บริษัทยกทัพดารา บุกวัดประกอบพิธีบวงสรวง เตรียมสร้างหนัง “ไอ้ไข่เด็กวัดเจดีย์”
25 ต.ค. 2563, 15:20
บริษัทดังบุกวัดบวงสรวงสร้างหนัง “ไอ้ไข่เด็กวัดเจดีย์” ตำนานความเชื่อและความศรัทธาสุดยอดกุมารเทพแห่งศตวรรษที่ 21 กำหนดเปิดกล้อง ม.ค. 2564 และกำหนดฉาย พ.ค.-มิ.ย. 2564 เช่นกัน
เมื่อเวลา 09.09 น. วันที่ 25 ต.ค. 2563 ผู้สื่อข่าว ONB news รายงานว่า ที่นายธีรธร เชาวนโยธิน กรรมการผู้จัดการบริษัทไอยารา แอนนิเมชั่น แอนด์ สตูดิโอและผู้กำกับภาพยนตร์ พิธีบวงสรวงการจัดสร้างภาพยนตร์ เรื่อง “ไอ้ไข่เด็กวัดเจดีย์” ณ บริเวณหน้าประรำพิธี ลานหน้าโบสถ์ วัดเจดีย์ ต.ฉลอง อ.สิชล จ.นครศรีธรรมราช
โดยมีศิลปิน ดารา นักแสดงและแขกผู้มีเกียรติ ร่วมในพิธีอย่างพร้อมเพรียง และพระครูพุทธเจติยาภิมณฑ์ หรือ พระอาจารย์แว่น เจ้าอาวาสวัดเจดีย์ไอ้ไข่ นายฉันท์ทิพย์ พันธรักษ์ราชเดช บุตรชาย พล.ต.ต.ขุนพันธรักษ์ราชเดช ร่วมเจิมป้ายสเลทคัทฉากและหน้าปกเอกสารบทละครหนังเรื่อง “ไอ้ไข่เด็กวัดเจดีย์” พร้อมโปรยข้าวตอกดอกไม้เพื่อความเป็นสิริมงคล ปิดท้ายด้วยการร่ายรำมโนราห์ถวายไอ้ไข่ และเทพยดาฟ้าดิน
หลังเสร็จพิธี “เอก” ธีรธร เชาวนโยธิน ได้นำทีมงานและศิลปิน ดารา นักแสดง ได้ขึ้นไปบนโบสถ์วัดเจดีย์ เพื่อกราบไหว้รูปไอ้ไข่แกะสลักไม้ต้นแบบพร้อมถ่ายรูปร่วมกันเป็นที่ระลึก ก่อนที่นายฉันท์ทิพย์ พันธรักษ์ราชเดช จะเจิมให้ศิลปิน ดารานักแสดงที่จะร่วมแสดงภาพยนตร์ “ไอ้ไข่วัดเจดีย์” ทุกคนเพื่อความเป็นสิริมงคลในการร่วมแสดงภาพยนต์ “ไอ้ไข่วัดเจดีย์” วัดเจดีย์ต่อไป
นายธีรธร เชาวนโยธิน เปิดเผยว่า วันนี้เป็นนิมิตหมายที่ดีหลังจากที่เราเตรียมการมาเป็นระยะเวลา 1 ปีแล้ว ซึ่งในวันนี้หลวงพ่อเจ้าอาวาสท่านได้ให้ฤกษ์บวงสรวงมา โดยผมมีความมั่นใจและตั้งใจที่จะทำสิ่งนี้เพื่อให้คนทั่วไปได้รู้จักไอ้ไข่ และวันนี้ได้เริ่มทำแล้วโดยทีมงานที่มีคุณภาพ และยังได้มิตรไมตรีจากคนทางภาคใต้ ทำให้เรามีกำลังใจและจะทำให้ดีที่สุด โดยจะทำการเปิดกล้องในเดือนมกราคม 2564 และมีกำหนด เข้าฉายประมาณเดือนพฤษภาคม-มิถุนายน 2564 อย่างไรก็ตามเราไม่ได้ตั้งเป้าเรื่องรายได้จากหนังเรื่องนี้แต่เราหวังเรื่องมิตรภาพจากศรัทธบารมีและทำให้ทุกคนได้รู้ว่าไอ้ไข่คือใคร