สลดใจ ! พบแล้วร่างไร้วิญญาณ "น้องเจ้าสัว" แมวน้อยถูกกู้ภัยฯ จับทิ้งป่า
10 พ.ย. 2563, 11:01
จากกรณีทาสแมวสะเทือนใจเฟซบุ๊กคุณ Suphaksana Vavichanee ได้ร้องทุกข์ผ่านโซเชียลว่า แมวหลุดออกจากบ้านวันที่ (8 พ.ย.63) และถูกกู้ภัยแห่งหนึ่งเก็บได้ แต่นำไปปล่อยป่าแทนที่จะโพสต์ผ่านโซเชียลเพื่อหาเจ้าของและรอเจ้าของติดต่อกลับสัก 1-2 วัน ทำให้เจ้าของต้องออกไปตามหาจุดที่ถูกปล่อย และภาวนาให้เจอแมวในแบบที่มีชีวิต
ล่าสุดเมื่อวานนี้ (9 พ.ย.63) เจ้าของแมวได้ประกาศว่าพบร่างของ น้องเจ้าสัว แมวน้อยที่หายไปแล้วแบบไร้วิญญาณ ซึ่งยังไม่ทราบสาเหตุว่าเกิดจากอะไร เพราะตามตัวไม่มีบาดแผล
ต่อมาเพจ มูลนิธิวอชด็อก ไทยแลนด์ Watchdog Thailand - WDT ได้แสดงความเห็นเกี่ยวกับเรื่องนี้ และเผยเหตุการณ์แบบละเอียดจากเจ้าของแมวดังข้อความด้านล่าง
"เดิม…เมื่อWDTรับทราบเรื่องราวสุดสลดนี้ ก็ยังคิดว่าเป็นเรื่องที่กู้ภัยทำหน้าที่ตามปกติของตนตามการร้องเรียนของประชาชน บวกกับการอ้างว่า ไม่ได้นำแมวไปปล่อยป่า แต่ปล่อยไว้ห่างจากหมู่บ้าน 300 เมตร
การแจ้งความกล่าวหาของเจ้าของต่อกู้ภัย จึงคิดว่า ไม่น่าจะมีความผิด เพราะไม่ใช่ "เจตนาทารุณกรรมสัตว์"
แต่หลังจากเปิดเผยข้อเท็จจริง ได้เห็นสถานที่ที่นำแมวไปปล่อย
วิธีการจับแมวใส่กระสอบ และการใช้วิจารณญาณในฐานะอาสาสมัครกู้ภัยที่ควรจะได้รับการอบรมวิธีการและแนวทางการช่วยเหลือทั้งคนและสัตว์
ที่มันเข้าทารุณกรรมสัตว์ก็เพราะ การเปลี่ยนแปลงถิ่นที่อยู่เดิมของสัตว์โดยน้ำมือมนุษย์ คือนำสัตว์ไปปล่อยในสถานที่ที่ไม่มีสวัสดิภาพสัตว์
ไม่ว่าจะเป็นหมาแมวจรหรือหมาแมวมีเจ้าของก็ผิดทั้งเพครับ
#ไม่มีข้อยกเว้นว่าประชาชนหรือเจ้าหน้าที่รัฐหรือเอกชนไม่รู้กฏหมาย
และแล้วในที่สุดชะตากรรมของสัตว์ที่ถูกนำไปปล่อยทิ้งในสถานที่ที่ไม่มีสวัสดิภาพสัตว์ที่เหมาะสมก็เป็นเช่นทุกชีวิตที่เคยเป็นมา…คือตาย !
