เปิด ปิด การใช้งานคุกกี้ของ ทรูฮิต (Truehits Cookies)



ทหารพรานยึดโคเคนซุกเสื้อ กระเป๋า นร.และกัญชา ยาบ้า มูลค่ากว่า 117 ล้าน


8 พ.ย. 2563, 09:26



ทหารพรานยึดโคเคนซุกเสื้อ กระเป๋า นร.และกัญชา ยาบ้า มูลค่ากว่า 117 ล้าน




เมื่อเวลา 15.30 น.วันที่ 7 พ.ย. 2563 ที่กองร้องเฉพาะกิจทหารพรานที่ 2106 อ.ปากคาด จ.บึงกาฬ พล.ต.บุญสิน พาดกลาง ผู้บัญชาการกองกำลังสุรศักดิ์มนตรี พล.ต.ต.สมศักดิ์ คงไพบูลย์ ผบก.ภ.จว.บึงกาฬ พ.อ.ยรรยง แสงฮาด รอง ผอ.รมน ฝ่ายทหาร พ.ต.อ.สมยศ รามกุล ผกก.สภ.ปากคาดและนายสุนทร ชื่นศิริ ผอ.ปปส.ภาค 4 พร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมกันแถลงข่าวผลการตรวจยึดยาเสพติดล็อตใหญ่ที่สามารถตรวจยึดได้ในพื้นที่จังหวัดบึงกาฬ มีโคเคน จำนวน 12.160 กิโลกรัม มูลค่าประมาณ 117 ล้านบาท ที่ซุกซ่อนมาในรูปแบบของสินค้าเสื้อผ้าไหม และกระเป๋านักเรียน ที่เตรียมจะส่งไปยังประเทศที่ 3 และยังมียาบ้าจำนวน 19,800 เม็ด กัญชาแห้งอัดแท่งจำนวน 570 กิโลกรัม ที่ส่งเข้ามาขายภายในประเทศ

ทั้งนี้สืบเนื่องเมื่อคืนผ่านมา พ.อ.พิทักษ์พล ชูศรี ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 21 ได้รับแจ้งจากสายลับว่าจะมีการลักลอบขนสินค้าหลบเลี่ยงภาษีอากรจากประเทศเพื่อนบ้าน เข้ามาบริเวณเขื่อนป้องกันตลิ่งพังริมแม่น้ำโขงท้ายบ้านศรีวิไล หมู่ที่ 5 ต.นากั้ง อ.ปากคาด จ.บึงกาฬ จึงรายงานให้ พล.ต.บุญสิน พาดกลาง ผบ.กองกำลังสุรศักดิ์มนตรีได้รับทราบ ได้สั่งการให้ ร.อ.แก้ว งามเลิศ ผบ.ร้อยเฉพาะกิจ ทพ.2106 สนธิกำลังกับ พ.ต.ท.ทรงยศ หินนนท์ รอง ผกก.สส.สภ.ปากคาดชุดสืบสวน สภ.ปากคาด ตม.บึงกาฬ ตำรวจน้ำ ศุลกากร ตำรวจ ตชด หน่วยเรือ นรข.รัตนวาปี และฝ่ายปกครอง วางแผนร่วมกันออกดักสุ่มตรวจสอบตามริมฝั่งแม่น้ำโขงบริเวณท่าน้ำต่างๆ ตลอดแนวเขตบ้านศรีวิไลและแนวเขตอำเภอปากคาด จนกระทั่งได้ยินเสียงเรือหางยาวขับเข้ามาใกล้บริเวณจุดที่ดักซุ่มห่างประมาณ 100 เมตร มีชาย 3 คนนั่งมาในเรือ จากนั้นช่วยกันยกสิ่งของลงจากเรือแล้วขนขึ้นมาไว้บนสันเขื่อนป้องกันตลิ่งพัง จนท.จึงแสดงตัวเพื่อทำการตรวจค้น ชาย 2 คนตกใจวิ่งหลบหนีไปกับความมืด ส่วนคนที่ขับเรือได้ขับเรือหลบหนีข้ามไปยังฝั่ง สปป.ลาว อย่างรวดเร็ว เมื่อเข้าตรวจสอบพบถุงพลาสติกสีดำจำนวน 5 ถุง ด้านในบรรจุเสื้อทำจากผ้าไหม จำนวน 2 ถุง และบรรจุกระเป๋านักเรียนแบบสะพายหลังลายการ์ตูนอีกจำนวน 2 ถุง จึงได้นำเสื้อออกมาทำการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่าที่คอเสื้อและชายเสื้อด้านล่างมีวัตถุแปลกปลอมซุกซ่อนอยู่ภายใน จึงใช้มีดกรีดเลาะตะเข็บออกพบว่ามีผงสีขาวคล้ายแป้งบรรจุในถุงพลาสติกใส ขนาดกว้างประมาณ 4 เซนติเมตร ยาวประมาณ 120 เซนติเมตร จำนวน 95 แผ่น/ถุง ส่วนกระเป๋านักเรียนก็มีวัตถุแปลกปลอมซุกซ่อนอยู่ในสายสะพายทั้ง 2 ข้างเช่นกัน จึงใช้มีดกรีดเลาะตะเข็บออกพบผงสีขาวคล้ายแป้งบรรจุในถุงพลาสติกใส ขนาดกว้างประมาณ 4 เซนติเมตร ยาวประมาณ 25 เซนติเมตร จำนวน 168 แผ่น/ถุง เบื้องต้นสันนิษฐานว่าเป็นยาเสพติดให้โทษแต่ยังไม่ทราบชนิด จึงนำมาตรวจสอบอย่างละเอียด ปรากฏว่าถุงพลาสติกสีดำที่บรรจุเสื้อผ้าไหม มีการพิมพ์ชื่อเป็นภาษาอังกฤษถึงผู้รับที่อยู่ในประเทศอิสราเอล ส่วนกระเป๋านักเรียนพิมพ์ชื่อเป็นภาษาอังกฤษถึงผู้รับที่อยู่ในประเทศออสเตรเลีย ชั่งน้ำหนักรวมผงสีขาวคล้ายแป้งพร้อมพลาสติกใสที่ห่อหุ้มได้ 12.160 กิโลกรัม ซึ่งเป็นยาเสพติดประเภทที่ 2 คือโคเคนที่นิยมเสพกันในต่างประเทศ

 

 

 

 

 



และที่บริเวณหลักกิโลเมตรที่ 84 ถนนหมายเลข 212 บ้านห้วยก้านเหลืองน้อย ต.ปากคาด อ.ปากดาด จ.บึงกาฬ เจ้าหน้าที่ชุดเดิมตรวจพบวัยรุ่นขี่รถจักรยานยนต์ไม่ทราบยี่ห้อ สีและทะเบียน ซ้อนกันมา 2 คนเข้ามาจอดใกล้หลักกิโลเมตรคนที่ซ้อนท้ายได้ลงจากรถนำสิ่งของบางอย่างมาวางไว้ใกล้ๆ ถังขยะข้างถนน จึงได้แสดงตัวเพื่อขอตรวจคัน เมื่อเห็นเจ้าหน้าที่ได้วิ่งขึ้นรถหลบหนีไปอย่างรวดเร็ว จึงเข้าตรวจสอบพบวัตถุห่อด้วยเทปกาวสีเหลือง จำนวน 4 ก้อน เปิดดูเป็นยาบ้ารวมทั้งหมด 19,800 เม็ด

ส่วนกัญชาแห้งอัดแท่ง กองร้อยเฉพาะกิจทหารพรานที่ 2107 ได้รับแจ้งจากสาบลับว่าจะมีการลำเสียงขนกัญชาจากประเทศเพื่อนบ้านมายังฝั่งไทยบริเวณริมฝั่งแม่น้ำโขง บ้านบุ่งคล้าเหนือ หมู่ 3 ต.บุ่งคล้า อ.บุ่งคล้า จึงรายงานให้ผู้บังคัญชาทราบ พร้อมประสานกำลังตำรวจ สภ.บุ่งคล้า ฝ่ายปกครอง ชุด.ชปข.5 กองกำลังสุรศักดิ์มนตรี ร่วมวางกำลังตามพื้นที่เป้าหมาย กระทั่งพบเรือหางยาว 2 ลำ แล่นข้ามน้ำโขงมาจากฝั่งประเทศเพื่อนบ้าน เข้ามาจอดริมตลิ่ง มีชายฉกรรจ์ 8-10 คน ลงจากเรือแบกถุงสีดำขึ้นมาไว้บนฝั่ง จึงได้แสดงตัวเข้าตรวจค้น แต่กลุ่มชายตกใจวิ่งหนีไปคนละทิศละทางพร้อมใช้อาวุธปืนยิงออกมา 5 นัด เพื่อเปิดทางวิ่งหลบหนีไปได้ เมื่อเข้าตรวจสอบพื้นที่พบวัตถุหอหุ้มด้วยพลาสติกสีตำ จำนวน 18 กระสอบ ข้างในเป็นกัญชาแห้งอัดแท่งจำนวน 570 แท่งน้ำหนักประมาณ 570 กิโลกรัม จึงนำของกลางทั้งหมดส่ง พงส.สภ.ปากคาดและสภ.บุ่งคล้า เพื่อติดตามผู้กระทำผิดดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

.

 

 


พล.ต.บุญสิน พาดกลาง ผู้บัญชาการกองกำลังสุรศักดิ์มนตรี กล่าวว่ายาเสพติดประเภท 2 โคเคนที่บรรจุซุกซ่อนมากับสินค้าในครั้งนี้ถือว่าเป็นเรื่องแปลกใหม่ที่ไม่เคยถูกจับกุมมาก่อน เคยตรวจพบสินค้าประเภทนี้มาแล้วที่ทำการไปรษณีย์แห่งหนึ่ง แต่จนท.ไม่กล้าเปิดดูกลัวสินค้าจะเสียหาย ซึ่งพ่อค้ายาเสพติดอาศัยประเทศไทยเป็นต้นทางในการขนส่งสินค้า ซึงมีโครงข่ายไปหลายประเทศ และคาดว่าน่าจะมีการลักลอบส่งออกไปตามที่อยู่ต่างประเทศคือในประเทศออสเตรเลียและอิสราเอลหลายครั้งเช่นกัน จึงขอฝากกำชับเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องไม่ว่าจะเป็นตำรวจ ทหารและจนท.ไปรษณีย์ได้ตรวจสอบพัสดุให้ละเอียดต่อไปด้วย

 

 






Recommend News






MOST POPULAR


























©2018 ONBNEWS. All rights reserved.