และได้รู้จักไอ้ไข่เด็กวัดเจดีย์ เราเน้นเรื่องคุณภาพ และเรื่องศรัทธา สัจจะบารมี ความซื่อสัตย์ ความกตัญญูกตเวที ซึ่งเราจะแถลงข่าวอย่างเป็นทางการอีกครั้งหนึ่งในเร็ว ๆ นี้ ส่วนเรื่องลิขสิทธิ์การสร้างหนังเรื่องนี้เราได้ลิขสิทธิ์อย่างถูกต้องจากพระครูพุทธเจติยาภิมณฑ์ หรือ พระอาจารย์แว่น เจ้าอาวาสวัดเจดีย์ไอ้ไข่
หลังจากนั้นทีมดารานักแสดง ได้พากันเดินไปที่ลานจอดรถ ซึ่งมีขบวนทีมฮาร์เล่ย์ชาวปักษ์ใต้จำนวน 108 คัน ก่อนนำขบวนไปที่ลานจุดประทัด และทำการติดเครื่องพร้อมบิดเร่งเครื่องยนต์ถวายไอ้ไข่เทพแห่งเมืองนครศรีธรรมราช แทนการจุดประทัด เสียงเครื่องยนต์ดังกระหึ่มไปทั่วบริเวณ ท่ามกลางความสนใจของประชาขชนและนักท่องเที่ยวที่เดินทางมากราบไว้ไอ้ไข่วัดเจดีย์จำนวนมาก
สำหรับทีมนักแสดง ภาพยนตร์ “ไอ้ไข่เด็กวัดเจดีย์” อาทิ เด็กชายณัฐวรรธ สุ่มพลอย รับบทเป็นไอ้ไข่ “น้องพลอย” พลอยวรินทร์ แสนชัย, ต้น ศักราช, รับบทเป็นเก่ง ปราปต์ปฎล สุววรณบาง, รับบทเป็นผู้ใหญ่เที่ยง ปาล์ม ศุภ ชัย, รับบทเป็นสิน ป๊อก โฆษวิส, รับบทเป็นพ่อไอ้ไข่ เก่ง ชัชวาล, รับบทเป็นสอน จอห์น บราโว่, โกวิฐ วัฒนกุล, บุ๋มบิ๋ม สามโทน, หลุยส์ ชวนชื่น, ช.เอ ณ บาง ช้าง, นุ่น อัจฉรา และนักแสดงสมทบอีกมากมาย กำกับภาพยนตร์โดย “เอก” ธีรธร เชาวนโยธิน ที่มีผลงานการกำกับภาพยนตร์แนวสยองขวัญเรื่องบ้านขังวิญญาณ ( ปี2014 ) และผู้อำนวยการสร้างภาพยนตร์เรื่องบางกอก 13 (ปี2016) ซึ่งภาพยนตร์ “ไอ้ไข่เด็กวัดเจดีย์” พระเอกหนุ่ม “ต้น” ศักราช รับบท เก่ง, ปราปต์ปฎล สุววรณบาง รับบท ผู้ใหญ่เที่ยง, “ปาล์ม” ศุภ ชัย รับบท สิน, “ป๊อก” โฆษวิส รับบท พ่อไอ้ไข่, “เก่ง” ชัชวาล รับบท ศร,โกวิฐ วัฒนกุล รับบท ขุนสมาน, “บุ๋มบิ๋ม” สามโทน รับบท เสือกลับ พร้อมนักแสดงรับเชิญ หลุยส์ ชวนชื่น, ช.เอ ณ บาง ช้าง,นุ่น อัจฉรา, จอห์น บราโว่ เมืองชัย กิตติเกษม ส่วนนักแสดงเด็ก “น้องโกฮัง” ณัฐวรรธ สุ่มพลอย รับบท “ไอ้ไข่เด็กวัดเจดีย์”
