ยังคงอยู่ในพื้นที่ประสบภัยน้ำท่วม ที่อำเภออรัญประเทศ จังหวัดสระแก้ว เพื่อช่วยเหลือชาวบ้านอย่างต่อเนื่อง สำหรับพระเอกรุ่นใหญ่หัวใจอาสา บิณฑ์ บรรลือฤทธิ์ พร้อมทีมอาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู โดยที่เพจเฟซบุ๊ก ฅนข่าว ต้นปราการ มีรายงานว่า ขณะที่บิณฑ์ลงพื้นที่น้ำท่วม ล่าสุด เจองานยาก และเสี่ยงมาก คือการฝ่ากระแสน้ำเชี่ยวแรงเข้าไปในชุมชน เพื่อเอาข้าวกล่อง และยา ไปให้ทั้งคนแก่ และเด็กกว่า 10 ชีวิต ที่รอคอยกินข้าวอยู่ ประเมินหน้างานกันเเล้วว่าเรือไม่สามารถเข้าไปได้ เพราะน้ำแรง และในชุมชน 

แต่ บิณฑ์ บรรลือฤทธิ์ บอกว่าถ้าเรือเข้าไม่ได้ เราก็ต้องลอยคอกันเข้าไป เพราะชาวบ้านรอกินข้าว และหันกลับมาถามตน และทีมงานรวม 7 ชีวิต ว่าเชื่อใจพี่ไหม ถือว่าเป็นคำถามสั้น ๆ แต่นั่นหมายถึงความเสี่ยงถึงขั้นชีวิตเลยทีเดียว ตนตอบกลับไปว่า ผมเชื่อใจพี่ และพร้อมลุยเข้าไปเพื่อชาวบ้าน จากนั้นทั้ง 7 ชีวิตจึงไม่รอช้าลอยคอฝ่ากระแสน้ำเข้าไปจนถูกกระแสน้ำพัดไปติดกับเสาบ้าน โชคดีได้เรือโฟมของชาวบ้านส่งมาให้ พี่บิณฑ์จึงใช้เรือโฟมส่งต่อ และรับทีมงานทุกคนประคับประคองกันลอยคอเข้าไปหาชาวบ้าน 
 

จนกระทั่งไปเจอวิกฤตสุดคอเชือกที่ชาวบ้านขึงไว้เกิดขาด ทำให้ตน และทีมงานถูกกระแสน้ำพัดปลิวเกือบหลุด เพราะปลายเชือกที่ขาดค่อนข้างยาว พี่บิณฑ์รีบคว้ากอกล้วยไว้ด้วยมือข้างเดียว อีกมือคว้าเรือโฟมยื่นส่งต่อให้ทีมงานจับเพื่อไม่ให้หลุดจากทีม และเอื้อมมือช่วยจับต่อกันจนทุกคนย้อนกลับมารวมตัวกันได้ และรวมพลังต่อสู้กับกระแสน้ำเพื่อวางระบบเชือกใหม่จากอีกฝั่งไปอีกฝั่ง ใช้เวลาเกือบชั่วโมงจนสำเร็จ และเอาข้าวเข้าไปให้คุณตา และคุณยายบ้านสุดท้ายได้สำเร็จ 

แต่มันก็ไม่ได้จบแค่นั้น ต้องสู้น้ำออกมาเอายา และนมย้อนกลับไปให้เด็ก 6 ขวบ ที่รอกินนม และรอกินยาอีก เรียกว่ากว่าจะจบภารกิจในซอยเดียวจากห้าโมงเย็นเล่นไปถึงเกือบเที่ยงคืน เหตุการณ์ครั้งนี้บอกเลยถ้าไม่ได้ความแข็งแรงของร่างกายพี่บิณฑ์ ผม และทีมงานคงหลุดไปท้ายหมู่บ้าน และหลุดออกคลอง พี่เขาแข็งแรงมาก และที่สำคัญ สมคำถามที่บอกว่าเชื่อใจพี่ไหม เพราะพี่เขาไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง หากเขาตั้งใจทำอะไรแล้ว เขาจะมุ่งมั่นทำให้สำเร็จ อดข้าวด้วยกัน กินก็กินพร้อมกัน นอนพร้อมกัน พักพร้อมกัน และทำงานไปด้วยกัน สมกับคำว่าเทวดาเดินดินจริง ๆ กราบหัวใจพี่ด้วยใจจริง และเคารพ ผมจะไม่ลืมเหตุการณ์ในครั้งนี้