หยุดยาว 3 วัน!! นทท. แห่เที่ยวน้ำตกเอราวัณ-ไทรโยค เนืองแน่น
25 ต.ค. 2563, 15:42
วันนี้ ( 25 ต.ค. 2563 ) ผู้สื่อข่าว ONB news รายงานว่า ช่วงวันหยุดยาวเริ่มตั้งแต่วันศุกร์ที่ 23 ต.ค. ที่ผ่านมา นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในพื้นที่จังหวัดกาญจนบุรีเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะน้ำตกเอราวัณ เขตอุทยานแห่งชาติเอราวัณ ต.ท่ากระดาน อ.ศรีสวัสดิ์ น้ำตกไทรโยคใหญ่ อุทยานแห่งชาติไทรโยค อ.ไทรโยค สะพานไม้อุตตมานุสรณ์ หรือสะพานมอญ อ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี ซึ่งแหล่งท่องเที่ยวทั้งสามแห่งนี้ถือว่าเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงโด่งดังอันดับต้นๆของประเทศ ที่นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างประเทศ รู้จักกันเป็นอย่างดี
โดยนายพีรวัฒิ สิโรตม์พิพัฒ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติเอราวัณ อ.ศรีสวัสดิ์ กล่าวว่า หลังจากน้ำตกเอราวัณได้รับผลกระทบจากอิทธิพลพายุดีเปรสชั่น และพายุดีเปรสชั่น (ระดับ 2) ที่เกิดขึ้นระหว่างวันที่ 7-9 ต.ค. และ วันที่ 16-19 ต.ค.63 ที่ผ่านมา ทำให้จำเป็นต้องประกาศปิดห้ามนักท่องเที่ยวเข้ามาท่องเที่ยวโดยเด็ดขาดเมื่อวันที่ 18 ต.ค.63 เนื่องจากเกรงว่าทุกคนจะได้รับอันตราย แต่หลังจากนั้นไม่นานน้ำตกเอราวัณ ได้กลับมาสู่สภาวะปกติ น้ำตกแต่ละชั้นกลับมาสวยงามดังเดิม
โดยช่วงวันหยุดยาวตั้งแต่วันที่ 23 ต.ค.63 มาจนถึงวันนี้วันอาทิตย์ที่ 25 ต.ค. มีนักท่องเที่ยวเดินทางมาเป็นจำนวนมาก ซึ่งทางอุทยานแห่งชาติเอราวัณ ได้อนุญาตให้นักท่องเที่ยวลงเล่นน้ำตกได้เพียง 3 ชั้นจากทั้งหมด 7 ชั้น คือน้ำตกชั้นที่ 1 ไหลคืนรัง ลงเล่นน้ำได้รอบละ 20 นาทีต่อ 20 คน น้ำตกชั้นที่ 2 วังมัจฉา ลงเล่นน้ำได้รอบละ 20 นาทีต่อ 30 คน และน้ำตกชั้นที่ 3 ลงเล่นน้ำได้รอบละ 20 นาทีต่อ 30 คน
สำหรับขั้นตอนที่ทางอุทยานฯ ได้กำหนดเอาไว้คือ ขั้นตอนที่ 1. นักท่องเที่ยวที่มาจะต้องจองผ่านแอปพลิเคชั่น QueQ หรือติดต่อเจ้าหน้าที่ประจำจุดให้บริการทางเข้าอุทยานฯ ขั้นตอนที่ 2. นักท่องเที่ยวจำต้องลงทะเบียนลงเล่นน้ำตกตามช่วงเวลาที่นักท่องเที่ยวเดินทางมา ขั้นตอนที่ 3. รับเสื้อชูชีพจากเจ้าหน้าที่ที่เตรียมเอาไว้ให้บริการ ขั้นตอนที่ 4. เจ้าหน้าที่ต้องตรวจความเรียบร้อยของเสื้อชูชีพที่สวมใส่ว่าตรงกับจำนวนของนักท่องเที่ยวที่ลงทะเบียนเอาไว้หรือไม่ ขั้นตอนที่ 5. นักท่องเที่ยวจะต้องลงเล่นน้ำตกตามชั้นที่ได้ลงทะเบียนเอาไว้เท่านั้น ขั้นตอนที่ 6. เจ้าหน้าที่ประจำน้ำตกจะทำการจับเวลา ก่อนหมดเวลาเล่นน้ำ 5 นาที โดยเจ้าหน้าที่จะให้สัญญาณเตือนด้วยการเป่านกหวีด พร้อมแสดงป้ายเตือน 2 ครั้ง และขั้นตอนสุดท้ายคือ ให้นักท่องเที่ยวนำเสื้อชูชีพไปคืนเจ้าหน้าที่บริเวณจุดลงทะเบียน