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าตำนานเรื่องเล่า “ไอ้ไข่เด็กวัดเจดีย์” มีเรื่องเล่าเป็นตำนานต่อเนื่องกันมานานกว่าร้อยกว่าปีมาแล้ว โดยพระธุดงค์ผู้มีญาณบารมีสูงส่งรูปหนึ่งได้นำดวงจิตของเด็กชายวัย 10 ขวบมาพำนักไว้ที่วัดร้างบ้านฉลอง อ.สิชล จ.นครศรีธรรมราช โดยได้กำชับเด็กชายผู้นั้นไว้ “ให้อยู่เฝ้าสถานที่แห่งนี้ จนกว่าจะมีผู้มีบุญญาธิการมาถึง” หลังจากนั้นเด็กชายผู้นั้นได้อุทิศตนรักษาสัจจะที่ให้ไว้กับพระธุดงค์ตลอดมา จนกระทั้งอีกเกือบหนึ่งร้อยปีต่อมา (ราวปีพุทธศักราช 2470) ได้มี “เก่งและเปี๊ยก” สองพี่น้องเดินทางพนันชนไก่จากพระนครสู่เมืองนครศรีธรรมราช เมื่อถึงบ้านฉลองเก่งเอาไอ้แดงไก่ชนคู่ทุกข์คู่ยากไปชนกับไก่ของนักเลงเจ้าถิ่นจนแพ้พนันหมดตัว เก่งและเปี๊ยกจึงต้องไปอาศัยวัดร้างแห่งหนึ่งเป็นที่พักอาศัยชั่วคราว ทั้งคู่ได้พบกับเด็กคนชายคนหนึ่งในวัดร้างนั้น ซึ่งเก่งเรียกเขาว่า “ไอ้ไข่” และนึกว่าเป็นเด็กที่ถูกพ่อแม่มาทิ้งไว้เขาจึงพยายามช่วยตามหาพ่อแม่ของไอ้ไข่ เมื่อได้เรียนรู้และช่วยเหลือกันมากเข้าก็กลายเป็นเพื่อนรักโดยที่เก่งไม่เคยเอะใจเลยว่าไอ้ไข่ไม่ใช่เด็กธรรมดา
ต่อมาเก่งมีปัญหากับลูกชายผู้กว้างขวางแห่งสิชลคือ “ศร” และ “สิน” จากการพนันชนไก่ ส่วนขุนสมานเองก็พยายามที่จะขุดหาสมบัติในวัดร้างนั้นมาเก็บรักษาไว้เองอยู่หลายครั้งแต่ไม่เคยสำเร็จ จนกระทั้งคืนหนึ่ง นายสินพาพวกตามมาหาเรื่องเก่งถึงวัดร้าง ไอ้ไข่ปรากฏตัวออกมาใช้อิทธิฤทธิ์ช่วยเก่งไว้ และตายด้วยอุบัติเหตุในคืนนั้น ทำให้เก่ง ได้รู้ความจริงว่าไอ้ไข่ไม่ใช่มนุษย์ ตอนแรกเขานึกกลัวไอ้ไข่เหมือนคนอื่นทั่วไปแต่ก็กลับมาคิดได้ว่ามิตรภาพของเขากับไอ้ไข่นั้นมีค่ายิ่งกว่าสิ่งอื่นใด ไม่ว่าจะเป็นคน สัตว์หรือวิญญาณต่างเป็นเพื่อนกันได้ เก่งเริ่มอยากช่วยให้ดวงจิตของไอ้ไข่ได้ไปเกิดใหม่เพื่อหลุดพ้นจากภาระเฝ้าสมบัติ จนถูกขุนสมานหลอกใช้ เปิดทางให้ขุนสมานขนสมบัติจำนวนมากออกมาจากวัด ไอ้ไข่เสียใจมากเข้าใจว่าเก่งไม่จริงใจกับตนเอง ความเข้าใจผิดทำให้เกิดรอยร้าวครั้งใหญ่ระหว่างกัน ยิ่งกว่านั้น “เสือกลับ” จอมขมังเวทย์ก็ได้เดินทางมาถึงบ้านฉลองเพื่อร่วมมือกับขุนสมานเตรียมจัดการไอ้ไข่ขั้นเด็ดขาด
“ไอ้ไข่” ต้องยืนหยัดต่อสู้เพื่อรักษาสมบัติตามคำมั่นที่เคยให้ไว้กับพระธุดงค์ ส่วนเก่งก็พร้อมจะสละชีวิตเพื่อไถ่โทษและช่วยเหลือเพื่อนรัก ทั้งคู่จะผ่านพ้นวิกฤตินี้ไปได้อย่างไร โปรดติดตามชมภาพยนตร์สุดยอดตำนานกุมารเทพแห่งยุค “ไอ้ไข่เด็กวัดเจดีย์” กันต่อไปครับ