วันนี้ (24ต.ค.)ผู้สื่อข่าวONB newsรายงานว่า เป็นวันที่ 8 ของประเพณีถือศีลกินผักประจำปีของจังหวัดภูเก็ต และเป็นวันที่ 7 ของการประกอบพิธีอิ้วเก้งแห่พระรอบเมือง ศาลเจ้าหล่ายถู่ต่าวโบ๊เก้ง หรือ ศาลเจ้ากะทู้ ซึ่งเป็นศาลเจ้าเก่าแก่นับร้อยปี และเป็นศาลเจ้าต้นกำเนิดของประเพณีถือศีลกินผัก ได้ประกอบพิธีศักดิ์สิทธิ์ดังกล่าว โดยขบวนได้ออกจากศาลเจ้าตั้งแต่เวลา 07.00 น. ก่อนมาตั้งขบวนที่บริเวณหน้าศูนย์การค้าเซ็นทรัลเฟสติวัล ภูเก็ต ถ.วิชิตสงคราม อ.เมือง ก่อนเคลื่อนขบวนเข้าสู่ตัวเมืองภูเก็ต ซึ่งตลอดสองข้างทางมีประชาชนตั้งโต๊ะรับพระ และมีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติที่อยู่ในประเทศไทยออกมาร่วมชมขบวนเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะบริเวณถนนย่านเมืองเก่า เช่น ถ.พังงา ถ.ถลาง หน้าลานนวมินทร์ วงเวียนสุรินทร์ไปจนถึงปลายแหลมสะพานหิน 

ซึ่งในขบวนมีม้าทรงชายหญิงต่างมีการใช้อาวุธในตำนานทรมานร่างกาย เพื่อรับเคราะห์แทนผู้ถือศีลกินผัก เช่น หัวมณฑล สร้างความหวาดเสียวแก่ผู้ร่วมชมขบวน แต่ในปีนี้ขบวนสั้นกระชับรัดเนื่องจากป้องกันการแพร่ระบาดโควิด 19 และทางศาลเจ้ายังขอความร่วมมือจากม้าทรงในการใช้อาวุธในตำนานทิ่มแทงตามร่างกาย จากนั้นเป็นขบวนเกี้ยวหามรูปพระ เรียกว่า ไท่เปี๋ย หรือเสลี่ยงเล็ก โดยหามรูปพระบูชาต่างๆ ออกนั่งเกี้ยวไป ซึ่งจัดตามลำดับชั้นยศขององค์เทพ ขบวนของนิ่วสั่ว หรือฉัตรจีน ตามด้วยพระเกี้ยวใหญ่ หรือเสลี่ยงใหญ่ ซึ่งเป็นที่ประทับองค์กิ้วฮ๋องไต่เต่ 

สำหรับศาลเจ้ากะทู้ หรือ อ๊าม เป็นศาลเจ้าที่สำคัญและถือเป็นศาลเจ้าต้นกำเนิดของประเพณีถือศีลกินผัก จ.ภูเก็ต (กินเจ) โดยเริ่มประเพณีเป็นครั้งแรกในปี พ.ศ.2368 ปัจจุบันมีอายุกว่า 195 ปี และยังคงยึดถือขนบธรรมเนียมประเพณีดั้งเดิมทุกประการ 

อย่างไรก็ตามวันพรุ่งนี้ (25 ต.ค.63) ถือเป็นวันสุดท้ายของประเพณีถือศีลกินผักประจำปี โดยในช่วงเช้าจะมีศาลเจ้าหล่อโรง ประกอบพิธีแห่พระรอบเมืองเป็นศาลเจ้าสุดท้าย จากนั้นตั้งแต่เวลา 22.00 - 00.00 น. ทุกศาลเจ้าที่เข้าร่วมประเพณีถือศีลกินผักจะประกอบส่งพระ หรือ พิธีส่งองค์กิ้วอ๋องไต่เต่ (ประธานประเพณีถือศีลกินผัก) และหยกอ๋องซ่งเต่ (เง็กเซียนฮ่องเต้) ที่บริเวณชายหาดหน้าศาลเจ้ากิ้วเทียนเก้ง ปลายแหลมสะพานหิน อ.เมือง เพื่อส่งเสด็จกลับสวรรค์ โดยตลอดเส้นทางจะมีการจุดประทัดนับล้านนัด