เสียงกรีดร้องของเจ้าของที่สุดแสนเจ็บปวดทรมาน
พาให้หัวใจทุกดวงของคนรักสัตว์เจ็บปวดสะเทือนใจตามไปด้วย
WDT ให้เจ้าของที่แจ้งเรื่องร้องเรียนขอคำปรึกษาการดำเนินการ
นำร่างไร้ชีวิตที่อ่อนปวกเปียก เนื้อตัวเปียกปอนเต็มไปด้วยโคลน
นำส่งแช่แข็งที่โรงพยาบาลสัตว์กรุงศรีฯ รอผลการผ่าชันสูตรหาสาเหตุการเสียชีวิตอย่างละเอียด เป็นหลักฐานประกอบการดำเนินคดี หลังเจ้าของเข้าแจ้งความไว้ที่ สภ.บางปะอิน อยุธยา
#ส่วนเรื่องใครผิดถูกใครทำอะไรอย่างไรสมควรหรือไม่สมควรทำ
WDT เชื่อว่าสังคมที่ได้รับทราบเรื่องราวนี้ได้ใช้วิจารณญาณกันอย่างเต็มที่แล้วในเวลานี้
อ่านความในใจจากเจ้าของครับ
"เหตุการณ์เกิดวันที่ 8 พฤศจิกายน 2563 ครอบครัวเราได้เดินทางไปพักผ่อนต่างจังหวัดที่สระบุรีเป็นเวลา 2 วัน 1 คืน ปรากฏว่าไม่มีสัญญาณอินเทอร์เน็ตจึงไม่สามารถดูน้องผ่านกล้องได้เหมือนปกติที่เคยดู
เราออกจากที่พักเวลาประมาณ 14:00 น.พอออกจากที่พักบีมก็เปิดกล้องดูน้องตามปกติ ปรากฏว่าไม่เห็นน้องเจ้าสัวอยู่ในกล้อง
จึงย้อนดูกล้องตั้งแต่เช้าจึงได้รู้ว่าน้องเจ้าสัวไม่ได้อยู่ในกล้อง
จึงรบกวนพี่บ้านข้างๆให้ไปดูหน้าบ้านให้หน่อยว่าหน้าต่างเปิดออกไหม
ซึ่งน้องอายุ 2 ขวบพฤติกรรมไม่เคยออกจากบ้าน ไม่เคยเปิดหน้าต่างได้เลย
ปรากฏว่าวันนั้นหน้าต่างเปิดออกจริงๆ ซึ่งก่อนหน้านี้จะมีแมวมาก่อกวนเจ้าสัว เพราะตอนนี้น้องเจ้านางลักษณะเป็นสัตว์ แต่เจ้าสัวเป็นตัวผู้และน้องเจ้าสัวทำหมันตอนแล้ว ด้วยความที่อาจจะอยากรู้หรือดลใจให้หน้าต่างเปิดออกอันนี้บีมไม่ทราบ น้องจึงหลุดออกจากบ้านไป
พี่ข้างบ้านแจ้งว่าบ้านข้างๆได้แจ้งอาสาสมัครของอำเภอบางปะอินมาจับเจ้าสัวไปในเวลาประมาณ 15:00 น พี่ข้างบ้านจึงออกไปตามหาให้แล้วพบแต่ถุงปุ๋ยอยู่ในสถานที่ที่เขานำไปปล่อย
คนที่แจ้งจับน้องพูดว่าน้องมีพฤติกรรมแค่ขู่ไม่ได้กัดหรือทำร้ายซึ่งเป็นพฤติกรรมปกติของเจ้าสัวเวลาที่กลัว ตกใจและตื่นคนแปลกหน้า
เขาบอกว่ากู้ภัยนำถุงกระสอบมา 1 ถุงแล้วจับเจ้าสัวยัดใส่กระสอบ
อาสามา รถยนต์ 1 คันมอเตอร์ไซค์ 1 คัน ซึ่งมาทราบทีหลังว่ารถมอเตอร์ไซค์ไม่ได้ไปกับรถยนต์
