เปิด ปิด การใช้งานคุกกี้ของ ทรูฮิต (Truehits Cookies)



สุราษฎร์ธานี ฝนถล่มหนัก! น้ำป่าไหลหลากทะลักท่วมหลายพื้นที่ ได้รับแจ้งเสียชีวิต 2 ราย


25 ต.ค. 2563, 16:07



สุราษฎร์ธานี ฝนถล่มหนัก! น้ำป่าไหลหลากทะลักท่วมหลายพื้นที่ ได้รับแจ้งเสียชีวิต 2 ราย




ผู้สื่อข่าว ONB news รายงานว่า จากฝนตกหนักในหลายพื้นที่ของจังหวัดสุราษฎร์ธานี ทำให้น้ำป่าไหลหลาก น้ำท่วมขังหลายพื้นที่ เช่น ที่ถนนบ้านเบื้องแบบ-ควนดารา พื้นที่ ม.3 ต.บ้านทำเนียบ อ.คีรีรัฐนิคม จ.สุราษฎร์ธานี ถูกน้ำป่าไหลหลากจากป่าต้นน้ำบ้านน้ำราดและเทือกเขาพนม ทำให้ล้นคลองท่วมสะพานสูงเกือบ 1 เมตร ทำให้รถสัญจรไม่ได้ตั้งแต่ช่วงคืนที่ผ่านมา

โดยนางทิพากร พริกไทย อายุ 50 ปี อยู่บ้านเลขที่ 28/2 บ้านเบื้องแบบ ม.3 ต.บ้านทำเนียบ บอกว่าเมื่อคืนฝนตกหนักตั้งแต่ช่วง 20:00 น. จนถึงประมาณตี 04:00 น. โดยมวลน้ำได้ไหลมาอย่างรวดเร็วตอนช่วงตี 2 ทำให้น้ำท่วมสะพานในที่สุด แต่ก่อนที่ฝนจะตกหนักเมื่อคืนในพื้นที่มีตกสะสมมาเป็นเดือน ระดับเหลือหนึ่งเมตรก่อนถึงสะพาน เจอฝนหนักเมื่อคืนท่วมเลย คาดว่าน้ำจะลดปกติในช่วง 14:00 น. วันนี้หากไม่มีฝนตกซ้ำ

ด้านนายไพศาล แป๊ะอุ้ย อายุ 41 ปี เจ้าบ้าน เลขที่ 114 ม.5 ต.บ้านทำเนียบ ริมถนนสายสุราษฎร์-ตะกั่วป่า เล่าว่า เมื่อคืนเฝ้าสถานการณ์น้ำทั้งคืน หลังฝนตกหนักตั้งแต่ช่วงหัวค่ำ และติดตามสถานการณ์น้ำที่ไหลจากตอนบน เพราะมีประสบการจนช่วงประมาณ ตี 3 น้ำไหลถึงที่บ้าน ก็ยกของขึ้นชั้น 2 ได้ทันแม้น้ำจะไหลมาเร็ว 

สำหรับในพื้นที่ตำบลบ้านทำเนียบ มีน้ำป่าไหลหลากใน 6 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับความเดือนร้อนในด้านการสัญจร และน้ำม่วมบ้านเรือน ซึ่งเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองกำลังสำรวจความเสียหาย

นอกจากในตำบลบ้านทำเนียบแล้ว ที่บ้านท่าใคร ม.3 ตำบลย่านยาว อ.คีรีรัฐนิคม ซึ่งเป็นจุดรับน้ำจากตำบลบ้านทำเนียบ ก็เริ่มได้รับผลกระทบแล้ว ถนนหลายสายถูกน้ำท่วมขังรถเล็กสัญจรลำบาก บ้านเรือนประชาชนประมาณ 100 หลังคาเรือน ถูกน้ำท่วมสูง 30-100 เซนติเมตร และยังต้องรองรับน้ำจากตอนบนจนกว่าน้ำจะระบายลงคลองพุมดวงจนหมด เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง องค์การบริหารส่วนตำบลย่านยาว ลงพื้นสำรวจความเสียหาย 

ส่วนที่ ม.9 ต.ย่านยาว ระดับน้ำบนถนนประมาณ 1 เมตร รถสัญจรไม่ได้ ในบ้านเรือนประมาณชนสูง 1.5 เมตร เจ้าหน้าที่เร่งให้การช่วยเหลือ 
 

 

 

นายมนัส อินทร์สุวรรณ รองนายก อบต.ย่านยาว บอกว่า น้ำได้ไหลเข้าพื้นที่ ช่วงเวลาประมาณ 07:00 น. ที่ผ่านมา ทำให้มีพื้นที่ได้รับผลกระทบหนักจำนวน 3 หมู่บ้าน ประกอบด้วย ม.2 , 3, 9 ประชาชนได้รับผลกระทบไม่ต่ำกว่า 500 ครัว และโรงเรียนได้รับความเสียหาย ด้านการช่วยเหลือได้นำเรือท้องแบนเข้าพื้นที่ และช่วยขนของชาวบ้าน รวมถึงขนผู้ป่วยติดเตียงผู้สูงอายุไว้ในที่ปลอดภัย 

ส่วนที่อำเภอบ้านตาขุน ร้อยตำรวจเอกสมศักดิ์ ฤทธิกุล พนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรบ้านตาขุน รับแจ้งพบผู้เสียชีวิตจมน้ำอยู่ในแอ่งน้ำข้างทาง ริมถนนภายในหมู่บ้านในพื้นที่ หมู่ 6 บ้านถ้ำนอน ตำบลเขาวง ขณะออกตรวจสอบปริมาณน้ำในพื้นที่หลังเกิดเหตุฝนตกหนักต่อเนื่องนานกว่า 5 ชั่วโมง จึงรายงานผู้บังคับบัญชาทราบ ก่อนเดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ

ที่แอ่งน้ำข้างทาง พบรถจักรยานยนต์ยี่ห้อยามาฮ่า สีเทาดำ หมายเลขทะเบียน 1 กบ 7056 สุราษฎร์ธานี จมอยู่ในน้ำทับร่างของ นายชัยวิวัฒน์ ทองสัมฤทธิ์ อายุ 50 ปี ตำบลเขาวง อำเภอบ้านตาขุน ตรวจสอบเบื้องต้นไม่พบบาดแผล และจากการชันสูตรพบว่าสาเหตุมาจากการจมน้ำ สอบสวนญาติเบื้องต้นพบว่า นายชัยวิวัฒน์ มีอาชีพเป็นช่างก่อสร้าง และออกไปทำงานตั้งแต่ช่วงเช้าวันที่ 24 ตุลาคม แล้วหายตัวไป ขณะที่เพื่อนร่วมงานแจ้งว่า หลังเสร็จงานได้เกิดฝนตกหนักต่อเนื่องจน นายชัยวิวัฒน์ ไม่สามารถเดินทางกลับบ้านพัก จนกระทั่งฝนเริ่มซา หลังเที่ยงคืน จึงได้เดินทางกลับบ้านพัก อย่างไรก็ตามในช่วงเวลาประมาณหนึ่งนาฬิกาได้เกิดน้ำป่าไหลหลากในพื้นที่อย่างรุนแรง จึงคาดว่าขณะที่ นายชัยวิวัฒน์ กำลังขับรถจักรยานยนต์กลับบ้านพักได้เจอกับกระแสน้ำป่าพัดลงข้างทางประกอบกับจุดเกิดเหตุมีแอ่งน้ำขนาดใหญ่ ทำให้จมน้ำเสียชีวิตดังกล่าว

และในเวลาประมาณ ห้านาฬิกาได้เกิดน้ำป่าไหลหลากเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชนในพื้นที่ หมู่ 2 หมู่ 3 และหมู่ 9 ตำบลย่านยาว และถนนสายบ้านช่องฮาย คีรีรัฐนิคม ตำบลทำเนียบ อำเภอคีรีรัฐนิคม ซึ่งหลังเกิดเหตุป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดสุราษฎร์ธานี และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้เข้าให้การช่วยเหลือ เคลื่อนย้ายสิ่งของและสัตว์เลี้ยงแล้ว ส่วนความเสียหายอยู่ระหว่างการสำรวจ

 

 

 

 

 



ขณะที่ในพื้นที่ อำเภอบ้านนาเดิม มีรายงานผู้เสียชีวิตจากการจมน้ำ หลังเกิดฝนตกหนักแล้วมีกระแสน้ำไหลแรง โดยเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา อาสากู้ภัยรับแจ้งขอความช่วยเหลือค้นหาผู้สูญหายที่ฝายกั้นน้ำบ้านห้วยใหญ่ หมู่ 1 ตำบลบ้านนา อำเภอบ้านนาเดิม เหตุเกิดขณะที่นายปิยะพงษ์ สมบัติจุ้ย อายุ 26 ปี ขับรถจักรยานยนต์ผ่านทางสันฝายที่มีน้ำท่วมและไหลเชี่ยวทำให้เสียหลักถูกกระแสน้ำพัดรถจัรยานยนต์ และ นายปิยะพงษ์ จมหายไปในอ่างเก็บน้ำ

สำหรับภาพรวมในเบื้องต้นทั่วจังหวัดสุราษฎร์ธานี พบว่ามีพื้นที่ได้รับผลกระทบจากฝนตกหนักน้ำป่าไหลหลาก ใน 4 อำเภอ คือ อำเภอคีรีรัฐนิคม อำเภอพนม อำเภอบ้านตาขุน และอำเภอบ้านนาเดิม ชาวบ้านเดือนร้อนไม่ต่ำกว่า 500 ครัวเรือน หากฝนไม่ตกซ้ำจะเข้าสู่สภาวะปกติใน 1-2 วัน นอกจากนั้นมีรับแจ้งพบผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์ถูกน้ำซัดตกน้ำที่ไหลหลากจำนวน 2 ราย ที่ตำบลเขาวง อ.บ้านตาขุน และ ตำบลบ้านนา อ.บ้านนาเดิม 

ส่วนสถานการณ์น้ำล้นตลิ่งแม่น้ำตาปี ช่วงวันที่ 22-25 ต.ค.2563 กองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดสุราษฎร์ธานี สรุปสถานการณ์พบ มีพื้นที่ได้รับผลกระทบน้ำล้นตลิ่ง จากแม่น้ำ​ตาปี ท่วมขัง จำนวน 3 อำเภอ 9 ตำบล 22 หมู่บ้าน ราษฎรได้รับผลกระทบ 1,021 ครัวเรือน ประกอบด้วย อำเภอเคียนซา อำเภอบ้านาสาร และอำเภอพุนพิน การให้ความช่วยเหลือ จังหวัดสุราษฎร์ธานี ได้ให้อำเภอพุนพินนำถุงยังชีพ จำนวน 680 ชุด ที่ได้รับการสนับสนุนจากกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ไปแจกจ่ายให้ผู้ประสบภัยในพื้นที่ตำบลท่าสะท้อน  และ ศูนย์ ปภ.เขต 11 สฎ. มทบ.45 กองบิน 7 อปท. กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ได้เข้าสำรวจพื้นที่ ยกของราษฎรขึ้นที่สูงและได้ให้ความช่วยเหลือเบื้องต้นแล้ว

 







Recommend News





MOST POPULAR


























©2018 ONBNEWS. All rights reserved.