เปิด ปิด การใช้งานคุกกี้ของ ทรูฮิต (Truehits Cookies)



เผยผลชันสูตรซากพะยูนเกยตื้น พบโดนกระแทกซี่โครงหัก ทรมานจากอาการช้ำในนานกว่าสัปดาห์


29 ต.ค. 2563, 11:44



เผยผลชันสูตรซากพะยูนเกยตื้น พบโดนกระแทกซี่โครงหัก ทรมานจากอาการช้ำในนานกว่าสัปดาห์




ศูนย์วิจัยกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งทะเลอันดามันตอนล่าง ร่วมกับศูนย์วิจัยกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งทะเลอันดามันตอนบน ชันสูตรซากพะยูนเกยตื้นจากอ่าวมาหยา หมู่เกาะพีพี จังหวัดกระบี่ เมื่อวันที่ 26 ตุลาคม 2563 ที่ผ่านมา โดยก่อนการชันสูตรซาก เจ้าหน้าที่ได้ขนย้ายซากพะยูนไปตรวจวินิจฉัยเพิ่มเติมด้วยวิธีการถ่ายภาพรังสีส่วนตัดอาศัยคอมพิวเตอร์ (CT-scan; X-ray computed tomography) พบการหักของกระดูกซี่โครงบริเวณกลางลำตัว 8 ซี่ และพบว่าลักษณะภายนอกมีบาดแผลฉกรรจ์จากการถูกของมีคม และของแข็งกระแทกอย่างรุนแรง บริเวณหลังด้านขวาของลำตัว พบกล้ามเนื้อเป็นรอยช้ำ อักเสบ และเป็นหนอง กระดูกซี่โครงบริเวณกลางลำตัวหัก และทะลุถึงช่องอก และช่องท้อง 



ส่งผลให้ปอดด้านขวาติดเชื้ออักเสบอย่างรุนแรง พบลักษณะของแผ่นหนองปกคลุมทั่วทั้งบริเวณชั้นไขมัน และเนื้อเยื่อปอดด้านขวา เนื้อเยื่อปอดยุบตัวลง (Lung collapse) และเสียสภาพไปจากปกติ มีภาวะการหดเกร็งของกล้ามเนื้อหัวใจ กล้ามเนื้อหัวใจซีด และมีภาวะหัวใจขาดเลือด คาดว่าเกิดจากภาวะช็อกโดยเฉียบพลัน และพบต่อมน้ำเหลืองขยายขนาดใหญ่ทั่วร่างกายเนื่องจากภาวะการอักเสบติดเชื้ออย่างรุนแรง 

ส่วนของทางเดินอาหารพบมีหญ้าทะเลจำนวนมากภายในกระเพาะอาหาร และลำไส้ สรุปสาเหตุการเสียชีวิตคาดว่าถูกเรือวิ่งชน ซึ่งน่าจะเกิดมาเป็นระยะเวลานานมากกว่า 1 สัปดาห์ เนื่องจากรอยโรคพบลักษณะของหนองและการอักเสบเรื้อรังภายในร่างกาย และมีสาหร่ายปกคลุมบริเวณลำตัว ตัวพะยูนถูกกระแทกอย่างรุนแรงจนกระดูกซี่โครงหักทิ่มทะลุช่องอกและช่องท้อง ส่งผลให้ติดเชื้ออักเสบอย่างรุนแรงไปทั่วร่างกายร่วมกับภาวะช็อกอย่างเฉียบพลัน และเสียชีวิตในที่สุด 


ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่เก็บตัวอย่างผิวหนัง เพื่อตรวจทางพันธุกรรม เก็บตัวอย่างชิ้นเนื้อเพื่อตรวจทางโลหะหนัก สารชีวพิษ แบคทีเรียวิทยาและไวรัสวิทยา เก็บตัวอย่างกระดูกซี่โครงเพื่อตรวจทางนิติวิทยาศาสตร์ เก็บตัวอย่างพยาธิและอาหารในกระเพาะอาหารเพื่อนำไปจำแนกทางห้องปฏิบัติการต่อไป
 






Recommend News






MOST POPULAR


























©2018 ONBNEWS. All rights reserved.