"หนุ่มใหญ่" หายไปในคืนวันลอยกระทง พบอีกทีเป็นศพลอยอยู่ในน้ำ
2 พ.ย. 2563, 20:56
ช่วงสาย วันที่ 2 พฤศจิกายน 2563 ผู้สื่อข่าว ONB news รายงานว่า อาสากู้ภัยสว่างจรรยาธรรมบุรีรัมย์ จุด อ.ปราสาท จ.สุรินทร์ ได้รับแจ้งเหตุจากศูนย์สั่งการกู้ชีพปราสาท เหตุพบผู้เสียชีวิตลอยน้ำบริเวณฝายน้ำล้น ม.5 บ.สำโรง ต.หนองใหญ่ อ.ปราสาท จ.สุรินทร์ หลังจากรับแจ้ง จึงได้ประสานไปทาง ร.ต.อ.ทัศนันต์ อินทร์งาม พนักงานสอบสวนเวรสถานีตำรวจภูธรปราสาท อ.ปราสาท จ.สุรินทร์ พร้อมประสานทีมกู้ภัยทางน้ำจากอาสากู้ภัยสว่างจรรยาธรรมบุรีรัมย์ จุด อ.ปราสาท ให้รุดออกตรวจสอบพร้อมหน่วยกู้ชีพตำบลหนองใหญ่
สถานที่เกิดเหตุบริเวณฝายน้ำล้นขนาดความกว้าง 20 เมตร ลึก 4 เมตร ลักษณะเป็นคลองน้ำเชื่อมต่อกับฝายน้ำล้นอยู่ท้ายหมู่บ้านสำโรง เขตพื้นที่ ม.5 บ.สำโรง ต.หนองใหญ่ อ.ปราสาท จ.สุรินทร์ ทราบชื่อผู้เสียชีวิต นายคมศักดิ์ หาญสุด อายุ 36 ปี บ้านเลขที่ 70/1 ม.5 บ.สำโรง ต.หนองใหญ่ อ.ปราสาท จากการสอบถามทางญาติผู้เสียชีวิต
ทราบชื่อ นายชัยศรี สัชชานนท์ อายุ 47 ปี เล่าว่าให้ฟังว่า ตนเห็นผู้ตายครั้งล่าสุดใน วันที่ 31 ต.ค.63 เวลา 21.00 น. คืนวันลอยกระทง พอรุ่งเช้าแม่ของผู้เสียชีวิตได้วิ่งมาบอกกับตนเองว่า นายคมศักดิ์ ไม่ได้กลับบ้านเมื่อคืนนี้หายไปทั้งคืนเลยรู้สึกเป็นห่วงเพราะผู้ตายไม่เคยหายออกจากบ้านเลย จึงได้พากันเข้าไปแจ้งทางผู้นำชุมชนและช่วยกันออกตามหา จนกระทั้งมีคนบอกว่าผู้ตายชอบไปหาปลาบริเวณฝายน้ำล้นดังกล่าวเกรงว่าจะตกน้ำจึงได้พากันออกตามหาบริเวณคลองเชื่อมฝายน้ำล้นดังกล่าวจนกระทั่งไปพบว่าเป็นศพ นายคมศักดิ์ ในสภาพจมน้ำลอยอืดลักษณะคว่ำหน้าในน้ำจึงได้แจ้งไปทางทีมกู้ภัยทางน้ำจากอาสากู้ภัยสว่างจรรยาธรรมบุรีรัมย์ จุด อ.ปราสาท ให้ออกตรวจสอบให้การช่วยเหลือเคลื่อนย้ายร่างผู้เสียชีวิตนำขึ้นจากน้ำในเวลาต่อมา ซึ่งสาเหตุของการจมน้ำเสียชีวิตญาติสงสัยว่าอาจเป็นเพราะน้ำลึกไหลเชี่ยวแรง ไปคนเดียวไม่มีใครช่วยได้เพราะเป็นช่วงเวลาดึกค่ำมืด
ส่วนสาเหตุเบื้องต้น ร.ต.อ.ทัศนันต์ อินทร์งาม พนักงานสอบสวนเวรสถานีตำรวจภูธรปราสาท อ.ปราสาท จ.สุรินทร์ ได้ทำการเข้าตรวจสอบในจุดเกิดเหตุเก็บภาพและข้อมูลเพื่อลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐานเรียบร้อยแล้วจึงได้ประสานไปทางแพทย์เวรชันสูตรพลิกศพแล้วไม่มีบาดแผลหรือร่องรอยการถูกทำร้ายใดๆ ผู้ตายพลัดตกไปในน้ำด้วยตนเองและขาดอากาศหายใจทำให้เสียชีวิตส่วนทางญาติพี่น้องผู้เสียชีวิตไม่ได้ติดใจในสาเหตุของการเสียชีวิตจึงได้เคลื่อนย้ายร่างผู้เสียชีวิตกลับภูมิลำเนาเพื่อประกอบพิธีกรรมทางศาสนา ต่อไป