สะเทือนใจ "เด็กหญิงม.2" โดนเพื่อนชายร่วมห้อง 5 คนพยายามล่วงละเมิด 3 ครั้งติด หลังห้องคอม
4 พ.ย. 2563, 14:38
วันอังคารที่ (3 พ.ย.63) ที่ สน.บางยี่ขัน นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาหงสกุลเด็กและสตรี ได้พานางมิ่ง และด.ญ.มุ่ย (ทั้งสองนามสมมุติ) อายุ 13 ปี ลูกสาวซึ่งเป็นนักเรียนม.2 โรงเรียนมัธยมแห่งหนึ่งย่านปิ่นเกล้า กรุงเทพฯ ไปพบ พ.ต.อ.เฉลิมศักดิ์ สุขสำราญ รองผบก.น.7 รรท.ผกก.สน.บางยี่ขัน และพ.ต.อ.ฤทธิชัย ช่างคำ ผกก.สอบสวน บก.น.7 เพื่อให้สองแม่ลูกแจ้งความกรณี ด.ญ.มุ่ย ถูกเพื่อนนักเรียนชาย 5 คน ที่เรียนอยู่ห้องเดียวกันล่วงละเมิดทางเพศภายในห้องเรียนคอมพิวเตอร์ของโรงเรียน
นางมิ่ง แม่ของเด็กหญิง ม.2 เล่าเหตุการณ์เศร้าสลดว่า วันที่ (22 ต.ค.63) ที่ผ่านมา ขณะที่ลูกสาวนั่งเรียนวิชาคอมพิวเตอร์อยู่ในห้องเรียน ได้มีนักเรียนชาย 5 คน ประกอบด้วย นายเอ อายุ 17 ปี หัวโจกของห้อง พร้อม ด.ช.บี, ด.ช.ซี, ด.ช.ดี และด.ช.อี (อายุประมาณ 13-14 ปี ทุกคนนามสมมุติ) ทั้งหมดเข้ามาฉุดลากลูกสาวจากโต๊ะเรียนพาไปที่หลังห้องเรียนโดยช่วยกันจับแขนจับขา และปิดปากไม่ให้ร้องขอความช่วยเหลือ ก่อนจะพยายามล่วงละเมิดทางเพศ
โดยรอบแรกลูกพยายามดิ้นรนจนหลุดออกจากวงล้อมได้ มานั่งร้องไห้อยู่ที่หน้าห้องเรียน ขณะเกิดเหตุเป็นช่วงที่ครูไม่อยู่ในห้องเรียน เด็กนักเรียนชายทั้ง 5 คน ก็กลับมาอุ้มลูกสาวไปที่หลังห้องเรียนเป็นครั้งที่ 2 และพยายามล่วงละเมิดทางเพศ แต่ลูกสาวดิ้นรนจนหลุดมาได้อีกครั้ง
แต่นักเรียนชายทั้ง 5 คน ก็ยังไม่เลิกราตามมาอุ้มฉุดไปที่หลังห้องเรียนเป็นครั้งที่ 3 และลากไปในห้องเก็บของที่อยู่ลึกเข้าไปอีก จนลูกสาวกรีดร้องสุดชีวิต ก่อนที่เพื่อนในห้องจะวิ่งมาดูเห็นสภาพผู้หญิงถูกจับถอดชุดเปลือยกายท่อนล่าง นักเรียนชายทั้ง 5 คน ก็ได้แยกย้ายกันไปเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
ต่อมาลูกสาว กับเพื่อนสนิทพากันไปแจ้งเรื่องกับครูฝ่ายปกครองให้ทราบ ครูจึงเรียกนักเรียนชายทั้ง 5 คน มาสอบถามเรื่องที่เกิดขึ้นพร้อมเรียกผู้ปกครองทั้ง 2 ฝ่ายมารับทราบเรื่อง ซึ่งนักเรียนชายทั้ง 5 คน ให้การรับสารภาพ
นางมิ่ง กล่าวว่า นักเรียนชายทั้ง 5 คน กระทำการล่วงละเมิดทางเพศโดยไม่เกรงกลัวครู และเพื่อนนักเรียนที่อยู่ในห้องร่วม 30 คน เห็นว่าลูกสาวตัวเล็กที่สุดในห้องคงจะไม่มีเรี่ยวแรงและไม่กล้าขัดขืน
