่ประชุม สปสช. ได้เห็นชอบข้อเสนอเพื่อยกระดับระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ กรณีผู้มีสิทธิหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (บัตรทอง) สามารถไปรับบริการที่ไหนก็ได้ ดำเนินการเร่งด่วนใน 4 เรื่องด้วยกัน ดังนี้



1. ประชาชนเจ็บป่วยไปรับบริการกับหมอประจำครอบครัวในหน่วยบริการปฐมภูมิทุกที่ในระบบบัตรทอง ตามนโยบาย“30 บาทรักษาทุกที่” โดยเป็นการเริ่มที่บริการระดับปฐมภูมิ เบื้องต้นนำร่องในพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล 

2. ผู้ป่วยในไม่ต้องกลับไปรับใบส่งตัว เดิมผู้ป่วยสิทธิบัตรทองที่เข้ารับการรักษาตัวเป็นผู้ป่วยในโรงพยาบาล (รพ.) มีส่วนหนึ่งต้องนอนรักษาต่อเนื่องด้วยสาเหตุทางการรักษา ซึ่งในกรณีที่ใบส่งตัวครบกำหนด ในการใช้สิทธิบัตรทองต่อเนื่อง ผู้ป่วยหรือญาติต้องกลับไปยังหน่วยบริการประจำเพื่อขอใบส่งตัวใหม่ เกิดความไม่สะดวกและเป็นปัญหา โดยเฉพาะผู้ป่วยที่อยู่ต่างจังหวัด ดังนั้นเพื่ออำนวยความสะดวกดูแลในกรณีนี้ สปสช.ได้ปรับระบบให้ผู้ป่วยในสามารถรักษาต่อเนื่องได้ทันทีตามการวินิจฉัยของแพทย์โดยไม่ต้องใบส่งตัว ใช้เพียงบัตรประชาชนตรวจสอบตัวตนผู้ป่วย ซึ่งจะนำร่องในพื้นที่เขต 9 นครราชสีมา 

3. โรคมะเร็งไปรับบริการที่ไหนก็ได้ที่พร้อม โรคมะเร็งเป็นภาวะเจ็บป่วยที่ต้องรับการรักษาโดยเร็ว เพื่อไม่ให้อาการลุกลาม และมะเร็งบางชนิดยังเป็นการเพิ่มโอกาสที่จะรักษาให้หายขาดได้ แต่ด้วยขั้นตอนการส่งตัวผู้ป่วยสิทธิบัตรทอง บางครั้งอาจเป็นอุปสรรคทำให้ผู้ป่วยมะเร็งไม่สามารถเข้าถึงการรักษาได้โดยเร็ว


ดังนั้น สปสช. ได้ปรับระบบการดูแลผู้ป่วยกลุ่มที่ถูกวินิจฉัยแล้วว่าเป็นมะเร็งจะได้ใบรับรอง และประวัติ หรือโค้ดเพื่อเลือกไปรับบริการที่อื่นผ่าน 3 ช่องทาง คือ สายด่วน สปสช.1330 แอพลิเคชั่นสปสช. และติดต่อที่หน่วยบริการโดยตรงเฉพาะที่โรงพยาบาลรักษามะเร็งที่มีความพร้อมเข้าร่วม ให้บริการตามขั้นตอนรักษามะเร็ง บริการระบบสาธารณสุขทางไกล (Telehealth) บริการปรึกษาเภสัชกรทางไกล (Tele pharmacy)
รวมทั้งการให้ยาเคมีบำบัดที่บ้าน (Home Chemotherapy) โดยค่าบริการให้ส่งข้อมูลเบิกจ่ายมายัง สปสช. ซึ่งได้มีการออกแบบการบริหารจัดการไว้แล้ว ทั้งนี้ จะเริ่มในโรงพยาบาลที่มีความพร้อมทั่วประเทศ ในวันที่ 1 มกราคม 2564

4. ย้ายหน่วยบริการได้สิทธิทันที ไม่ต้องรอ 15 วัน เป็นปัญหาที่ประชาชนเรียกร้องมาระยะหนึ่ง ด้วยติดขัดการเข้ารับรักษาในช่วงของการเปลี่ยนหน่วยบริการที่ตามระบบกำหนดให้ต้องรอ 15 วัน 

แต่ด้วยระบบเทคโนโลยีสารสนเทศที่พัฒนาก้าวหน้า โดยเฉพาะการเชื่อมต่อข้อมูลไปยังหน่วยบริการ ทำให้ สปสช. สามารถปรับระบบแก้ปัญหาช่องว่างนี้ได้ ประชาชนสามารถเข้ารับบริการที่หน่วยบริการใหม่ได้ทันทีหลังเปลี่ยนหน่วยบริการประจำ รวมถึงกรณีที่ประชาชนเปลี่ยนหน่วยบริการเองผ่านแอพพ์ฯ สปสช. โดยหน่วยบริการสามารถพิสูจน์สิทธิ และเบิกจ่ายค่าบริการผ่านบัตรประชาชนสมาร์ท การ์ด 

ทั้งนี้ จะเริ่มพร้อมกันทั่วประเทศในวันที่ 1 มกราคม 2564 สำหรับคนไทย วันที่ 1 พฤศจิกายน จะไม่ใช่เพียงวันธรรมดา แต่จะเป็นวันที่นโยบาย 30 บาท รักษาทุกที่ จะเกิดขึ้นจริงๆ
 






Recommend News






MOST POPULAR


























©2018 ONBNEWS. All rights reserved.