มท.3 ตรวจเยี่ยมโครงการสร้างถนนเชื่อมสะพานไทย-ลาวแห่งที่ 5
8 พ.ย. 2563, 08:54
เมื่อเวลา 09.00 น.วันที่ 7 พ.ย. 2563 ผู้สื่อข่าว ONB news รายงานว่า ดร.ทรงศักดิ์ ทองศรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย หรือ มท.3 ได้เดินทางไปตรวจเยี่ยมโครงการก่อสร้างถนนเชื่อมโยงสะพานข้ามแม่น้ำโขงไทย-ลาวแห่งที่ 5 บึงกาฬ-ปากซัน แขวงบอลิคำไซ ที่จุดเชื่อมถนนสาย 222 บึงกาฬ-พังโคน บริเวณพื้นที่บ้านหนองนาแซงตอนที่ 1 ซึ่งมีระยะทาง 9.4 กิโลเมตร ใช้ระยะเวลาก่อสร้าง 900 วัน ใช้งบประมาณ 831,110,000 บาท โดยบริษัท บัญชากิจ โดยมี นายสนิท ขาวสะอาด ผวจ.บึงกาฬ และหัวหน้าส่วนเกี่ยวข้องให้การต้อนรับ
ดร.ทรงศักดิ์ ทองศรี มท.3 เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า การสร้างสะพานข้ามแม่น้ำโขงไทย-ลาวแห่งที่ 5 ซึ่งเป็นโครงสร้างพื้นฐานในการคมนาคมอย่างน้อยที่สุดก็เป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยว การขนส่งสินค้า เพื่อการยกระดับการไปมาหาสู่กันระหว่างประชาชนทั้ง 2 ประเทศ นี่คือเป็นแผนงานที่เราคิดไว้ตั้งแต่ต้นแล้วก่อนที่จะสร้างจังหวัดบึงกาฬ ซึ่งวันนี้สะพานมิตรภาพไทยลาวแห่งที่ 5 เป็นการเชื่อมโยง 3 ประเทศซึ่งจากจังหวัดบึงกาฬสามารถไปสู่ประเทศลาวและก็ต่อไปยังเวียดนามซึ่งระยะทางไม่น่าจะเกิน 300 กิโลเมตร เราสามารถเชื่อมโยงกัน 3 ประเทศ จะส่งเสริมในการท่องเที่ยว การส่งสินค้า เรื่องการขนส่งคมนาคมไปมาหาสู่กัน ซึ่งแนวคิดจะทำให้บึงกาฬเป็นฮับหรือว่าเป็นศูนย์กลางเรื่องของการสร้างเขตเศรษฐกิจพิเศษในอนาคตข้างหน้า การท่องเที่ยว เรื่องของจังหวัดบึงกาฬเป็นเมืองยางพารา เมื่อการผลิตหรือการจะใช้วัตถุดิบจากยางพาราแล้วต้องมีการขนส่งไปต่างประเทศ
ซึ่งสมัยก่อนนี้เมื่อเราต้องการส่งยางพาราออกต่างประเทศจะต้อง นำส่งไปที่ท่าเรือแหลมฉบัง ใช้ระยะทางประมาณ 1,000 กิโลเมตร และวันนี้หากเราสร้างสะพานแห่งที่ 5 นี้แล้วเสร็จ การขนส่งสินค้าหรือทุกอย่างที่เป็นผลผลิตด้านการเกษตรจากพี่น้องชาวบึงกาฬ ไม่ว่าจะเป็นยางพาราหรือสินค้าอื่นๆ สามารถจัดการส่งออกไปลงเรือที่เมืองฮาติงห์ที่ประเทศเวียดนามไม่เกิน 300 กิโลเมตร ซึ่งก็จะประหยัดต้นทุนในการผลิตสินค้าทำให้เศรษฐกิจดีขึ้น ส่วนการสร้างสนามบินและมอเตอร์เวย์ที่มีการศึกษาและกำลังสำรวจอยู่ขณะนี้ จะเริ่มก่อสร้างได้เมื่อไหร่นั้นขอเรียนว่าถ้าจะให้ครบวงจรในการพัฒนามันจะต้องมีเรื่องของโครงข่ายการคมนาคมให้มันเกิดความสะดวกสบาย การสร้างสะพานแห่งที่ 5 ข้ามแม่น้ำโขง สร้างถนนตัดใหม่จากบึงกาฬไปอุดรธานีและสนามบินซึ่งเป็นการขนส่งในยุคโลกปัจจุบันนี้ กระทรวงคมนาคมได้มีการศึกษาความเป็นไปได้ ความเหมาะสมและความคุ้มค่า ซึ่งก็มีการเลือกแนวทางไปแล้ว จากการดูขั้นตอนการก่อสร้างโครงการใหญ่ๆ แล้วอย่างน้อยต้องใช้เวลาประมาณสัก 7 ปี ซึ่งผมเชื่อ ว่าในอนาคตจะได้เห็นสนามบิน ถนนตัดใหม่อย่างแน่นอน เพราะในขั้นตอนนี้เราได้มีการศึกษาความเป็นไปได้ความเหมาะสมแล้ว ซึ่งต่อแต่นี้ไปจะต้องเป็นเรื่องของกระทรวงคมนาคมและรัฐบาลตั้งงบประมาณในการออกแบบเตรียมความพร้อมในการก่อสร้างต่อไป ก็เหมือนสะพานไทย-ลาวแห่งที่ 5 เมื่อ 9 ปีที่แล้วเราก็มีการศึกษาความเป็นไปได้และ ผลกระทบกับพี่น้องประชาชนซึ่งทุกอย่างต้องเห็นพ้องต้องกันและทุกอย่างต้องเป็นไปตามรัฐธรรมนูญด้วย และเป็นส่วนควบกันที่จะต้องผลักดันให้จังหวัดบึงกาฬเป็นศูนย์กลางเขตเศรษฐกิจพิเศษด้วย เป็นศูนย์รวมการสร้างเศรษฐกิจของประเทศได้ดีขึ้นด้วย
และบ่ายวันนี้ ดร.ทรงศักดิ์ ทองศรี รมช.มหาดไทย ได้เดินทางไปตรวจเยี่ยมการก่อสร้างขยายถนนจาก 2 เลนเป็น 4 เลนในถนนชยางกูรหรือถนนสาย 212 ระหว่าง อำเภอปากคาด-บึงกาฬ ได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนว่า ตนเองในฐานะผู้ที่ได้รับมอบหมายจากท่านนายกรัฐมนตรี พลเอกประยุทธ จันทร์โอชา ให้ดูแลการพัฒนาใน 3 จังหวัดภาคอีสานตอนบนคือจังหวัด สกลนคร นครพนมและจังหวัดบึงกาฬ ได้มาตรวจเยี่ยมความคืบหน้าการก่อสร้างขยายถนน ซึ่งเส้นทาง 212 เป็นเส้นทางจากจังหวัดหนองคาย-บึงกาฬ ซึ่งเป็นจังหวัดน้องใหม่เป็นเส้นทางยุทธศาสตร์เลียบแม่น้ำโขง ชายแดนกับประเทศเพื่อนบ้านของเราและก็มาสอดรับการก่อสร้างสะพานไทยลาวข้ามแม่น้ำโขงแห่งที่ 5 วันนี้ได้เริ่มก่อสร้างเรียบร้อยแล้ว ซึ่งเห็นว่าเครื่องจักรกำลังทำงานอยู่ไม่เกิน 3 ปี หรือไม่เกิน 930 วันตามสัญญาก่อสร้างขยายถนนเส้นนี้ พี่น้องประชาชนจะได้มีโอกาสได้ใช้ถนนเพื่อรองรับการท่องเที่ยวการ เติบโตทางด้านเศรษฐกิจชายแดนทั้งเราและเพื่อนบ้านด้วย นี่คือผลประโยชน์ของพี่น้องประชาชน ซึ่งจะเป็นถนน 4 เลนทั้งหมด จึงอยากจะขอฝากให้พี่น้องประชาชนได้มีความเชื่อมั่นว่ารัฐบาลนี้ มีความมุ่งมั่นตั้งใจ โดยเฉพาะฯพณฯ ท่านนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีมีความมุ่งหวังให้ โครงการพัฒนาต่างๆ เดินหน้าไปได้อย่างรวดเร็ว ด้วยความเรียบร้อย ตามกรอบเวลาอย่างแน่นอน.