นายพีรวัฒิ สิโรตม์พิพัฒ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติเอราวัณ กล่าวว่า จากการที่ได้พบปะพูดคุยกับนักท่องเที่ยว ถึงมาตรการณ์ที่ทางอุทยานฯ ได้กำหนดเอาไว้ ส่วนใหญ่ล้วนพึงพอใจ เพราะต่างก็เข้าใจอยู่แล้วว่าปัจจุบันนี้อยู่ในช่วงวิกฤตการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 แต่ก็มีอยู่บ้างบางส่วนเท่านั้นที่ต้องการให้ขยายเวลาในการลงเล่นน้ำ โดยเฉพาะเด็กๆ แต่ผู้ปกครองที่นำพามาก็ได้อธิบายจนเด็กๆ เข้าใจเป็นอย่างดี
ซึ่งจากการที่ได้สอบถามความรู้สึกจากนักท่องเที่ยว อุทยานแห่งชาติเอราวัณ จะได้นำข้อมูลไปรายงานให้นายนิพนธ์ จำนงสิริศักดิ์ ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 (บ้านโป่ง) ให้ทราบ เพื่อรายงานให้นายธัญญา เนติธรรมกุล อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่า และพันธ์พืช นายจตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม รวมทั้งนายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม ให้ทราบตามลำดับชั้น เพื่อที่จะให้ผู้บังคับบัญชาระดับสูงได้พิจารณาสั่งการขั้นตอนการปฏิบัติต่อไป
ด้านนายนายสมเจตน์ จันทนา หัวหน้าอุทยานแห่งชาติไทรโยค อ.ไทรโยค กล่าวว่า อุทยานแห่งชาติไทรโยค ได้คัดกรองอาการไข้ของนักท่องเที่ยวทุกคนที่มาอย่างเคร่งครัด ซึ่งเป็นไปตามมาตรการณ์การป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่กระทรวงสาธารณสุขได้กำหนดเอาไว้อย่างเคร่งครัด หากพบว่าอุณหภูมิในร่างกายของนักท่องเที่ยวคนใดเกิน 37.5 องศาเซียลเซียส จะไม่อนุญาตให้เข้าไปภายในเขตอุทยานฯ โดยเด็ดขาด แต่หลายวันที่ผ่านมายังไม่พบว่ามีนักท่องเที่ยวรายใดมีอาการผิดปกติ
แต่ขอประชาสัมพันธ์ไปถึงผู้ประกอบการชาวแพ ทั้งแพพัก แพล่อง ที่ให้บริการอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติไทรโยค ให้ตรวจอาการไข้ของนักท่องเที่ยวตามกฎของกระทรวงสาธารณสุขที่กำหนดเอาไว้อย่างเคร่งครัด เพื่อความปลอดภัยของคนในพื้นที่และตัวของกลุ่มเพื่อนที่มาล่องแพด้วยกัน
ส่วนนายนิพนธ์ จำนงสิริศักดิ์ ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 (บ้านโป่ง) กล่าวว่า ตนได้สั่งการไปยังหัวหน้าอุทยานแห่งชาติ ที่อยู่ในความรับผิดชอบของสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 (บ้านโป่ง) ทุกแห่ง ให้ดำเนินการตามมาตรการณ์ของกระทรวงสาธารณสุขเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 อย่างเคร่งครัด
โดยหวังว่าประชาชนรวมทั้งตัวของนักท่องเที่ยวที่มาจาก กทม. หรือต่างจังหวัด จะให้ความร่วมมือ และเข้าใจในการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ของเรา ประเด็นสำคัญอีกอย่างหนึ่งคือขอให้ทุกคนช่วยกันรักษาความสะอาด โดยเฉพาะวัสดุที่เป็นพลาสติกหรือเศษอาหารที่เป็นขยะ ที่นักท่องเที่ยวนำพามาด้วย ขอให้เก็บกลับไปด้วยทุกครั้ง เพื่อความสะอาดตาของนักท่องเที่ยวที่มาใช้บริการในภายหลัง