วันที่ 8 พฤศจิกายน 2563 บริเวณสะพานมิตรภาพไทย-ลาว แห่งที่ 3 (นครพนม-คำม่วน) บ้านห้อม ต.อาจสามารถ อ.เมือง จ.นครพนม ได้เนรมิตให้เป็นสถานที่ปล่อยตัวนักกีฬาของกิจกรรมเดิน-วิ่ง ข้ามโขง "นครพนม-คำม่วน มาราธอน 2020"  ครั้งที่ 3 โดยบรรยากาศเป็นไปด้วยความคึกคักของนักกีฬาทั่วทั้งประเทศ  จำนวน 4,046 คน ได้สมัครเข้าร่วมกิจกรรมที่จังหวัดนครพนมร่วมกับมูลนิธิศรีโคตรบูรจัดขึ้น ภายใต้มาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด -19 อย่างเคร่งครัด

โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมสนับสนุนให้เยาวชนและประชาชนทุกเพศทุกวัยทั้งจังหวัดนครพนมและจังหวัดอื่นๆ มีความตื่นตัวในการเล่นกีฬาและออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ รวมทั้งใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์ สามารถป้องกันปัญหายาเสพติดและอบายมุข ปัญหาอาชญากรรม ปัญหาทางด้านสุขภาพ พลานามัย  และปัญหาทางด้านจิตใจ โดยใช้กิจกรรมด้านกีฬา นันทนาการ เป็นสื่อในการพัฒนา รวมทั้งส่งเสริมให้เยาวชน ประชาชน คนพิการ ผู้สูงอายุ จังหวัดนครพนมและในประเทศ ได้มีประสบการณ์ในการวิ่งมาราธอน โดยใช้กีฬาเพื่อการท่องเที่ยว และได้มีโอกาสเป็นส่วนหนึ่งในการพัฒนาคุณภาพชีวิต ประชาชน ผู้สูงอายุ ผู้บกพร่องทางร่างกาย เป็นต้น

ซึ่งรายได้หลังหักค่าใช้จ่ายจะนำไปสนับสนุนมูลนิธิศรีโคตรบูรเพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตเยาวชน ประชาชน ผู้สูงอายุ และผู้บกพร่องทางร่างกาย ให้มีสุขภาพพลานามัยที่แข็งแรงสมบูรณ์ โดยนำไปช่วยเหลือเด็กและเยาวชน คนพิการ ผู้สูงอายุ และผู้ประสบปัญหาทางสังคมต่อไป อีกทั้งยังได้สนับสนุนโรงพยาบาลนครพนม ในการจัดหาวัสดุอุปกรณ์ และเครื่องมือทางการแพทย์มาบริการประชาชน

โดยสนามจัดการแข่งขันในครั้งนี้ ได้รับการรับรองมาตรฐานจากสหพันธ์กรีฑาเอเซีย (Asian Athletics Association) แบ่งการแข่งขันออกเป็น 3 ประเภท คือ HALF MARATHON ระยะทาง 21.1 กิโลเมตร มีผู้ร่วมกิจกรรม 1,031 คน MINI MARATHON ระยะทาง 10 กิโลเมตร จำนวน 1,567 คน และ FUN RUN ระยะทาง 5 กิโลเมตร จำนวน 1,051 คน นอกจากนี้ยังมีประเภท VIP ชาย/หญิง ที่เปิดโอกาสให้ทุกคนมาเดิน-วิ่ง สัมผัสบรรยากาศที่งดงามของจังหวัดนครพนมอีกจำนวน 397 คน

การปล่อยตัวได้เริ่มขึ้นในเวลา 05.00 น. จากนั้นจะเป็นการปล่อยตัวในแต่ละรุ่น เว้นระยะห่างกัน 30 นาที สำหรับเส้นทางการวิ่ง ทุกคนจะได้วิ่งขึ้นไปสัมผัสกับบรรยากาศบนสะพานมิตรภาพไทย-ลาว แห่งที่ 3(นครพนม-คำม่วน)  ซึ่งเป็นสะพานที่ได้ชื่อว่าสวยที่สุดแห่งหนึ่งในประเทศไทย ใช้เป็นเส้นทางการคมนาคมขนส่ง ด้านการค้าและการท่องเที่ยวเชื่อมโยงจากประเทศไทยไปยังประเทศเพื่อนบ้าน ได้แก่ ลาว,เวียดนาม และประเทศจีนตอนใต้

โดยสะพานมิตรภาพไทย-ลาว แห่งที่ 3(นครพนม-คำม่วน) มีความยาวรวม 780 เมตร กว้าง 13 เมตร แบ่งออกเป็น  2 ช่องจราจร เปิดใช้อย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 11 พฤศจิกายน 2554 โดยสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงเสด็จเป็นประธานร่วมกับท่านบุญยัง วอละจิด รองประธานประเทศสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว

เมื่อนักกีฬาสัมผัสกับบรรยากาศยามเช้าบนสะพานแล้ว ก็จะเลี้ยวกลับตัวตรงเส้นแบ่งประเทศ โดยใช้กลางแม่น้ำโขงเป็นอาณาเขตไทย-ลาว  เข้าสู่เส้นทางการแข่งขันของแต่ละประเภท ซึ่งเป็นการเดิน-วิ่ง บนเส้นทางจักรยานที่อยู่ริมฝั่งแม่น้ำโขงสัมผัสกับวิถีชีวิตของคนในชุมชนและธรรมชาติที่งดงามยามรุ่งอรุณ นักกีฬาจะมองเห็นสะพานมิตรภาพฯแห่งที่ 3  ทิวทัศน์ภูเขาหินปูนน้อยใหญ่ที่เรียงรายทอดยาวตามเส้นทางการวิ่ง ไปพร้อมกับการสูดอากาศที่บริสุทธิ์และลมเย็นๆ ที่พัดขึ้นมาจากแม่น้ำโขง โดยนักกีฬาหลายคนนำครอบครัวมาร่วมกิจกรรมครั้งนี้ด้วย

ทั้งนี้ผู้ร่วมกิจกรรมทุกคนต้องมีการเช็คอิน - เอาท์ ผ่านแอพพลิเคชั่นไทยชนะ ผ่านจุดคัดกรองอุณหภูมิก่อนเข้างานและต้องสวมหน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้า หรือ Face Shied ขณะที่วิ่งจะมีจุดให้น้ำระหว่างทาง ซึ่งเป็นแบบภาชนะปิดเท่านั้นไม่มีการรินน้ำจากแก้ว เมื่อเข้าเส้นชัยแล้วนักวิ่งจะต้องแยกไปรับเหรียญหลังเส้นชัยในจุดที่กำหนดไว้ในแต่ละระยะแข่งขัน เพื่อลดการรวมตัวหน้าเส้นชัย ส่วนอาหารก็จะเป็นแบบ box set และที่สำคัญคือผู้ที่เข้าร่วมการแข่งขันจะได้รับสิทธิ์ประกันชีวิตจากงานด้วย

ในการแข่งขันครั้งนี้ มี นายศุภชัย โพธิ์สุ ส.ส.นครพนม เขต 1 พรรคภูมิใจ/รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่สอง/นายกสมาคมกีฬาจังหวัดนครพนม  นายไกรสร กองฉลาด ผวจ.นครพนม นายคมสัน นิลยองตระกูล ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดฯ นายภาสกร พุทธานุภากร ผู้อำนวยสำนักงานการกีฬาแห่งประเทศไทย  จังหวัดนครพนม (ผอ.กกท.นครพนม) นางสุภาภรณ์ นิรมาณการย์ ประธานมูลนิธิศรีโคตรบูร นายสมนาม เหล่าเกียรติ ประธานหอการค้าจังหวัดนครพนม นายธันญ์สุธี ภัคธารีรัตน์ ศึกษาธิการจังหวัดนครพนม นางสาวกนกวรรณ ดุงศรีแก้ว ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท.) สำนักงานนครพนม ฯลฯ ร่วมเปิดงานแข่งขันในครั้งนี้ ซึ่งสองปีที่ผ่านมามีนักกีฬาเข้าแข่งขัน 7-8000 พันคน แต่จากสถานการณ์โรคโควิดระบาด ทางจังหวัดนครพนมจึงลดจำนวนนักกีฬาลงให้เหลือเพียงแค่ 4,000 คนเท่านั้น โดยกิจกรรมเดิน-วิ่ง ข้ามโขง(นครพนม-คำม่วน) มาราธอน กำหนดจัดในวันอาทิตย์ที่สองของเดือนพฤศจิกายนทุกปี ดังนั้นครั้งที่ 4 จึงตรงกับวันอาทิตย์ที่ 14 พฤศจิกายน 2564