"ยายช้ำใจ" อุตส่าห์หากับข้าวให้กิน บอกเป็นเพื่อนลูกอ้างหิวข้าว สุดท้ายเงินทองในบ้านหายเกลี้ยง (คลิป)
23 ก.ค. 2562, 11:44
วันที่ 23 ก.ค.62 ผู้สื่อข่าว ONB news ได้รับการร้องเรียนจากชาวบ้าน อ.นาโพธิ์ จ.บุรีรัมย์ ว่าถูกกลุ่มมิจฉาชีพเป็นหญิง หลอกมาตีสนิทแล้วขโมยเงินสดและทองรูปพรรณของ คนชราที่อยู่บ้านตามลำพัง พร้อมภาพถ่ายรถจักรยานยนต์และภาพหญิงที่มาหลอกเอาไว้ได้ เมื่อเข้าไปตรวจสอบที่บ้านเลขที่ 74 หมุ่ 9 บ้านหญ้ารังกา ต.นาโพธิ์ อ.นาโพธิ์ จ.บุรีรัมย์พบชาวบ้านมาให้กำลังใจนางนวลศรี สิงห์ไธสง อายุ 80 ปี และนายลี สิงห์ไธสง อายุ 80 ปี สองสามีภรรยาซึ่งปกติจะอยู่บ้านตามลำพัง
สอบถามนางนวลศรี ยายที่ถูกหลอก เล่าว่า เมื่อวันที่ 19 ก.ค.ที่ผ่านมา เวลาประมาณ 11.00 น.ตอนนั้นตนนั่งเล่นอยู่หน้าบ้านคนเดียว ได้มีหญิงสาวอายุประมาณ 40 ปี รูปร่างท้วม ผมประบ่า ขี่รถจักรยานยนต์สีแดง ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียนมาจอดหน้าบ้าน ตนจึงถามว่ามาหาใคร หญิงคนนั้นก็ถามว่า”ลูกสาวยายชื่ออะไร”จึงตอบไปว่า”ทองคำ”จากนั้นหญิงสาวก็บอกว่าลูกสาวยายสั่งซื้อน้ำผึ้ง 1 ขวด ราคา 150 บาท จะมาขอเก็บเงิน ตนจึงเดินไปหยิบเงินที่เก็บไว้ในกระเป๋าเสื้อในมาให้จำนวน 150 บาท
จากนั้นหญิงสาวก็มาตีสนิทอ้างเป็นเพื่อนกับลูกสาว บอกหิวข้าว ตนจึงเห็นใจจะตำส้มตำมาให้กิน และเข้าไปเตรียมเครื่องปรุงในห้องครัวในบ้าน เมื่อหญิงคนนั้นเห็นก็บอกให้ยายมาตำส้มตำข้างนอก โดยยกครก ยกสากและเครื่องปรุงขนออกมานอกบ้าน บอกว่าข้างนอกอากาศดี
นางนวลศรี ยายที่ถูกหลอก เล่าด้วยว่า จากนั้นหญิงคนดังกล่าว อ้างว่าปวดท้องขอเข้าห้องน้ำ ตนก็ชี้ให้ไปเข้าห้องน้ำในบ้านโดยไม่เอะใจอะไร ไม่นานก็ขอเข้าอีก 2 ครั้ง ตนเห็นเพื่อนลูกสาวน่าตาเพลียๆคิดว่าคงจะหิว จึงบอกให้สามีออกไปซื้อไก่ย่างมาเพิ่มอีก เพราะเห็นว่าเป็นเพื่อนลูกสาว ระหว่างที่ตนไปหาแก้ว หาจาน ภายในบ้านออกมาก็ไม่เห็นหญิงสาว จนกระทั่งสามีซื้อไก่ย่างเข้ามาก็ไม่พบหญิงคนนั้นแล้ว จึงเริ่มเอะใจเข้าไปดูที่เก็บเงิน ปรากฏว่าเงินที่ลูกสาวเอามาให้เมื่ออาทิตย์ก่อน 10,000 บาท กับทองรูปพรรณอีก 1 บาทรวมมูลค่ากว่า 30,000 บาทที่ใส่ในกระเป๋าเสื้อใน ได้หายไปทั้งหมด จึงรู้ว่าถูกหลอก
ด้านนายพรชัย โนไธสง อายุ 54 ปี ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 9 ซึ่งเป็นลูกเขยยาย ขับรถผ่านมาเห็นคนแปลกหน้าจึงถ่ายภาพหญิงสาวและรถที่ขับมาเอาไว้เป็นหลักฐาน เผื่อเป็นคนไม่ดี สุดท้ายก็เป็นนักต้มตุ๋นตามที่เป็นข่าวมาหลายครั้ง สำหรับเหตุการณ์ในลักษณะดังกล่าว เคยเกิดขึ้นมาแล้วหลายครั้งในจังหวัดบุรีรัมย์ ด้วยวิธีเดียวกัน แต่ยังไม่สามารถจับคนร้ายได้ เพราะไม่มีหลักฐาน แต่ครั้งนี้มีภาพถ่ายชัดเจน
ชมคลิป