กระทั่งวันที่ 28 ต.ค.63 โรงเรียนได้นัดผู้ปกครองทั้ง 2 ฝ่ายไปเจรจากัน โรงเรียนได้เตรียมบันทึกข้อตกลงที่มีข้อความระบุว่า นักเรียนชายทั้ง 5 คน ให้การรับสารภาพ และฝ่ายนักเรียนชายพร้อมผู้ปกครอง 5 ครอบครัวจะนำพวงมาลัยดอกไม้มากราบขอขมาแม่ผู้เสียหาย แลกกับการไม่ดำเนินคดีทั้งทางแพ่งและทางอาญา
ส่วนทางโรงเรียนจะทำการหักคะแนนความประพฤตินักเรียนชายทั้ง 5 คน คนละ 35 คะแนน พร้อมทำทัณฑ์บนหากมีการกระทำความผิดเพิ่มเติมโรงเรียนจะดำเนินการย้ายสถานศึกษา โดยพี่สาวจำยอมเซ็นชื่อรับทราบเรื่องดังกล่าวด้วย
ด้านแม่เด็กนักเรียนรู้สึกเครียด และลูกมีสภาพจิตใจที่ย่ำแย่ จึงตัดสินใจมาขอให้มูลนิธิปวีณาฯ พาแจ้งความ ขอความเป็นธรรมและจะได้ไม่เกิดเรื่องเลวร้ายกับนักเรียนหญิงคนอื่นอีก
นางปวีณา กล่าวว่า เรื่องนี้เป็นปัญหาใหญ่ของสังคมบ้านเราในปัจจุบัน ดังนั้นจำเป็นที่จะต้องมีมาตราการป้องกันแก้ไขปัญหาอย่างจริงจัง มิใช่ปกปิดปัญหาก็จะไม่จบ โดยทางโรงเรียนจะต้องรายงานไปยังกระทรวงศึกษาธิการให้ลงมาช่วยแก้ไขปัญหามิให้เกิดขึ้นซ้ำอีก และในวันนี้นางปวีณาจะได้ประสานไปยังผู้แทนกระทรวงศึกษา ดร.ชนะ สุ่มมาตย์ ผู้อำนวยการศูนย์เฉพาะกิจคุ้มครองและช่วยเหลือนักเรียน สพฐ. เพื่อให้ ด.ญ.มุ่ย และผู้ปกครองเข้าพบรับทราบเรื่องและตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีดังกล่าวเพื่อแก้ปัญหาและป้องกันเหตุการณ์ล่วงละเมิดทางเพศเด็กในโรงเรียนมิให้เกิดขึ้นอีก
ส่วนในเรื่องการดำเนินคดี เนื่องจากทั้งสองฝ่ายเป็นเด็กทั้งคู่ ก็จะต้องมีมาตราการตามกระบวนการยุติธรรมของเด็ก คือ สอบสหวิชาชีพ ทั้งสองฝ่าย เนื่องจากในบันทึกของโรงเรียนได้ระบุชัดเจนว่า เด็กนักเรียนชายทั้ง 5 คน ได้ล่วงละเมิดทางเพศ เด็กนักเรียนหญิงจริง โดยมีผู้ปกครองของเด็กนักเรียนชายลงนามรับทราบ และครู ผู้อำนวยการเซ็นเป็นพยาน บันทึกฉบับนี้จะเป็นหลักฐานสำคัญที่ตำรวจจะนำมาเป็นพยานหลักฐานด้วย เด็กนักเรียนหญิงก็จะต้องเข้าบำบัดฟื้นฟูสภาพจิต และมูลนิธิปวีณาฯ จะประสานกระทรวงศึกษาธิการขอให้ย้ายสถานที่เรียนใหม่ ส่วนเด็กนักเรียนชายก็จะต้องเข้ารับการอบรมฟื้นฟูสภาพจิตใจตามกระบวนการยุติธรรมเด็ก ให้เขากลับมาใช้ชีวิตเป็นเด็กดีของสังคมต่อไป.
ที่มา มูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี