ปภ.รายงาน ยังมีน้ำมท่วม 3 จังหวัด เร่งช่วยเหลือผู้ประสบภัย
3 พ.ย. 2563, 10:11
เมื่อวันที่ 3 พ.ย. 63 กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) รายงานสถานการณ์น้ำท่วมฉับพลัน น้ำไหลหลาก ดินสไลด์ และวาตภัย ในพื้นที่ 35 จังหวัด รวม 156 อำเภอ 554 ตำบล 2,356 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 91,685 ครัวเรือน มีผู้เสียชีวิต 8 ราย (จันทบุรี ตรัง นครราชสีมา จังหวัดละ 1 ราย สุราษฎร์ธานี 3 ราย และปราจีนบุรี 2 ราย) บาดเจ็บ 4 ราย (สิงห์บุรี 3 ราย และเชียงใหม่ 1 ราย) ผู้สูญหาย 2 ราย (ปราจีนบุรี) ปัจจุบันยังคงมีสถานการณ์น้ำท่วมขังในพื้นที่ 3 จังหวัด ได้แก่ นครราชสีมา ปราจีนบุรี และสุพรรณบุรี ซึ่ง ปภ.ได้ร่วมกับหน่วยทหาร จังหวัด และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เร่งให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัยและคลี่คลายสถานการณ์โดยเร่งระบายน้ำออกจากพื้นที่น้ำท่วมขัง และสำรวจความเสียหายครอบคลุมทุกด้าน เพื่อให้การช่วยเหลือตามระเบียบกระทรวงการคลังฯ
กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ในฐานะกองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกลาง (กอปภ.ก.) รายงานจากอิทธิพลพายุระดับ 2 (ดีเปรสชัน) ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย ทำให้ประเทศไทยมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ตั้งแต่วันที่ 7 ต.ค. 63 – ปัจจุบัน (3 พ.ย. 63 เวลา 06.00 น.) มีพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมฉับพลัน น้ำไหลหลาก ดินสไลด์ และวาตภัย รวม 35 จังหวัด ได้แก่ เชียงใหม่ อุบลราชธานี นครราชสีมา ชัยภูมิ ศรีสะเกษ บุรีรัมย์ สุรินทร์ ปราจีนบุรี สระแก้ว ฉะเชิงเทรา จันทบุรี ชลบุรี ระยอง อุทัยธานี สมุทรสงคราม สมุทรสาคร สุพรรณบุรี กาญจนบุรี นครสวรรค์ ชัยนาท สิงห์บุรี ราชบุรี นครปฐม ปทุมธานี เพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร นครศรีธรรมราช สุราษฎร์ธานี พังงา กระบี่ ภูเก็ต ตรัง สตูล และสงขลา รวม 156 อำเภอ 554 ตำบล 2,356 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 91,685 ครัวเรือน มีผู้เสียชีวิต 8 ราย (จันทบุรี ตรัง นครราขสีมา จังหวัดละ 1 ราย สุราษฎร์ธานี 3 ราย และปราจีนบุรี 2 ราย) บาดเจ็บ 4 ราย (สิงห์บุรี 3 ราย และเชียงใหม่ 1 ราย) ผู้สูญหาย 2 ราย (ปราจีนบุรี) แยกเป็น
พื้นที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมฉับพลันและน้ำไหลหลาก 32 จังหวัด รวม 132 อำเภอ 522 ตำบล 2,314 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 91,607 ครัวเรือน มีผู้เสียชีวิต 8 ราย (จันทบุรี ตรัง นครราชสีมา จังหวัดละ 1 ราย สุราษฎร์ธานี 3 ราย และปราจีนบุรี 2 ราย) ปัจจุบันสถานการณ์คลี่คลายแล้ว 29 จังหวัด ยังคงมีน้ำท่วมขัง 3 จังหวัด ดังนี้
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 1 จังหวัด ได้แก่
- นครราชสีมา ยังคงมีน้ำท่วมขังในพื้นที่ 8 อำเภอ ได้แก่ อำเภอปากช่อง อำเภอปักธงชัย อำเภอสูงเนิน อำเภอโนนสูง อำเภอพิมาย อำเภอเฉลิมพระเกียรติ อำเภอจักราช และอำเภอห้วยแถลง ระดับน้ำลดลง
ภาคตะวันออก 1 จังหวัด ได้แก่
- ปราจีนบุรี ยังคงมีน้ำท่วมขังในพื้นที่ 3 อำเภอ ได้แก่ อำเภอศรีมหาโพธิ อำเภอกบินทร์บุรี และอำเภอนาดี ระดับน้ำลดลง
ภาคกลาง 1 จังหวัด ได้แก่
- สุพรรณบุรี ยังคงมีน้ำท่วมขังในพื้นที่ 3 อำเภอ ได้แก่ อำเภอสองพี่น้อง อำเภอเมืองสุพรรณบุรี และอำเภอบางปลาม้า ระดับน้ำลดลง
พื้นที่ได้รับผลกระทบจากวาตภัย 8 จังหวัด ได้แก่ เชียงใหม่ นครสวรรค์ ชัยนาท สิงห์บุรี กาญจนบุรี พังงา ชุมพร และอุบลราชธานี รวม 19 อำเภอ 26 ตำบล 36 หมู่บ้าน บ้านเรือนประชาชนเสียหาย 78 หลัง บาดเจ็บ 4 ราย (สิงห์บุรี 3 ราย และเชียงใหม่ 1 ราย) ปัจจุบันสถานการณ์คลี่คลายแล้ว อยู่ระหว่างการฟื้นฟู
พื้นที่ได้รับผลกระทบจากดินสไลด์ 4 จังหวัด ได้แก่ ชุมพร ภูเก็ต สตูล และกระบี่ รวม 5 อำเภอ 6 ตำบล 6 หมู่บ้าน
ทั้งนี้ กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยได้ร่วมกับจังหวัดหน่วยทหาร องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เร่งระบายน้ำออกจากพื้นที่ รวมถึงสนับสนุนเรือท้องแบน พร้อมเครื่องยนต์ รถบรรทุกติดตั้งเครน รถเคลื่อนย้ายผู้ประสบภัยไปยังจุดอพยพ อีกทั้งแจกจ่ายเครื่องอุปโภคบริโภค เพื่อการดำรงชีพ สำหรับจังหวัดที่สถานการณ์คลี่คลายแล้วให้เร่งสำรวจประเมินความต้องการการช่วยเหลือของผู้ประสบภัย พร้อมจัดทำบัญชีความเสียหายให้ครอบคลุมทุกด้าน ทั้งการประกอบอาชีพ ชีวิตความเป็นอยู่ ที่อยู่อาศัย พื้นที่การเกษตร ปศุสัตว์ สาธารณูปโภค เพื่อให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัยตามระเบียบกระทรวงการคลังฯ ตลอดจนเร่งซ่อมแซมและฟื้นฟู สิ่งสาธารณประโยชน์ให้สามารถใช้งานได้ตามปกติโดยเร็ว สำหรับประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากสถานการณ์ภัยติดต่อได้ทางสายด่วนนิรภัย 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อประสานให้การช่วยเหลือโดยด่วนต่อไป