วันที่ 6 พ.ย. 63 ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งว่าเมื่อกลางดึกของคืนที่ผ่านมา (5 พ.ย.63) เวลา 00.10 น.ร.ต.อ.อภิวุฒิ ลีโพนทอง พนักงานสอบสวนสภ.กู่แก้ว จ.อุดรธานี รับแจ้งมีเกิดอุบัติเหตุเหตุรถเก๋งชนเสาไฟฟ้าส่องสว่างทางที่บริเวณถนนบ้านซำเจริญ ต.บ้านจีต อ.กู่แก้ว จ.อุดรธานี จึงรุดไปยังที่เกิดเหตุพบรถเก๋งยี่ห้อโตโยต้าโคโรล่าสีเขียว หมายเลขทะเบียน  กย 3626 อุดรธานี ชนเข้ากับเสาไฟฟ้าส่องสว่างสามแยกในหมู่บ้าน แต่ไม่พบเจ้าของรถอยู่ที่เกิดเหตุ ต่อมาตร.ได้รับแจ้งจากชาวบ้านบ้านซำเจริญว่ามีชายแปลกหน้า 2 คนบุกเข้าไปในบ้านและนอนก่อผิงไฟอยู่ใต้ถุนบ้านคาดจะเป็นเจ้าของรถ ตร.จึงเดินทางไปตรวจสอบถามชื่อเสียงเรียงนามแต่ทั้งสองคนไม่พูดอะไรว่าเป็นใครมาจากไหน ตร.จึงแจ้งกู้ชีพนำทั้งสองคนส่งรพ.กู่แก้วเพื่อทำการรักษาให้การช่วยเหลือ

 

 

ร.ต.อ.อภิวุฒิ ลีโพนทอง พนักงานสอบสวนสภ.กู่แก้ว จ.อุดรธานี เปิดเผยว่า คดีอุบัติเหตุครั้งนี้เหมือนอุบัติเหตุธรรมดาทั่วไป แต่ก็ต้องตกใจเมื่อตอนเช้าวันนี้ได้รับการประสานจากตร.สภ.ไชยวานว่ารถยนต์คันดังกล่าวถูกคนร้ายขโมยมาทำให้นึกขึ้นได้เพราะเริ่มเอะใจตั้งแต่เมื่อคืนแล้ว ตนเองได้ขอสอบถามชื่อที่อยู่ขณะที่ทั้งสองคนหลังเกิดอุบัติเหตุแต่ทั้งสองคนไม่ยอมบอก แต่โชคยังดีที่ทั้งสองคนร้ายทำกระเป๋าหล่นไว้จึงเก็บข้อมูลไว้มีชื่อที่อยู่ พอหลังจากกู้ชีพนำตัวทั้งสองคนไปรักษาตัวที่รพ.กู่แก้วหมอได้ทำการรักษาเบื้องต้นและสอบถามชื่อที่อยู่แต่ทั้งสองคนไม่ยอมบอกชื่อและได้เอะอะโวยวาย ทางหมอจึงแจ้งตร.สายตรวจสภ.กู่แก้วนำตัวมายังโรงพักเพื่อสงบสติอารมณ์ พอมาถึงทั้งสองคนได้ขอกุญแจรถเก๋งคันที่เกิดอุบัติเหตุจากร้อยเวร แต่ตร.ไม่ยอมให้และโวยวายเสียงดังหนักขึ้นไปอีก และขณะที่ตร.จะคุมตัวเข้าห้องขังเพื่อสงบสติอารมณ์ปรากฏว่าทั้งสองคนได้วิ่งหนีออกจากโรงพักไป พอรู้ว่าเป็นคนร้ายขโมยรถยนต์มา ตอนนี้รู้ตัวคนทั้งสองแล้วคือนายวินัต บุราณรัตน์ อายุ 29 ปี อยู่บ้านเลขที่ 116 หมุ่ 6 ต.บ้านม่วง อ.บ้านดุง จ.อุดรธานีและนายวิพัฒน์ สายทอง อายุ 23 ปี อยู่บ้านเลขที่ 19 หมู่ 2 ต.โพนสูง อ.บ้านดุง จ.อุดรธานี

 

 

 

ร.ต.อ.อภิวุฒิ เปิดเผยอีกว่า  จากข้อมูลที่ทราบ หลังจากคนร้ายขโมยรถเก๋งในพื้นที่อ.ไชยวานมาประสบอุบัติเหตุ และทั้งสองคนได้หนีออกจากสภ.กู่แก้ว ได้เข้าไปขโมยรถจักรยานยนต์ของชาวบ้านที่จอดอยู่อยู่ข้างกศน.กู่แก้วที่เสียบกุญแจคาไว้แล้วขับหนีอ.ไชยวาน จากนั้นได้ไปขโมยรถซาเล้งของช่างซ่อมในอ.ไชยวานไปอีกคันกำลังหลบหนีอยู่ ตอนนี้ตร.ได้ประสานในท้องที่อ.ใกล้เคียง ไม่ว่าจะเป็นอ.ไชยวาน อ.หนองหาน อ.ศรีธาตุ อ.บ้านดุง และอ.กุมภวาปี ให้เร่งสกัดจับคนร้ายเป็นการเร่งด่วนเพราะกลัวไปก่อเหตุอีก ถือว่าเป็นภัยอันตรายต่อชาวบ้านเป็นอย่างมาก

 

ต่อมาผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่ร้านศิริชัยวัสดุก่อสร้าง เลขที่ 8 หมู่ 12 ต.ไชยวาน อ.ไชยวาน ซึ่งจุดนี้คนร้ายได้มาขโมยรถเก๋งที่จอดอยู่หน้าร้านก่อนไปประสบอุบัติเหตุที่อ.กู่แก้ว โดยนางจุฬาลักษณ์ ดวงบุตร อายุ 61 ปีพี่สาวของนายสุรชัย ขันธวิชัย อายุ 561 ปีเจ้าของร้านวัสดุก่อสร้าง เปิดเผยว่า รถคันที่ถูกขโมยเป็นของพ่อของพวกตนเองคือนายศิริชัย ขันธวิชัย ท่านอายุมากแล้วอดีตเป็นข้าราชการครู แต่น้องชายได้นำรถพ่อมาดูแลรักษาไว้ให้เพราะเป็นรถคันแรกที่พ่อซื้อหลังจากเกษียน แต่ถคันที่ถูกขโมยเป็นของพ่อของพวกตนเองตุคนร้ายขโมยรถยนต์สักครั้ง้าร้านอเหตุอีกเขียว หมายเลขทะเบียนเมื่อคืนวันที่ 5 พ.ย.63 เวลาประมาณ 22.10 น.ที่ผ่านมาได้มีคนร้ายเป็นชาย 2 คนเดินเท้าเปล่ามาจากเส้นทางบ้านดงบังหนองเขื่อน อ.หนองหาน พอมาถึงหน้าร้านได้เข้ามาเปิดประตูรถยนต์แล้วขโมยขับออกจากไปโดยกล้องวงจรปิดจับภาพเอาไว้ได้ ตอนแรกพวกเราไม่รู้ว่ามีคนมาขโมยรถไปมารู้อีกทีตอนเช้าจึงรีบไปแจ้งตร.สภ.ไชยวาน ส่วนสาเหตุที่คนร้ายสตาร์ทเครื่องออกไปได้เพราะวันก่อนน้องชายกะว่าจะล้างรถยนต์ให้พ่อแต่ลืมกุญแจไว้ในรถและไม่ได้ล็อครถ  ปกติแต่ไหนแต่ไรใน อ.ไชยวานไม่เคยเกิดเหตุคนร้ายขโมยรถยนต์สักครั้งคงเป็นจังหวะประจวบเหมาะกับช่วงคนร้ายเดินผ่านมาคงเห็นรถจอดอยู่บ้าน พอเห็นกุญแจจึงขโมยรถไปตอนนี้พวกเราอยากได้รถคืนและอยากเห็นหน้าคนร้ายได้ อยากให้ตร.เร่งตามจับคนร้ายให้ที