เปิด ปิด การใช้งานคุกกี้ของ ทรูฮิต (Truehits Cookies)



"รมช.เกษตรฯ" เปิดงานวันรณรงค์ป้องกันกำจัดตั๊กแตนในแปลงอ้อย พลิกวิกฤติ​ระบาดหนัก​ เป็นโอกาส​สร้างรายได้งาม​


24 ก.ค. 2562, 08:09



"รมช.เกษตรฯ" เปิดงานวันรณรงค์ป้องกันกำจัดตั๊กแตนในแปลงอ้อย พลิกวิกฤติ​ระบาดหนัก​ เป็นโอกาส​สร้างรายได้งาม​




วันที่​ 23 ก.ค.62 เวลา​ 18.00 น.​ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นางสาวมนัญญา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นประธานเปิด​งานวันรณรงค์ป้องกันกำจัดตั๊กแตนในแปลงอ้อย​ โดยสำนักงานเกษตรจังหวัด​อุทัยธานี​ ร่วม​กับ​ สมาคมชาวไร่อ้อยอุทัยธานี​ (ไทยเศรษฐ์)​ โรงงานอุตสาหกรรม​น้ำตาลบ้านไร่​ และโรงงานน้ำตาลมิตรเกษตร​ อ.สว่างอารมณ์​ และเกษตรกร​ในพื้นที่​ ร่วมกันจัดงาน​เพื่อสร้างความร่วมแรงร่วมใจในการป้องกันและกำจัดตั๊กแตนไฮโลไกลฟัส​ หรือ​ ตั๊กแตน​ข้าว (Rice Grasshopper)​ ที่ระบาดกัดกินทำลายใบอ้อยจนเหลือแต่ก้านใบ​ ​ในพื้นที่หมู่​ 4,6 ต.วังหิน และ​ หมู่ที่​ 2,3 ต.บ้านใหม่คลองเคียน​ รวม​ 4​ หมู่บ้าน​ พบพื้นที่ระบาด​ จำนวน 60​ ไร่​ และพื้นที่เฝ้าระวัง 300​ ไร่​ มีเกษตรกรได้รับผลกระทบ​แล้วทั้งสิ้น​ 19 ราย ด้วยวิธีกลให้มีปริมาณลดลง

 



 โดยมี​ร้อยโท​ ทศพล​ ไชยโกมินทร์​ รองผู้ว่าราชการจังหวัด​อุทัยธานี​ กล่าวรายงาน​ และมี​ นายรังสันต์​ วัฒนพานิชย์​ นายอำเภอบ้านไร่​ กล่าวต้อนรับ​ และมี​ นายเผด็จ​ นุ้ยปรี นายก​ อบจ.อุทัยธานี​ นายชนม์สวัสดิ์​ ทองโพธิ์งาม​ รักษาราชการแทนเกษตรจังหวัดอุทัยธานี​ ส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง​ ตลอดจนองค์กร​ปกครอง​ส่วนท้องถิ่น​ และประชาชน​ ร่วมงาน​และให้การต้อนรับ​ 

ซึ่งภายในงาน​ จัดให้มีกิจกรรมการถ่ายทอดความรู้ สถานการณ์การระบาด วงจรชีวิต ลักษณะการทำลาย การป้องกันกำจัดและจัดทีมลงแปลงจับตั๊กแตนของทีมมือปราบตั๊กแตนจาก​ บ้านจัน ต.หนองจอก ต.วังหิน และ​จาก​ ต.บ้านใหม่คลองเคียน จำนวน 50 คน จากนั้น​ รัฐมนตรีช่วยว่าการ​กระทรวงเกษตรและ​สหกรณ์​ ร่วมกับส่วนราชการ​ กำนัน ผู้ใหญ่​บ้าน​ และทีมมือปราบตั๊กแตน​ ลงพื้นที่ไร่อ้อยที่มีการระบาด​ เพื่อระดมกันจับตั๊กแตน​ที่เริ่มออกหากินในช่วงค่ำ​ ซึ่งสามารถจับตั๊กแตนได้จำนวนมาก​


โดยผลการดำเนินการจับตั๊กแตนในช่วง​ 6​ วันที่ผ่านมา​ มีเกษตรกรเข้าร่วมจับตั๊กแตนทั้งสิ้น​ 155 ราย​ สามารถจับตั๊กแตน​ได้ทั้งสิ้นประมาณ​ 429,040 ตัว​ ซึ่งตั๊กแตนที่จับได้จะปลอดภัยจากสารเคมี สามารถนำมาทอดเป็นอาหารและนำไปจำหน่ายในตลาดท้องถิ่นได้ในราคากิโลกรัมละ 100 – 150 บาท​ มีมูลค่าการจำหน่ายในครั้งนี้ประมาณ​ 34,600 บาท​ ซึ่งสามารถสร้างรายได้แก้เกษตรกรอีกทางหนึ่ง​ อีกด้วย







Recommend News





MOST POPULAR


























©2018 ONBNEWS. All rights reserved.