ซึ่งรถยนต์ที่ขับ ผู้ขับคือผู้ที่นำแมวไปปล่อยที่ป่าข้างทาง
บีมขับรถมาถึงบ้านก็รีบตามหาน้อง ปรากฏว่าไม่พบน้อง
บีมจึงโทรแจ้งหน่วยอาสา ทางหน่วยรับเรื่องแล้วพูดปฏิเสธบอกว่าไม่ว่างมาช่วยเหลือ บีมจึงพูดกลับไปประมาณว่าน้องไม่รู้หรอว่าแมวมีเจ้าของ
ลักษณะแบบนี้น้องทำไมไม่เก็บเขาไว้ตามหาเจ้าของ
ทางศูนย์อาสาสมัครจึงพูดขึ้นมาว่าเขาไม่สามารถรู้ได้ว่าแมวมีเจ้าของหรือไม่มีเจ้าของ เขาบอกว่าแมวบีมเป็นแมวจร เพราะทางบ้านที่แจ้งบอกว่าแมวไม่มีเจ้าของ หลังจากนั้นบีมแฟนและเพื่อนกลุ่มบีมจึงได้ออกตามหาน้อง
อีกประมาณ 3 ชั่วโมงจนถึงมืดก็ไม่พบตัว
บีมจึงได้โทรตามอาสาที่เขานำแมวมาปล่อยให้เขาช่วยมาชี้จุดให้หน่อย
เขาพูดแค่เขาสามารถช่วยชี้จุดได้ แต่เขาไม่สามารถช่วยตามหาได้
ตอนนั้นบีมโมโหมากเลยโพสต์ขึ้นหน้า facebook แท็กชื่อมูลนิธิพุทไธสวรรย์บางปะอิน เรื่องราวเลยเกิดขึ้น
พอบีมได้เจอกับฝั่งอาสาที่นำแมวไปปล่อยเขาพูดอย่างเดียวว่าเขามีหน้าที่แค่จับแมวออกมาจากบ้านแต่เขาไม่รู้ว่าเขาจะต้องนำแมวเอาไปไว้ที่ไหนคืออันนี้บีมงงมากค่ะ
ขั้นตอนของอาสาสมัครคือ แค่จับแมวออกไปจากบ้านให้พ้นจากบ้านที่เดือดร้อน แต่ทำไมคุณถึงไม่ตามหาเจ้าของแมวเก็บแมวไว้ก่อนหรือให้แมวอยู่ในที่ปลอดภัยแต่คุณนำไปปล่อยป่า ซึ่งเขานำไปปล่อยเวลาประมาณ 15:00 น.
บีมกลับถึงบ้านมาประมาณ 16:00 น ก็ไม่เจอน้องแล้ว มันคลาดกันนิดเดียว
เจ้าของบ้านที่แจ้งจับ เขาบอกว่าเขาเข้าออกบ้านไม่ได้เจ้าสัวขู่เขาตลอด
เขากลัวค่ะ แต่เจ้าสัวไม่ได้กัดนะคะ เจ้าสัวแค่ขู่ เมื่อเช้าบีมไปคุยกับเจ้าของบ้านที่แจ้งจับเจ้าสัวแล้วค่ะ
ตอนพี่ที่โทรมาบอกว่าแมวอยู่กับกู้ภัย บีมรู้สึกปลอดภัยนะคะ
นึกว่าน้องอยู่ที่ปลอดภัยแล้ว คิดว่าลำดับขั้นตอนต่อไปเขาคงตามหาเจ้าของแต่ไม่ใช่ค่ะเขาเอาไปปล่อยป่า
พฤติกรรมของหน่วยอาสากู้ภัยชุดนี้ไม่มีมีวุฒิภาวะที่จะเป็นหน่วยกู้ภัยค่ะ
เจอกันไม่เคยพูดดีกับเราเลย ขึ้นเสียงไม่ฟังเหตุผล เอาเราไปโพสประจาน
เอาเราไปพูดว่าร้าย ข่มขู่จะทำร้าย""