แม่เล่าอุทาหรณ์ หมอตรวจส่งๆลูกชาย บอกอาหารเป็นพิษทั้งที่ไส้ติ่งแตก
6 พ.ย. 2563, 13:45
กลายเป็นเรื่องราวที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์อยู่ในขณะนี้ หลังคุณแม่รายหนึ่งได้ออกมาโพสต์เล่าอุทาหรณ์ที่เธอเกือบจะสูญเสียลูกไป หลังพาลูกส่งโรงพยาบาลรัฐแห่งหนึ่งในสัตหีบ เนื่องจากปวดท้องอย่างหนัก แต่หมอกลับวินิจฉัยว่า อาหารเป็นพิษ เท่านั้น ทั้งที่จริงๆแล้วไม่ใช่
โดยคุณแม่รายดังกล่าวระบุข้อความว่า คืนวันพฤหัสน้องบ่นปวดท้อง ต่อเนื่องคืนวันศุกร์น้องปวดมากขึ้น เช้าวันเสาร์เลยพาน้องไปคลินิก ทางหมอบอกอาหารเป็นพิษ ตกช่วงดึกอาการน้องไม่ดีขึ้น
เช้าวันอาทิตย์เลยนำน้องไปโรงพยาบาลรัฐแห่งหนึ่งในสัตหีบ ซึ่งสภาพน้องที่ไปถึง รพ. น้องปวดท้องมาก ปากเขียว หน้าซีด และไม่มีแรง ช่วงนั่งรอน้องก็นั่งฟุบหน้าตลอด พอถึงเวลาตรวจทางคุณหมอถามประวัติไม่ถึง 5 นาที และวินิจฉัยว่าน้อง อาหารเป็นพิษ โดยให้ยาแก้อาการเกร็ง, แก้อาเจียน และยาพารามาเท่านั้น
สายของวันจันทร์ยายโทรบอกแม่ว่าอาการน้องทรุดกว่าเดิม ลุกไม่ไหว และเริ่มไม่รู้สึกตัว ทางยายเลยรีบพาไปหาหมอแถวบ้าน ทางหมอบอกต้องเอาน้องไปโรงพยาบาลด่วนเพราะอาการไม่สู้ดีนัก เลยประสานงานส่ง รพ.วัดญาณฯ และทาง รพ.ได้ส่งตัวน้องไปต่อในจังหวัด
สรุป ทางคุณหมอ รพ.ชลบุรี ต้องรีบตัวน้องเข้าห้องฉุกเฉินเป็นการด่วน และตรวจแบบละเอียด วินิจฉัยว่าน้องไส้ติ่งแตกจนเน่าและมีหนองไหลออกมา ซึ่งถ้ามาช้ากว่านี้น้องอาจเสียชีวิตได้
ทางคุณแม่ระบายมาว่า ถ้าทาง รพ.รัฐแห่งแรกวินิจฉัยโรคน้องแบบละเอียด น้องคงไม่มีอาการทรุดลงขนาดนี้ เพราะถ้ามาช้าอีกนิดเค้าอาจเสียน้องไปก็ได้ ทางแม่ไม่ได้ต้องการเรียกร้องอะไร แค่ต้องการให้ทาง รพ.รัฐแห่งแรก ใส่ใจเข้มงวดกับบุคลากรมากขึ้น ต่อให้คนไข้ใช้สิทธิ์ต่างๆของรัฐแต่ก็ไม่อยากให้ตรวจแบบผ่านๆ วินิจฉัยให้เต็มที่ตามหน้าที่