28 ตุลาคม 2563  20.00 น. ผู้สื่อข่าว ONB news กลายเป็นเรื่องโอละพ่อในทันที หลังเกิดกระแสโซเชียล กล่าวถึงเรื่องราวเครื่องออกกำลังกาย ผีเฮี้ยนแกว่งไกวเอง จนชาวบ้านหลงเชื่อขุดเรื่องราวผีสุดเฮี้ยนมาเล่าสู่ให้ฟังกับตำนานป่าช้าผีดิบเมืองระยอง สุดท้ายความจริง เปิดเผย มือดี ตั้งกล้องถ่ายก่อนแกว่งเครื่องออกกำลังกาย ผีเฮี้ยนจัดมาออกกำลังกาย โพสต์สร้างกระแสป่วนโซเชียลทำแม่ค้าในชุมชนสุดช้ำเดือดร้อนไปทั่ว

และนี้คือเรื่องราวความเชื่อส่วนบุคคล ของนางกาญจนา มณฑาทอง อายุ 45 ปี หรือเจ๊ชี ตามสั่งปากน้ำ ได้เล่าถึงเรื่องราวในตำนานจากบรรพบุรุษ ว่า จุดที่มีการตั้งเครื่องออกกำลังกาย บริเวณที่ทำการชุมชนปากน้ำ เขตเทศบาลนครระยอง เดิมที่แห่งนี้เป็นป่าช้าเก่า ที่คนเก่าแก่จะเรียกป่าช้าผีดิบ

โดยตำนานความเชื่อที่เล่ากันมาจากรุ่นสู่รุ่นคือ เดิมที่แห่งนี้จะเป็นที่ป่าช้าเก่า มีโรงเรียนเก่า ซึ่งผู้คนในสมัยนั้นโดยเฉพาะคนเชื้อสายจีนจะนิยมนำศพมาฝัง เข้าจึงตั้งชื่อว่า ป่าช้าผีดิบ ซึ่งชื่อดังกล่าวก็ไม่ทราบได้ว่าหมายถึงอะไร

ความเฮี้ยนที่เล่าต่อๆกันมาสมัยก่อนที่บริเวณนี้จะมีต้นมะพร้าวมีลูกสีแดงอยู่หนึ่งตนขึ้นรวมกับต้นมะพร้าวที่เห็นตามปกติทั่วไป ความเฮี้ยนที่ย่าได้พบเจอหลังไปดูหนังกางแปลงมาแล้วเกิดปวดปัสสาวะ จึงไปปลดทุกข์ที่ใต้ต้นมะพร้าว ก็มีเสียงคนคุยกันที่ใต้ต้นมะพร้าวก่อนจะมีลูกมะพร้าวตกลงมาเสียงดัง ตุบ จึงรีบวิ่งกลับบ้านในทันที ซึ่งเป็นเรื่องเล่าโบราณน่าจะร้อยปีได้

 

 

เท่านั้นยังไม่พอยังมีศาลเจ้าที่เก่าแก่ที่อยู่บริเวณด้านข้างรุ่นแม่ มีเพื่อนเคยไปเตะบอลไปถูกศาลเจ้าที่ก็กูกอาถรรพ์ขาเดินไม่ได้มาจนถึงปัจจุบันนี้ยังเดินขาเป๋อยู่เลย และอาถรรพ์ที่ปู่ย่าตายายในสมัยนั้นจะบอกเสมอว่าตะวันตกดิน ผีตากผ้าอ้อมอย่าไปเล่นซ้อนแอบ เพราะเคยมีเด็กหาย หากันเท่าไรก็ไม่เจอมาเจออีกที่ในช่วงเช้า คาดผีบังตาไว้ ซึ่งคาดว่าเจ้าที่แรง ต่อมาจึงมีการทำพิธีรื้อถอนศาลเจ้าที่ออกไปเพราะเฮี้ยนจัด พร้อมกับโรงเรียนเก่าเมื่อกว่า 70-80 ปี ที่เป็นอาคารเรียน 2 ชั้น มีคนเห็นหน้าต่างเปิดเองแล้วมีผีโผล่หน้าออกมา และ คนหาปลาไปตกปลามาเดินผ่านโรงเรียนเห็นผีเปรตตัวสูงเท่าหลังคาโรงเรียน สิ่งที่กล่าวมาเป็นสิ่งที่ไม่เห็นกับตาตัวเอง แต่เป็นความเชื่อตามบรรพบุรุษที่เล่าต่อๆกันมา 

ส่วนเครื่องออกกำลังกายผีเฮี้ยนที่ในสังคมโซเชียลที่เป็นกระแสว่าอาจมีผีเฮี้ยน ส่วนตัวเชื่อว่าน่าจะมาจากที่มีคนเล่นเครื่องออกกำลังกายแล้วกลับออกไปโดยที่เครื่องยังแกว่งอยู่ ประจวบเหมาะกับมีคนขับรถผ่านมาเห็นพอดี จึงถ่ายคลิปภาพแล้วนำมาโพสต์ในสังคมออนไลน์ จนดูสอดคล้องกับตำนานความเชื่อเล่าขานของบรรพบุรุษ ซึ่งเป็นความเชื่อส่วนบุคคล อย่างไรก็ตามความจริงก็ปรากฏเมื่อหลังกระแสโซเชียลถามหาสิ่งทึ่เกิดขึ้น