"ประธานผู้ตรวจการแผ่นดิน" และคณะ หารือการประกอบธุรกิจให้บริการเช่าที่พักระยะสั้นใน จ.น่าน เพื่อการท่องเที่ยวรูปแบบใหม่
23 ก.ค. 2562, 19:25
(23 ก.ค. 62) ผู้สื่อข่าว ONB news พลเอก วิทวัส รชตะนันทน์ ประธานผู้ตรวจการแผ่นดิน และคณะ ลงพื้นที่หารือเกี่ยวกับการประกอบธุรกิจให้บริการเช่าที่พักระยะสั้นเพื่อการท่องเที่ยวรูปแบบใหม่ที่ไม่ใช่โรงแรมในจังหวัดน่าน หวังผลักดันกฎหมาย เสริมทัพการท่องเที่ยวไทย
โดย พลเอก วิทวัส รชตะนันทน์ ประธานผู้ตรวจการแผ่นดิน เปิดเผยว่า ขณะนี้การประกอบธุรกิจให้บริการเช่าที่พักระยะสั้นเพื่อการท่องเที่ยวรูปแบบใหม่ที่ไม่ใช่โรงแรม ซึ่งมีลักษณะการนำบ้านพักที่มีห้องว่าง ทาวน์เฮ้าส์ คอนโดมิเนียมที่ซื้อไว้แล้วไม่ได้อยู่รวมถึงอพาร์ทเม้นท์ส่วนตัวมาเสนอให้เช่าในระยะสั้นไม่กี่วันเพื่อสร้างรายได้โดยผู้เช่าสามารถจองผ่านแอปพลิเคชันของผู้ให้บริการที่เป็นตัวกลางระหว่างเจ้าของที่พักอาศัยและผู้เช่า เช่น Airbnb หรือแพลตฟอร์มอื่น ๆ กำลังเป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยวทั่วโลก สำหรับในประเทศไทยยังไม่มีกฎหมายออกมารองรับหรือคลอบคลุมถึงการทำธุรกิจประเภทดังกล่าว ซึ่งอาจเข้าข่ายความผิดตามพระราชบัญญัติโรงแรม พ.ศ.2547 พระราชบัญญัติผังเมือง พ.ศ. 2518 และพระราชบัญญัติควบคุมอาคาร พ.ศ. 2522 ทำให้ธุรกิจเหล่านี้ไม่เพียงติดปัญหาเรื่องกฎหมาย แต่ยังมีความสุ่มเสี่ยงต่อปัญหาด้านอาชญากรรม ความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน ยาเสพติด ปัญหาการส่งเสียงดังก่อความรำคาญต่อผู้ที่อยู่อาศัยอย่างถาวรที่ต้องการความเป็นส่วนตัว รวมถึงเหตุการณ์ข้อพิพาทต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นระหว่างผู้ที่อยู่อาศัยกับผู้เข้าพักรายวันเรื่อยมา
จากสภาพปัญหาดังกล่าว ผู้ตรวจการแผ่นดินจึงได้หยิบยกเรื่องปัญหาธุรกิจการให้เช่าที่พักระยะสั้นขึ้นมาพิจารณา มุ่งแก้ไขปัญหาให้เกิดประโยชน์ต่อส่วนรวม สนับสนุนนโยบายของรัฐบาลในการส่งเสริมการท่องเที่ยวเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศ ดึงดูดนักท่องเที่ยวให้หันมาเที่ยวในประเทศไทย รวมถึงกำหนดแนวทางมาตรการรองรับการประกอบกิจการที่ถูกต้องและสอดคล้องกับความต้องการของนักท่องเที่ยวหลากหลายระดับ
นอกจากนี้ ผู้ตรวจการแผ่นดินได้ตั้งคณะทำงานแสวงหาข้อเท็จจริง รวบรวมข้อมูลสถานการณ์ในปัจจุบัน จำนวนห้องพักที่เปิดประกอบกิจการ จุดแข็ง – จุดอ่อน ความคิดเห็นพร้อมข้อเสนอแนะทั้งจากผู้ประกอบการรายใหญ่ รายย่อย หน่วยงานภาครัฐ และภาคเอกชน ทั้งในพื้นที่เมืองหลักและเมืองรองด้านการท่องเที่ยว จำนวน 5 จังหวัด บุรีรัมย์ ภูเก็ต ระยอง เชียงราย และน่าน โดยจังหวัดน่านนับว่ามีเอกลักษณ์โดดเด่นทางวัฒนธรรม ธรรมชาติ และวิถีชุมชน แม้จะเป็นเมืองรองที่ไม่มีโรงแรมขนาดใหญ่มากนัก มักเป็นที่พักขนาดเล็ก โฮมสเตย์ และรูปแบบใหม่อย่างฟาร์มสเตย์ แต่ก็มีนักท่องเที่ยวเดินทางมาเยือนตลอดทั้งปี ส่วนใหญ่เป็นชาวไทย ดังนั้น การเตรียมความพร้อมเชิงระบบให้กับชุมชนท่องเที่ยวจึงสำคัญและควรดำเนินการอย่างรอบคอบ สำหรับการลงพื้นที่จังหวัดน่านในวันนี้ได้รับความร่วมมืออย่างดียิ่งจาก นายสัมฤทธิ์ สวามิภักดิ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดน่าน โยธาธิการและผังเมืองจังหวัดน่าน ผู้กำกับการตำรวจภูธรจังหวัดน่าน ตำรวจท่องเที่ยวจังหวัดน่าน ตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดน่าน เจ้าพนักงานที่ดินจังหวัดน่าน วัฒนธรรมจังหวัดน่าน ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดน่าน ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย นายกสมาคมโรงแรมไทยภาคเหนือตอนบน ประธานหอการค้าจังหวัดน่าน ประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวจังหวัดน่าน ผู้จัดการสำนักงานพื้นที่พิเศษ 6 นายกสมาคมธุรกิจท่องเที่ยวน่าน สำนักงานท้องถิ่นจังหวัด และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทำให้ได้รับทราบข้อมูลอันเป็นประโยชน์อย่างแท้จริง ทั้งปัญหา ข้อจำกัด ความเหมาะสมในการจำกัดความที่พัก ตลอดจนความเป็นไปได้ในการกำหนดมาตรฐานที่พักให้ถูกกฎหมาย ทั้งนี้เห็นว่า ควรทำให้ผู้ประกอบการที่พักในพื้นที่ได้เข้าสู่ระบบอย่างถูกต้องเสียก่อน แล้วผู้ประกอบการและภาครัฐจึงร่วมกันพัฒนามาตรฐานควบคู่กันไป โดยอาจกำหนดว่าภายในระยะเวลา 2 ปี ต้องดำเนินการให้มีมาตรฐานครบถ้วนตามกฎหมายกำหนด ซึ่งจะส่งผลกับการต่ออายุใบอนุญาตประกอบกิจการต่อไป เป็นการร่วมกันพัฒนาและควบคุมดูแลจากทุกฝ่ายในพื้นที่เพื่อประโยชน์ส่วนรวมของรัฐและชาวบ้านอย่างยั่งยืน นอกจากนี้ ยังได้ลงพื้นที่ตรวจสอบสภาพข้อเท็จจริง ณ โฮมสเตย์ บ้านบ่อสวก อำเภอเมือง และบ้านศิลาเพชรโฮมสเตย์ อำเภอปัว จังหวัดน่าน เพื่อนำมาประกอบการพิจารณาอีกด้วย