เมื่อวันที่ 22 ก.ค. 2562 นายฉัตรชัย พรหมเลิศ ปลัดกระทรวงมหาดไทย ได้มีคำสั่งผ่านกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ระบุว่า ตามที่ได้เกิดสถานการณ์ภัยแล้งและฝนทิ้งช่วง ตั้งแต่ ธ.ค. 2561 ถึงปัจจุบัน ประกอบกับการคาดการณ์ของกรมอุตุนิยมวิทยา และสถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำ(สสน.) พบว่าช่วง ส.ค. - ก.ย. 2562 ปริมาณฝนที่ตกจะมีประมาณน้อยกว่าปกติ และในบางพื้นที่จะมีสถานการณ์ฝนทิ้งช่วง โดย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี มีข้อห่วงใยถึงสถานการณ์ภัยแล้งอันเนื่องมาจากกรณีฝนทิ้งช่วง และกรณีการระบายน้ำในแม่น้ำโขง ซึ่งส่งผลให้มีการขาดแคลนในหลายพื้นที่ และได้สั่งการให้ทุกเหล่าสนับสนุนอากาศยาน และกำลังพล เพื่อทำฝนเทียมเพิ่มปริมาณน้ำเหนือเขื่อน และร่วมแก้ไขปัญการขาดแคลนน้ำกับฝ่ายพลเรือนแบบบูรณาการ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนให้ได้มากที่สุดและแก้ไขปัญหาภัยแล้ง ฝนทิ้งช่วงปี 2562 ให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย มีประสิทธิภาพ จึงขอให้จังหวัดถือปฏิบัติในการป้องกันและแก้ไขปัญหาโดยเคร่งครัด และให้ดำเนินการในระยะเร่งด่วน ดังนี้

1.ประสานการปฏิบัติกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการติดตามสภาวะอากาศและการบริหารจัดการน้ำอย่างใกล้ชิดทั้งกรมอุตุนิยมวิทยา สถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำ(สสน.) กรมชลประทาน ตลอดจนหน่วยทหารในพื้นที่ เพื่อชี้แจงทำความเข้าใจกับประชาชนถึงสถานการณ์น้ำ การรณรงค์ใช้น้ำอย่างประหยัดตลอดจนให้ทราบถึงความห่วงใยของรัฐบาล และการบูรณาการให้ความช่วยเหลือของหน่วยงานภาครัฐ

2.สำรวจและจำแนกพื้นที่เสี่ยงภัยให้ชัดเจน ทั้งพื้นที่เสี่ยงต่อการขาดแคลนน้ำอุปโภคบริโภคพื้นที่เสี่ยงต่อการขาดแคลนน้ำเพื่อการเกษตร โดยให้การประปาส่วนภูมิภาค ประปาหมู่บ้านขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ตรวจสอบแหล่งน้ำดิบต้นทุน หากพบว่าจุดใดเสี่ยงต่อการขาดแคลนน้ำ ไม่สามารถผลิตและดำเนินการแจกจ่ายน้ำให้กับประชาชนได้ ให้ผู้ว่าราชการจังหวัดบริหารจัดการเครื่องจักรกลสาธารณภัยของศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขตที่เข้ามาสนับสนุนให้พื้นที่ รวมทั้งเครื่องจักรกลขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ภาคเอกชน หน่วยทหาร เพื่อจัดให้มีรถบรรทุกน้ำ เครื่องสูบน้ำ เครื่องสูบน้ำระยะไกล เพื่อเพิ่มปริมาณน้ำในการผลิตเป็นน้ำประปาให้เพียงพอ และแจกจ่ายน้ำอุปโภคบริโภคให้แก้ประชาชนและภาชนะเก็บกักน้ำกลางประจำหมู่บ้าน

ทั้งนี้เมื่อพบพื้นที่ประสบความเสียหายจากกรณีภัยแล้ง ฝนทิ้งช่วงให้ผู้ว่าราชการจังหวัดสามารถใช้เงินทดรองราชการตามระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยเงินทดรองราชการเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน เพื่อให้ความช่วยเหลือประชาชนโดยด่วน และถ้าเป็นความเสียหายด้านการเกษตร ให้จำแนกความเสียหายเป็นพื้นที่ ประเภท เช่น นาข้าว พืชสวน พืชไร่ หากพื้นที่ใดมีข้อจำกัดให้รายงานมายังกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเพื่อดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป