วันที่ 29 ตุลาคม 2563 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศริมแม่น้ำโขง ถนนสุนทรวิจิตร เขตเทศบาลเมืองนครพนม ว่า หลังกรมอุตุนิยมวิทยาได้ออกประกาศเตือน เกี่ยวกับพายุไต้ฝุ่น “โมลาเบ” บริเวณทะเลจีนใต้ตอนกลาง มีศูนย์กลางอยู่ห่างจากทางด้านตะวันออกของเมืองบินห์ดินห์ ประเทศเวียดนาม ประมาณ 120 กิโลเมตร กำลังเคลื่อนตัวทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือค่อนทางเหนือเล็กน้อย คาดว่าจะเคลื่อนขึ้นฝั่ง บริเวณประเทศเวียดนามตอนกลางในเช้าวันที่ 28 ตุลาคม  หลังจากนั้นจะอ่อนกำลังลงเป็นพายุโซนร้อนก่อนเคลื่อนเข้าสู่ประเทศไทย ทำให้ประเทศไทยตอนบนมีฝนเป็นบริเวณกว้างและมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งกับมีลมแรง โดยเฉพาะทาง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ในช่วงวันที่ 28-29 ตุลาคม 2563

ขณะที่ พล.ร.ต.จรัสเกียรติ ชัยพันธุ์  ผู้บัญชาการหน่วยเรือรักษาความสงบเรียบร้อยตามลำแม่น้ำโขง (นรข) ได้สั่งการให้ ศูนย์บรรเทาสาธารณภัยหน่วยเรือรักษาความสงบเรียบร้อยตามลำแม่น้ำโขง (ศบภ.นรข.) ทั้ง 4 เขต  ประกอบด้วย เขตเชียงราย,หนองคาย,นครพนม และเขตอุบลฯ จัดเตรียมความพร้อมของกำลังพลและยุทโธปกรณ์ ในการให้ความช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อน และประสบอุทกภัยได้อย่างทันท่วงที 

กระทั่งเมื่อเวลา 22.00 น. ของวันที่ 28 ตุลาคม พายุโซนร้อนโมลาเบ (พายุระดับ 3) เคลื่อนเข้าบริเวณเมืองสาละวัน(ลาวใต้) ประเทศสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว(สปป.ลาว)  ซึ่งอยู่ห่างจังหวัดอุบลราชธานีประมาณ 120 กิโลเมตร  มีความเร็วลมสูงสุดใกล้ศูนย์กลางประมาณ 70 กิโลเมตร/ชั่วโมง กำลังเคลื่อนตัวทางทิศตะวันตกด้วยความเร็วประมาณ 22 กิโลเมตร/ชั่วโมง คาดว่าจะอ่อนกำลังลงเป็นพายุดีเปรสชัน (พายุระดับ 2) ในไม่ช้านี้

ด้านจังหวัดนครพนมในวันและเวลาดังกล่าวมีฝนตกกระจายเป็นวงกว้าง แต่ไม่รุนแรงเป็นลักษณะฝนตกไหลรินตลอดทั้งคืน กระทั่งรุ่งเช้าวันที่ 29 ตุลาคม ฝนได้หยุดตกท้องฟ้าเปิด ทำให้อากาศริมแม่น้ำโขงปลอดโปร่ง สามารถมองเห็นกลุ่มหมอกลอยเด่นสวยงามทางฝั่งเขาหินปูนของประเทศลาว นักท่องเที่ยวก็ทยอยมากราบสักการะองค์พญาศรีสัตตนาคราช พร้อมถ่ายรูปกับทะเลหมอกอันสวยงาม ในอุณหภูมิหน้าสถานีอุตุนิยมวิทยานครพนม 22.9 องศาเซลเซียล ส่งผลให้บรรยากาศตลอดริมแม่น้ำโขงของจังหวัดนครพนมสดชื่นเย็นสบาย

สำหรับการคาดการณ์พยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า พายุโซนร้อนโมลาเบ (พายุระดับ 3) ได้อ่อนกำลังลงเป็นพายุดีเปรสชัน (พายุระดับ 2) บริเวณจังหวัดอุบลราชธานีแล้ว คาดว่าจะอ่อนกำลังลงเป็นหย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรง (พายุระดับ 1) ในระยะต่อไป ทำให้ประเทศไทยตอนบนมีฝนเป็นบริเวณกว้าง และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งกับมีลมแรง สำหรับลมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทยมีกำลังแรง ส่งผลทำให้ภาคใต้มีฝนตกหนักบางแห่งกับมีลมแรง ขอให้ประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัยในภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก และภาคใต้ ระวังอันตรายจากฝนตกหนัก ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลากได้

โดยภาคตะวันออกเฉียงเหนือ อากาศเย็นกับมีลมแรง โดยมีฝนตกเป็นบริเวณกว้าง และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง บริเวณจังหวัดเลย หนองบัวลำภู หนองคาย อุดรธานี สกลนคร บึงกาฬ นครพนม กาฬสินธุ์ มหาสารคาม ร้อยเอ็ด ยโสธร มุกดาหาร อำนาจเจริญ ชัยภูมิ ขอนแก่น นครราชสีมา บุรีรัมย์ สุรินทร์ ศรีสะเกษ และอุบลราชธานี อุณหภูมิต่ำสุด 19-21 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 24-28 องศาเซลเซียส ยอดภูอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 12-15 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10-35 กม./ชม.